บิ๊กโจ๊ก เร่งตรวจสอบ บริษัทกำนันนก ฮั้วประมูลหรือไม่ ระบุ พบเส้นทางการเงินโอนให้ตำรวจทั้งที่อยู่ในงานเลี้ยงและไม่ได้มาในงานเลี้ยง ยันมีตำรวจถูกดำเนินคดีอีกแน่ ส่วน การเสียชีวิตของ ผู้กำกับเบิ้มรอผลนิติวิทยาศาสตร์ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ระบุเป็นการฆ่าตัวตาย
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผยภายหลังจากการประชุมติดตามความคืบหน้าคดียิงตำรวจสารวัตรทางหลวงเสียชีวิตที่งานเลี้ยงบ้านกำนันนก ถึงการตรวจสอบธุรกิจกำนันนกว่ามีส่วนเกี่ยวกับการฮั้วประมูลโครงการต่างๆหรือไม่ ว่า ในส่วนของรายได้การทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย วันนี้ก็จะไล่ตรวจสอบให้หมด ซึ่งเบื้องต้นมีข้อมูลบริษัทของกำนันนกทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงบางส่วนที่ต้องสอบเพิ่มเติม ถ้าเข้าข่ายความผิดส่วนไหน ก็จะใช้มาตรการยึดทรัพย์สินรวมถึงตรวจสอบงานเลี่ยงภาษี และเรื่องการฟอกเงินด้วย
เบื้องต้นการสอบสวนว่ามีเรื่องฮั้วประมูลหรือไม่นั้น ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด แต่พบว่า มีเส้นทางการเงินที่จ่ายให้กับตำรวจ ซึ่งส่วนนี้อาจจะต้องแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ซึ่งตำรวจที่รับเงินมีทั้งตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์วันเกิดเหตุยิงสารวัตรทางหลวงเสียชีวิต และตำรวจนายอื่นที่ไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงนั้น ส่วนเส้นทางการเงินที่พบเป็นเรื่องของส่วนของบริษัททำธุรกิจฮั้วประมูลหรือส่วย ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ จเรตำรวจมีการสั่งให้สอบสวนบุคคลที่อยู่ในกลุ่มของทางหลวง มองว่า เรื่องส่วย ก็เป็นหน้าที่ของจเรตำรวจที่ต้องสอบผู้ที่เกี่ยวข้องส่วนการสืบสวนสวนคดี หากมีความเชื่อมโยงกันก็อาจจะทำงานร่วมกัน
ส่วนที่พบกำนันนกอาจเกี่ยวกับออนไลน์ กำลังไล่ดูว่ามีการทำเรื่องพนันออนไลน์หรือไม่ เนื่องจากทรัพย์สินของกำนันนกมีรายได้มากผิดปกติที่ต้องตรวจสอบ แต่ยังไม่ยืนยันว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์
ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า บริษัทของกำนันนกมีโครงการที่ทำธุรกิจอยู่ในพื้นที่นครปฐมจำนวนมาก ต้องเรียกนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่นั้นเข้ามาสอบด้วยหรือไม่ มองว่า ก็จำเป็นที่ต้องเรียกมาสอบ หากพบความผิดปกติ
ส่วนขณะที่ธุรกิจรถ 10 ล้อของกำนันนก อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีเป็น 100 คันอย่างที่มีกระแสข่าวไปหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังตรวจสอบยังไม่พบข้อมูลถึงขนาดนั้น
น.พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังอีกระบุว่า วันนี้ชุดสอบสวนสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องทำให้พบว่ามีบุคคลในงานเพิ่มเติมอีก เป็นบุคคลภายนอกที่เป็นพลเรือนจากเดิม 10 คน วันนี้เพิ่มมาอีก 17 คนเป็น 27 คน ส่วนตำรวจเพิ่มมาอีก 2 คน จาก 26 คน ทำให้รวมตำรวจในที่เกิดเหตุเป็น 28 คนโดยในวันพรุ่งนี้จะต้องการสอบปากคำก็ต้องสอบปากคำต่อ
ส่วนเรื่องเซฟเวอร์กล้องวงจรปิด อยู่ระหว่างการถอดจะต้องใช้เวลาดำเนินการคาดว่าไม่เกินวันพฤหัสที่ 14 ก.ย. จึงจะดูเซฟเวอร์ได้ และเซฟเสอร์ไม่ได้รับความเสียหายอะไรหลังจากพิสูจน์หลักฐานเก็บมาจากจุดที่เอาไปทิ้ง
ทั้งนี้ สำนวนคดีการจะมัดตัวกำนันนก ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ แต่หลังจากนี้ย้ำว่า จะต้องไล่ธุรกิจกำนันทั้งหมด ทั้งรับเหมาก่อสร้างและการทำออนไลน์ เพื่อหาความจริง ถ้าเข้าความผิดมูลฐานจะใช้มาตรการยึดทรัพย์และตรวจสอบภาษี
ส่วนจะแจ้งข้อหาใครบ้างหลังจากนี้นั้น จะต้องสอบปากคำพยานก่อน ให้เสร็จ และจัดกลุ่มแต่ละบุคคล และรอการเปิดเซฟเวอร์ก่อน ก็จะทำให้ความจริงกระจ่างว่าใครทำอะไรบ้าง วันนี้ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดยังให้การไม่ตรงกับความจริง แต่จะหาความจริงจากการสอบปากคำได้อย่างแน่นอน แต่ยืนยันว่าจะมีตำรวจถูกดำเนินคดีอีกแน่นอน
รวมถึงวันนี้ยังมีการสอบปากคำเลขานายก อบจ.นครปฐมด้วย โดยเขายอมรับในข้อเท็จจริงว่ามาร่วมงานวันเกิดเหตุ แต่กลับก่อนเกิดเหตุ
ส่วนคดีของผู้กำกับเบิ้ม ที่ยิงตัวเองเสียชีวิต วันนี้นิติเวชได้ตรวจหลักฐาน เขม่าดินปืน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว พรุ่งนี้จะสรุปว่าการตายเกิดจากอะไร แต่วันนี้เห็นที่เกิดเหตุระบุได้ว่า เป็นการยิงตัวตาย โดยหลังจากนี้จะตรวจสอบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้สิ้นประเด็นที่สงสัย
โดยพรุ่งนี้ จะได้หลักฐานทั้งหมดว่าเวลาตายเวลาเท่าไร ยิงยังไง ส่วนประเด็นพบสัญญานโทรศัพท์มือถือผู้กำกับเบิ้มอยู่พื้นที่อื่น กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้ และจะต้องไล่กล้อง และหลักฐานต่างๆ เพื่อให้สิ้นสงสัยทั้งหมด
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า เท่าที่เห็น ผู้กำกับเบิ้ม มีความเครียดแต่ไม่ทราบว่าเครียดขนาดไหน และตำรวจก็ที่ไปร่วมงานก็เครียดทุกคน แต่วันนี้ก็กำชับผู้บังคับบัญชาแล้วว่า จะต้องไปดูลูกน้องตัวเอง หากพบมีความเครียดให้เอาเข้าบำบัดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง