บิ๊กโจ๊ก เผย สอบปากคำพยานคดียิงสารวัตรทางหลวงครบแล้ว พบตำรวจเพิ่มอีก 1 รวม 56 ราย เร่งแกะรอยเส้นทางการเงิน โยงส่วย-ฮั๊วประมูล รอข้อมูลเพิ่มเติมหลัง พร้อม สั่ง ราชทัณฑ์ ดูแลกำนันนก หวั่นเครียด ฆ่าตัวตายพร้อมกำชับ ผบช.น.ให้ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่าให้คุกคามสื่อ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมติดตามความคืบหน้าคดียิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตงานเลี้ยงบ้านกำนันนกโดยระบุว่า ขณะนี้ ความชัดเจนเรื่องเซฟเวอร์กล้องวงจรปิด ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไร สามารถกู้ได้ แต่ตอนนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ผลการกู้เสร็จวันพฤหัสนี้ และวันนี้สอบปากคำตำรวจและประชาชนที่เกิดเหตุครบหมดแล้ว โดยพบว่าที่เกิดเหตุมีพยานเป็นตำรวจเพิ่มทาอีก 1 นาย ทำให้มีตำรวจทั้งหมด 29นาย และประชาชน 28 คน รวม ทั้งหมด 56 คน
ส่วนจะออกหมายจับใครบ้างนั้น ขณะนี้ยังข้อมูลจากเซฟเวอร์กล้องวงจรปิดก่อน ไปประกอบกับรายงานการสืบสวนก่อน เพื่อจะนำไปสู่การขอศาลอนุมัติหมายจับเพิ่มเติมได้ทันที ส่วนเส้นทางการเงิน ขณะนี้ยังมาไม่ครบวันนี้ เพราะยังรอเส้นทางการเงินอยู่อีก โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็ว ที่สุด
โดยในวันนี้ ได้เชิญแม่บ้าน ที่พบความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเส้นทางการเงินมาสอบแล้ว ซึ่งเบื้องต้นได้มาตรวจสอบบัญชีการเงินว่าเอาไปใช้อะไรอย่างไรบ้าง เพื่อตรวจสอบเรื่องของการจ่ายส่วย และวันนี้ ชัดเจนว่า พบเส้นทางการเงินหน่อง มีการโอนยิงตรงไปที่ตำรวจ ส่วนเป็นใครบ้างอยู่ในสำนวน และจะต้องไล่เรียงต่อ
รวมถึงจะต้องขยายเครือข่ายกิ่งก้านสาขากำนันนก โดยจะทำร่วมกับกรมบัญชีกลาง ด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ข้อมูลมาแล้ว หลังจากนี้จะประสานกับ สตง.เพื่อเข้ามาไล่เรียงทั้งหมดเพิ่มเติม รวมถึงธุกิจผิดกฎหมายจะต้องมาไล่เรียงด้วยว่าใครเกี่ยวพันบ้าง ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามาร่วมตรวจสอบเรื่องการฮั้วประมูลด้วย แต่ไม่ได้ตั้งเป็นคดีพิเศษ ยังให้ตำรวจดำเนินการ
ซึ่งเรื่องการฮั้วประมูลหรือไม่นั้น ยังต้องรอข้อมูลก่อน ถ้าได้ข้อมูลมาจะเห็นภาพทั้งหมด ตอนนี้ข้อมูลการสืบสวนมีแล้วรอข้อมูลทางเอกสารมาเพิ่มเติม และยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีหน่วยงานรัฐ หรือเจ้าหน้าที่รัฐไหนเกี่ยวข้องบ้าง
ส่วนกำนันนก ตนเองได้ฝาก อธิบดีราชทัณฑ์ในการ ดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษด้วย แต่การปฏิบัติเท่าเทียมกันไม่มีสิทธิพิเศษ และไม่ทราบชีวิตความเป็นอยู่ภายในเรือนจำว่าเป็นอย่างไร แต่เท่าที่คุย กำนันนก ใช้สิทธิเหมือนคนอื่นไม่มีการใช้สิทธิพิเศษ
โดยเหตุผลที่สั่งดูแลความปลอดภัย เพราะกลัวเครียดและคิดสั้น วันนี้จึงฝากกรมราชทัณฑ์ดูแลให้ดีเรื่องสุขภาพจิต เพราะคนไม่เคยติดคุกก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา ขนาดตำรวจยังเครียดเลย ส่วนเรื่องความปลอดภัยใครจะไปฆ่าเขาทำร้ายเขาไม่มีหรอก วันนี้อยู่ในเรือนจำก็มีความปลอดภัยอยู่แล้ว และวันนี้ครอบครัวเขาก็ไม่ได้มีการไปร้องขออะไร และไม่มีเรื่องของการข่มขู่ ส่วนโซเชียลเป็นเพจอวตาร
ส่วนกรณีเรื่องวิ่งเต้นให้ กำนันนก ออกจากเรือนจำเพราะปัญหาสุขภาพนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนเองไม่ทราบเพราะไม่ได้มาวิ่งเต้นที่ตนเอง และแน่นอนว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย และวันนี้มีการค้านการประกันตัวไม่ได้ออกต้องอยู่แบบนี้ และทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการ วันนี้ต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมายเป็นจังหวัดที่ปราบอิทธิพล และหากมีจังหวัดไหนก็จะต้องจัดการ ทั้งนี้ ถ้าผู้การ ผู้กำกับ จังหวัดไหนไม่มีวุฒิภาวะไม่มีศักยภาพก็ต้องไม่อยู่ ถึงขนาดที่จะให้ผู้บัญชาการมาจัดการเอง ก็คงไม่ต้องมีผู้การ และผู้กำกับ
ประเด็นเรื่อง กำนันนก มี 2 ช่วง ช่วงแรก กับช่วงหลังประชุมประเด็นว่าทำไมต้องสั่งดูแลเป็นพิเศษ เพราะกลัวเครียดแล้วคิดสั้น
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังพูดถึงกรณีการเสียชีวิตของ ผู้กำกับเบิ้ม ด้วยว่า วันนี้สังคมตั้งคำถามเยอะเรื่องการเสียชีวิต จึงได้สั่งทำอย่างตรงไปตรงมา วันนี้ต้องตรวจสอบให้ได้ว่าการตายเกิดจากการฆ่าตัวตายหรือทำให้ตายและวันนี้รายงานผลพบคราบเขม่า แต่ก็มีคำถามเรื่องโทรศัพท์หายไปไหน ตนก็จะไล่ย่อนหลังไปตั้งแต่ตี 3 ตี 2 โทรศัพท์ไปอยู่ที่ไหน จะต้องไล่ทำให้สังคมเห็นว่าไม่ใช่การฆ่าตัดตอนเป็นการเสียชีวิตด้วยการทำตัวเอง โดยต้องเร่งเรื่องการสืบสวนและผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อตอบคำถามให้ได้
ส่วนกรณีที่มีตำรวจระดับผู้กำกับข่มขู่ยิงนักข่าวนั้น ขณะนี้ทราบแล้วว่าเป็นใครถ้านักข่าวต้องการจะร้องทุกข์ก็ให้มาแจ้งที่ตนเองได้จะได้ดำเนินคดี และอีกส่วนหนึ่งตนเองได้โทรกำชับ ผบช.น.ให้ไปกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดีอย่าไปคุกคามสื่อมวลชนอีก เพราะที่เกิดขึ้นอาจจะเครียด ส่วนจะมีการมาพูดคุยเจรจากันได้หรือไม่นั้น มองว่า ทำได้ให้มาพูดคัยกันเพื่อไม่ให้ผิดใจกัน
ส่วนกรณี กระแสข่าวมีตำรวจในคดีปลิดชีพตัวเอง หลังเกิดความเครียด พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง และขอให้ประชาชนเสพสื่ออย่างมีวิจารณญาณ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง