"ประเสริฐ" ปัดยืมมือขั้วรัฐบาลเก่าผลัก "ก้าวไกล" เป็นฝ่ายค้าน - จ่อเสนอแก้ MOU หลังโอกาส "พิธา" เป็นนายกฯ แทบเป็นไปไม่ได้แล้ว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชี้แจงถึงการยกเลิกการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ว่า เนื่องจาก การดำเนินการของพรรคเพื่อไทย ที่ 8 พรรคร่วมฯ มอบหมายมานั้น ยังอยู่ระหว่างการทำงาน และยังต้องรอการตัดสินใจในหลายประเด็น รวมถึงได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า ประธานรัฐสภา จะเลื่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 3 ออกไปก่อน
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพูดคุยกับวุฒิสภา โดยยืนยันว่า 13 เสียงเดิม ที่เคยสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ยืนยันว่า ยังคงสนับสนุนเช่นเดิม และยังมีอีกส่วนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังประสาน ก็อยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งบางส่วนตัดสินใจแล้ว โดยยอมรับว่า หลายคนมีความกังวลต่อเงื่อนไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย และหลังจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะไปสรุปจำนวนที่แน่นอนอีกครั้ง และพรรคเพื่อไทย ยังได้พูดคุยกับพรรคการเมืองเกือบทั้งหมดแล้วหลังจากนี้ จะนำเสนอ 8 พรรคร่วมฯ ให้รับทราบต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เผย ทักษิณ พี่โทนี่ กลับไทย 10 สิงหาคม ลงดอนเมือง
วิโรจน์ ชี้ รออีก 291 วัน ได้รัฐบาลแห่งความหวัง ตั้งรัฐบาลเลย สิ้นหวังอีก 4 ปี
สรุปให้ #ตั๋วปารีส ‘รังสิมันต์ โรม’ ถูกโยงเอี่ยว แก้ ม.112 เอาใจนายทุน หรือไม่
ส่วนที่มีกระแสข่าว พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล มองหน้ากันไม่ติดแล้วนั้น นายประเสริฐ ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เพราะเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ยังได้พูดคุยกับนายชัยธวัช และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลทางโทรศัพท์อยู่ ซึ่งมีความเข้าใจถึงเหตุผลในการเลื่อนประชุมดี และพร้อมที่จะเข้าการร่วมประชุมในครั้งหน้าด้วย แต่พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้พูดคุยกับพรรคก้าวไกล ถึงการไปหารือกับพรรคขั้วรัฐบาลเก่า โดยจะขอนำไปพูดคุยในที่ประชุม 8 พรรคทีเดียว
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล มองการไปพูดคุยกับพรรครัฐบาลเก่าของพรรคเพื่อไทย เป็นความพยายามผลักพรรคก้าวไกลออกจากการร่วมรัฐบาลนั้น นายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการดำเนินการของพรรคเพื่อไทย ทำตามมติของ 8 พรรคร่วมฯ โดยไม่มีการตกลงที่จะขอเข้าร่วมรัฐบาล และไม่มีการต่อรองตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรี เพียงแต่เป็นการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองร่วมกัน และย้ำว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ได้ยืมมือพรรคการเมืองอื่นผลักพรรคก้าวไกล เพราะพรรคร่วม 8 ก็ยังคงทำงานรวมกันอยู่
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยไปคุยกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกลทราบก่อนนั้นหรือไม่ นายประเสริฐ ชี้แจงว่า ได้แจ้ง 8 พรรคร่วมไปแล้วว่า พรรคเพื่อไทยจะพูดคุยทุกพรรค และออกเป็นกำหนดการสาธารณะให้ทุกคนรับทราบ จึงถือว่ารับรู้
ส่วนข้อเสนอที่มีการให้แก้ไข้ MOU ที่พรรคก้าวไกลกำหนดขึ้นมานั้น นายประเสริฐ ยืนยันว่า เมื่อมีการประชุม 8 พรรคร่วมฯ แล้ว ก็จะมีการพูดคุยกัน เพื่อแก้ไขให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะในข้อ 1 ของ MOU 1 นั้นยังสนับสนุนให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ซึ่งตอนนี้โอกาสแทบเป็นไปไม่ได้แล้ว
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล เตรียมเสนอให้รัฐสภาทบทวนมติการเลือกนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมว่า พรรคเพื่อไทย ยังไม่ทราบรายละเอียดก่อน ส่วนกังวลหรือไม่ที่ชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย จะถูกตีตก และไม่สามารถเสนอให้รัฐสภาพิจารณาได้ใหม่อีกเหมือนกรณีนายพิธานั้นนายประเสริฐ ยืนยันว่า ไม่กังวลเพราะคดีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย มีคุณสมบัติครบ และไม่มีประเด็นที่น่ากังวล และหวังว่าเสนอชื่อครั้งแรกจะได้รับการเห็นชอบทันที
นายประเสริฐ ยังกล่าวถึงไทม์ไลน์การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่า ตนคิดว่า รัฐสภาน่าจะพิจารณาเปิดประชุมอีกครั้งหลังจากศาล รัฐธรรมนูญมีคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว