ตร.ยืนยันความพร้อมแผนรับ "ทักษิณกลับไทย" ไม่กังวลใจ และยังไม่มีการข่าวมือที่สาม ทั้งนี้อยู่ระหว่างประเมินมวลชนรอรับ พร้อมจัดกำลังโดยรอบ ส่วนพื้นที่ในสนามบิน การท่าอากาศยานเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
จากกรณีที่ “อุ๊งอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหว โพสต์สตอรี่บนอินสตาแกรมส่วนตัว @ingshin21 ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับไทย โดยระบุว่า "อังคารที่ 22 สิงหาคม 9.00 น. ณ ดอนเมือง จะไปรับคุณพ่อทักษิณค่ะ" ซึ่งก่อนหน้านี้ “อุ๊งอิ๊งค์” เคยประกาศว่าคุณพ่อ "นายทักษิณ ชินวัตร" เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 10 สิงหาคม 2566 แต่ต้องเลื่อนด้วยสาเหตุหมอเรียกให้ไปตรวจร่างกาย
ล่าสุด พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ระบุว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรับตัวนายทักษิณกลับมาดำเนินคดี ภายหลังจากการประชุมแจ้งทุกหน่วยงาน ก็ไม่มีความกังวลใจ อีกทั้งยังไม่มีการข่าวเรื่องมือที่สามแต่อย่างใด ทั้งนี้ในส่วนของการเตรียมความพร้อม ถือเป็นการปฏิบัติตามปกติ ยังไม่มีการซักซ้อมเพื่อเตรียมรับตัวแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เปิดไทม์ไลน์ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชี้ ทักษิณกลับไทย ล่าสุด บอก 22 ส.ค. ไม่เพ้อเจ้อ
• จับตา ทักษิณกลับไทย ย้อนดูแผนก่อนหน้านี้ ดอนเมืองสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
• ด่วน! อุ๊งอิ๊งค์ ประกาศเตรียมรับ"ทักษิณ"กลับไทยที่ดอนเมืองอังคารนี้ 9 โมง
ส่วนเรื่องที่อาจจะมีประชาชนเตรียมารอรับนายทักษิณนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประเมินว่าจะมีมวลชนมารอรับมากน้อยเพียงใด แต่ก็มีการเตรียมความพร้อมเรื่องกำลังเจ้าหน้าที่ไว้แล้วโดยรอบ ส่วนภายในอาคารสนามบิน ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด เป็นการจัดการของการท่าอากาศยานที่มีการเตรียมความพร้อมในส่วนนี้อยู่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้มีการเรียกประชุมเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัยในวันที่ ทักษิณกลับบ้าน โดยยังคงใช้วิธีการเดิมที่เคยประชุมไว้เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา เป็นการเตรียมแผนวางกำลังรักษาความปลอดภัย และเส้นทางการเดินทางทั้งเส้นทางหลัก และเส้นทางรอง โดยผู้รับผิดชอบในบก. และสน.ร่วมกับตำรวจ 191/บก.สส./บก.จร.และบช.ส. เพื่อป้องกันเหตุในการควบคุมตัวนายทักษิณไปดำเนินคดี
หากอยู่ในเวลาราชการจะรับตัวและส่งศาลฎีกาได้ทันที แต่ถ้าหากนอกเวลาราชการ จะส่งตัวไปยังสถานคุมตัวพิเศษ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีก่อนจะย้ายตัวไปศาลฎีกาในเวลาราชการ และสุดท้ายนำตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
โดยมีการกำหนดเส้นทางการเดินทาง ทั้งในเส้นทางหลักและเส้นทางรอง โดยเส้นทางหลักจากสนามบินดอนเมือง มายังศาลฎีกา (สนามหลวง ) และยังมีการเตรียมและเส้นทางหลักและรอง หากมีการลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง)