แบงก์ชาติ คุมเข้ม แอปฯธนาคารล่ม ได้ไม่เกิน 8 ชม.ต่อปี มีโทษเริ่มจากตักเตือน โทษปรับสูงสุด 5 แสนบาท ถ้าไม่แก้ไขเจอปรับรายวัน 5,000 บาท เริ่ม พ.ย. นี้
หลังจากแอปฯ ธนาคารแห่งหนึ่งล่ม ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย แจ้งต่อสื่อมวลชน ว่า นายภิญโญ ตรีเพชราภรณ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ระบุว่า ภายในเดือน พ.ย.นี้ ธปท.จะมีการออกแก้ไขประกาศ เรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแลความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของสถาบันการเงินและสถาบันการเงินเฉพาะกิจ โดยได้ระบุถึงบทลงโทษหากระบบขัดข้องนานเกินที่กำหนด ซึ่งได้กำหนดว่าระบบโมบายแบงก์กิ้ง ล่มหรือขัดข้องได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมงใน 1 ปี
นายภิญโญ ระบุว่า แต่ถ้าหากล่มนานเกิน 8 ชั่วโมงต่อปี ทางแบงก์ชาติจะมีบทลงโทษตามระดับความรุนแรงเริ่มจากตักเตือน สั่งให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไข จนโทษสูงสุดคือโทษปรับสูงสุด 500,000 บาทต่อครั้ง และหากไม่ดำเนินการแก้ไขจะปรับเพิ่ม 5,000 บาทต่อวัน
นายภิญโญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า หากพิจารณาจากระบบสถิติเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารพาณิชย์ขัดข้อง เมื่อทำการตรวจสอบดาต้าพบว่าธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งพบว่ามีอัตราการขัดข้อง หรือระบบโมบายแบงก์ล่มลดน้อยลงเป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่าต่อจากนี้การปรับปรุงประกาศการกำกับความเสี่ยงด้านไอทีนั้น จะช่วยให้ธนาคารเร่งพัฒนาระบบและการขัดข้องของโมบายแบงก์กิ้งลดน้อยลงกว่าเดิม
ทั้งนี้ จากสถิติเทคโนโลยีสารสนเทศย้อนหลังของระบบธนาคารพาณิชย์ขัดข้อง พบว่าข้อมูลไตรมาส 3/2566 ที่เพิ่งออกมาล่าสุด หากดูโมบายแบงก์กิ้งขัดข้องรวมกันมี 4 ครั้ง ระยะเวลารวม 4 ชั่วโมง น้อยกว่าไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไตรมาสก่อนหน้าที่มีการขัดข้องของโมบายแบงก์กิ้ง 6 ครั้ง รวมกันนานถึง 11 ชั่วโมง โดยไตรมาส 3 มีธนาคารโมบายแบงก์กิ้งขัดข้อง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ 2 ครั้งนาน 1 ชั่วโมง ธนาคารทหารไทยธนชาต 1 ครั้ง นาน 1 ชั่วโมง และธนาคารกรุงเทพ 1 ครั้งนานน้อยกว่า 1 ชั่วโมง
นายภิญโญ ระบุว่า เมื่อเทียบไตรมาส 2 ก่อนหน้านั้น มีระบบโมบายแบงก์กิ้งธนาคารพาณิชย์ขัดข้อง รวมกัน 5 แห่ง ได้แก่
ส่วนระบบธนาคารพาณิชย์อื่นๆ ในไตรมาส 3 ปี 66 มีเพียงสาขาของธนาคารเกียรตินาคินภัทรเท่านั้นที่ขัดข้อง 1 ครั้งนาน 2 ชั่วโมง นอกเหนือจากนั้นทั้งอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้งและตู้เอทีเอ็มไม่มีการขัดข้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง