สรุปให้ น้องเตย 4 ขวบ สู้ชีวิตเลี้ยง ย่าตาบอด พลังโซเชียลแห่ช่วยล่าสุด ยอด ทะลุ 5.9 ล้าน ขณะที่ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ขอส่งเสีย น้อยเตย ดูแลเรื่องการศึกษาเท่าที่เด็กเรียนไหว จนถึงปริญญาเอก
จากกรณีที่ ครูอุ้ม คุณครูโรงเรียนครูโรงเรียนบ้านมะขามทานตะวัน จ.บุรีรัมย์ โพสต์คลิปขณะไปเยี่ยมเด็กนักเรียนที่บ้าน ซึ่งพบกับ ด.ญ.สุธีมมนต์ จินดาศรี หรือ น้องเตย อายุ 4 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ที่กำลังนั่งล้างจานอยู่ ซึ่งน้องเตยอาศัยอยู่กับย่าตาบอด วัย 68 ปี ตามลำพัง ภายในบ้านที่มีเพียงแค่สังกะสี หากฝนตกก็เปียก
ซึ่งหลังจากคลิปถูกเผยแพร่ ออกไปทำให้มีคนสนใจเป็นอย่างมาก โดยคุณย่าของน้องเตย เล่าว่า เลี้ยง “น้องเตย” มาตั้งแต่ยังเล็ก เพราะพ่อของเด็กไปทำงานต่างจังหวัด ไม่เคยส่งเงินมาให้ เมื่อปี 2564 ย่าถูกมะพร้าวหล่นใส่ ทำให้ตาบอดทั้ง 2 ข้าง ตอนนั้น น้องเตย อายุ 3 ขวบ หลังจากนั้นเป็นต้นมา น้องเตย ต้องเป็นคนดูแลย่า ทั้งหุงข้าว ทำกับข้าว และทำทุกอย่างภายในบ้าน โดยมีย่าเป็นคนสอน ในทุกๆ วัน ย่าจะต้องไปส่งน้องเตยไปโรงเรียน โดยจะให้น้องเตยถือไม้เท้า จูงย่าไปส่งที่โรงเรียน ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ส่วนขากลับ ย่า ก็จะคลำทางกลับบ้านเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ดราม่าพ่อน้องเตย วัย 4 ขวบ ยืนยันไม่เคยทิ้ง พร้อมบอกเหตุผลที่ไม่เคยเลี้ยงดู
ส่องงานวิจัย ศิริกัญญา สรุปความเหลื่อมล้ำ ในไทย ปี 2557 ผ่านโมเดล 10 หมู่บ้าน
“แม่ไม่ลำบากแล้ว” หนูน้อยป.6 ขอบคุณผู้ใจบุญช่วยให้ได้เรียน มีเงินรักษาแม่(มีคลิป)
โดยครูอุ้ม ครูประจำชั้นของน้องเตย เล่าว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่า น้องเตยอยู่กับย่าตาบอด ตามลำพัง มาเห็นตอนที่น้องเดินจูงย่าตามถนน จึงไปเยี่ยมที่บ้าน ปรากฏว่าเห็นสภาพแล้วใจหาย พบน้องเตยกำลังล้างจาน จึงถ่ายคลิปเอามาลง TikTok เพื่อขอความช่วยเหลือ
ขณะที่สาธารณสุขอำเภอได้ช่วยเหลือ “ย่าตาบอด” ได้พาไปตรวจดวงตาที่โรงพยาบาลห้วยราช เนื่องจากตาข้างขวา ยังพอเห็นแสงเหมือนม่านน้ำ ส่วนตาข้างซ้ายบอดสนิท หากพบว่ายังพอมีหวังที่จะรักษาหาย จะส่งไปรักษาต่อทันที เพราะที่ผ่านมา ย่าน้องเตย ไม่เคยไปหาหมอ ตั้งแต่ถูกลูกมะพร้าวร่วงใส่ศีรษะเมื่อปี 2564
ทั้งนี้ “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ประกาศผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ขออนุญาตใช้สิทธิ ดูแลเรื่องการศึกษาของ น้องเตย ส่งเสียเท่าที่เด็กเรียนไหว ไปจนถึงปริญญาเอกเลยก็ทำได้ เพราะอยากให้โอกาสทางการศึกษา
ขณะเดียวกัน พ่อของ “น้องเตย” ได้ติดต่อผ่านเพจ “โหนกระแส” ยืนยันว่า ไม่เคยทิ้งลูก และไม่ได้หย่าร้างกับแม่น้องเตย เขาทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง มีลูก 2 คน คนโตเป็นผู้ชาย ส่วนน้องเตยอยู่กับย่า แต่ก็กลับมาหาลูกเสมอ มีหลักฐานซื้อของฝากให้ตลอด
ส่วนที่คนมองว่าพอเป็นข่าวแล้วพ่อกลับมา จะมาเอาเงินบริจาคของลูกไหม ตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเงิน แค่อยากยืนยันว่าไม่ได้ทิ้งลูกตามที่เป็นข่าว เพราะมีกระแสโจมตีเยอะมาก
หลังจากที่เป็นข่าวตนก็ได้คุยกับคุณครู ขอบคุณที่ช่วยเป็นสื่อกลางช่วยเหลือครอบครัวตน ส่วนกระแสข่าวที่ว่า ย่าไม่ได้ตาบอด แต่งเรื่องเพื่อเอาเงินบริจาค ตนยืนยันว่าไม่จริง ทางบ้านยากจนจริงๆ และน้องเตยก็ดูแลย่าจริง
ล่าสุด ครูอุ้ม ได้ออกมาโพสต์ขอบคุณผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมกับแจ้งปิดบัญชี ยอด 5.9 ล้าน โดยระบุว่า...
.มันจะเป็นคุณงามความดีที่จะจดจำไปจนวัน…ตาย..
ที่สุดของมหากุศลนี้คือพี่ๆทุกคนนะคะ พี่ๆพลังโซเชียล พี่สรยุทธ พี่หนุ่ม พี่นักข่าวทุกๆสำนัก และทุกภาคส่วนที่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือทันทีเมื่อทราบข่าว และที่สำคัญคือท่านผู้อำนวยการ
….วันนี้ขอแจ้งงยอดปิดบัญชี 5,900,000 บาท โดยผู้ใหญ่หลายภาคส่วนในท้องถิ่น ร่วมกันดูแลเงินบริจาค และได้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
1.เงินจำนวน 4 ล้านบาทให้น้องไว้ดำรงชีพเมื่อบรรจุนิติภาวะ
2.เงินจำนวน 1.9 ล้านบาทให้คุณยายเพื่อดำรงชีพ
โดยมีคณะกรรมการในชุมชนเป็นผู้ดูแลให้คุณยาย ในส่วนของที่อยู่อาศัย มีภาครัฐเข้ามาดูแลในส่วนตรงนี้ ครูเป็นเพียงครูตัวน้อยๆไม่คิดว่าจะสร้างกุศลได้มากมายขนาดนี้ ขอบพระคุณจากหัวใจ ขอบพระคุณจริงๆ
ขอให้ทุกคนอนุโมทนาบุญร่วมกันนะคะ