บรรยากาศ แรงงานไทยที่อพยพหนีภัยสงครามจาก อิสราเอล พบหน้าครอบครัวและกลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวอีกครั้ง หลังเดินทางมาถึงโรงแรมเอสซีปาร์ค กรุงเทพ
แรงงานกว่า 100 คนชุดนี้ เดินทางออกจากกรุงเทลอาวีฟ ของอิสราเอล ราว 20.00 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลไทยจัดเตรียมไว้ ก่อนจะลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี จากนั้นเดินทางด้วยรถบัสเที่ยวพิเศษต่อมายัง กรุงเทพมหานคร อย่างปลอดภัย
ครอบครัวชาวชลบุรีครอบครัวหนึ่ง กอดกัน ลูกร้องไห้โฮ เล่าว่า ฮามาส บุกเข้ามา ต้องช่วยกันหาสิ่งของมาดันประตูไว้ ต้องหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคา เพื่อเอาตัวรอด ในกลุ่มไม่ใครบาดเจ็บ อยากกลับบ้านอย่างเดียวไม่อยากกลับไปเเล้ว
" ปีที่เเล้วมีการยิง เเต่มีการเตือนล่วงหน้า เเต่ครั้งนี้ ไม่มีการเเจ้งเตือน ถือว่าการให้ความช่วยเหลือ รวดเร็ว ทุกคนที่ประสบปัญหาอยากกลับทุกคน เดินทางไปทำงานช่วงเศรษฐกิจ ไปหาเงินเพื่อครอบครัว "
แรงงานไทยคนดังกล่าว บอกอีกว่า ต้องขึ้นไปหลบบนหลังคา 3 วัน ขึ้นไปแอบกัน ไม่ได้กินข้าว ไม่ได้ขับถ่าย อยู่กันอย่างลำบาก จนมีทหาร เข้าไปช่วยออกมาได้ โดยไม่ได้ไม่เล่าให้เเม่ฟัง กลัวจะเป็นห่วง บอกเพียงว่าตัวเองปลอดภัยดี การตัดสินใจกลับครั้งนี้ ตัดสินใจเอง เเต่ทางบ้านก็อยากให้อยู่ แต่อยู่ก็ทำงานไม่ได้
ด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีความกังวลมาก คือ จะหาวิธีอย่างไรเพื่อให้ได้เครื่องบินเพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่ได้มีการประสานเอาไว้ ซึ่งมีสายการบินนกแอร์ 2 ลำ แอร์เอเชีย 2 ลำ และการบินไทย 1 ลำ และกองทัพอากาศ 1 ลำ
ซึ่งขณะนี้สามารถเดินทางกลับมาได้ทีละ 200 คน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องเอกสารพาสปอร์ตหล่นหาย ขณะหลบหนีไปอยู่ที่บังเกอร์ ทั้งนี้ทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการเตรียมพาสปอร์ตสำรองไว้ 8,000 เล่ม โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ เพื่อให้ทุกคนกลับมายังประเทศไทยได้ หลังจากนี้ในช่วงต้นที่กลับมาได้เพียง 200 คน ซึ่งภายใน 3-4 วันจะสามารถนำแรงงานชาวไทยกลับมาถึงวันละ 400 คน
เมื่อคืนนี้กระทรวงแรงมีการส่งเจ้าหน้าที่ผู้มีความรู้ที่เคยอยู่ในประเทศอิสราเอล กลับไปช่วยเหลือเพิ่มอีก 5 คน และทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้ส่งไปอีก 10 คน ตนจึงมั่นในว่าทั้งในเรื่องของเอกสารหรือการเตรียมความพร้อมการอพยพ จะมีความรวดเร็วขึ้น ทำให้เชื่อว่าผู้ลงทะเบียนทั้ง 7,000 คน จะสามารถกลับมาถึงประเทศไทยได้ทั้งหมดภายในต้นเดือนหน้า (พฤศจิกายน) นี้
นอกจากนี้สำหรับรายงานไทยที่ทำงานยังไม่ครบสัญญาและเดินทางกลับมาประเทศไทยนั้น โดยทางกระทรวงแรงงาน พร้อมจะช่วยเหลือ ประสานงานกับทางเอเจนซี่ หรือนายจ้างที่ประเทศอิสราเอล หากเหตุการณ์สงบเรียบร้อย แล้วต้องการจะกลับไปทำงานใหม่ ทางกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะปลัด ก.แรงงานพร้อมจะสนับสนุน แต่หากไม่เดินทางกลับประเทศอิสราเอล ขอให้แจ้งเจตจำนงค์มาเพื่อให้ทาง ก.แรงงาน หาที่ทำงานใหม่ในประเทศอื่น ส่วนรายได้จะมากกว่าเดิมหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ นอกจากนี้ผู้ที่ยังไม่ได้ ลงทะเบียนขอกลับมานั้น หากรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยขอให้แจ้งมาที่กระทรวงแรงงานได้อีกด้วย
ทั้งนี้อยากฝากถึงเพื่อนๆชาวแรงงานไทย ที่กำลังดูข่าวอยู่ ขอให้หลบอยู่ในที่ปลอดภัย และ เชื่อฟังทางการอิสราเอล ที่มีประกาศออกมาเป็นระยะ
สำหรับผู้เสียชีวิตทางการอิสราเอลจะทำการชดเชยให้โดยจะดูแลภรรยาผู้เสียชีวิตโดยมอบเงินไม่ให้เดือนละประมาณ 35,000 บาทจนกว่าจะภรรยาจะแต่งงานใหม่หรือมีสามี และมอบให้บุตรเดือนละประมาณ 11000 บาทจนกว่าอายุ 18 ปี ส่วนแรงงานไทยผู้ที่บาดเจ็บจะมอบให้รายละ 15,000 บาท เสียชีวิต 40,000 บาทและเงินค่าทำศพอีก 40,000 บาท
อย่างไรก็ตาม คนที่อยากจะกลับไปใหม่อีกครั้งนึง กระทรวงแรงงานได้แจ้งนายกฯ ว่าหากใครยังทำงานไม่ครบสัญญา และอนาคตอยากกลับไปทำงานในต่างประเทศต่อ ขอให้สบายใจได้กระทรวงแรงงานจะทำหน้าที่ประสาน เมื่อเหตุการณ์สงบจะนำท่านกลับไปในอิสลาเอล หรืองานในประเทศอื่นๆ ที่มีรายได้ใกล้เคียงหรือน้อยกว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อให้ไปทำงานต่อ เพราะรัฐบาลเข้าใจว่าทุกคนที่ไปก็มีหนี้สิน ฉะนั้นหากประสงค์ก็ขอให้แจ้งกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงานได้ ส่วนใครที่จ่ายค่าตัวเองก็ขอให้เก็บตั๋วไว้รัฐบาลจะรับผิดชอบดูแล
ส่วนวันนี้ใครเมื่อกลับมาแล้ว ยังไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ แพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ แจ้งไว้ว่า หากใครยังไม่สะดวกเดินทางกลับก็แจ้งความประสงค์ แพทองธาร จะดูแลเรื่องที่พักให้ในเบื้องต้น อย่างไรตนขอให้กำลังใจทุกคนและหากมีอะไรขาดเหลือก็ขอให้ประสานไปที่กระทรวงแรงงาน เพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะผู้สูญเสีย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องให้กำลังใจกับคนที่อยู่ภายหลัง
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กล่าวแสดงความเสียใจกับแรงงานไทยที่ทราบว่าวันนี้เสียชีวิต 28 คน บาดเจ็บเกือบ 20 คน ย้ำว่าการที่แรงงานไทย กลับมาอย่างปลอดภัยเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องการมากที่สุด ส่วนคนที่ถูกจับตัวประกัน รัฐบาลพยายามหาทางช่วยเหลืออย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้จะมีการเข้าไปช่วยเหลือในเรื่องของหนี้สินของแรงงานโดยจะ รวบรวมข้อมูลเนื่องจากทราบดีว่าแรงงานบางส่วนต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อไปทำงานซึ่งจะให้ความเป็นธรรมโดยเฉพาะเรื่องหนี้สินนอกระบบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง