ไฟไหม้รถบัสนักท่องเที่ยว กลางทางด่วน เหลือแต่ซาก

7 มิถุนายน 2566 ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดเหตุระทึกหลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถบัสโดยสาร บนทางด่วนศรีรัช บริเวณเหนือสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ หรือ สถานีกลางบางซื่อ ช่วงก่อนลงถนนกำแพงเพชร 2 แขวงและเขตจตุจักร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมรถน้ำและเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยดุสิต

ที่เกิดเหตุพบรถบัส สีขาว-แดง ทะเบียน 33-1104 กรุงเทพมหานคร เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 20 นาที เพลิงจึงสงบ โดยเพลิงได้เผาวอดเสียหายทั้งคัน โครงเหล็กหลังคาหลอมละลาย ล้อหน้าทั้ง 2 ข้างแตก ใส่กระจกแตกเกลื่อนเต็มพื้นถนน ตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สลด สาวขับรถเสียหลักตกถนนถูกไฟคลอกดับ เหตุเพราะมีมือดีเผานาจนควันฟุ้งถนน

• ไฟไหม้ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ถนนสาธร วอดทั้งหลัง

• เปิดสาเหตุ ไฟไหม้ บก.น.5 เบื้องต้น พบเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร คอมเพรสเซอร์แอร์

นายควรชิต แก้วมณี อายุ 46 ปี คนขับรถบัสคันดังกล่าว เปิดเผยว่า ขับรถออกมาจากโรงแรมบางกอกพาเลส แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. จะไปส่งลูกทัวร์ ซึ่งเป็นชาวโปแลนด์ 15 คนและไกด์ทัวร์ชาวไทยอีก 1 คน ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ เห็นกลุ่มควันและได้กลิ่นเหม็นไหม้ มาจากห้องเก็บสัมภาระผู้โดยสาร จึงจอดรถชิดซ้ายและลงไปดู พร้อมกับให้ลูกทัวร์ลงจากรถโดยด่วน และทยอยเอากระเป๋าของลูกทัวร์ออกมาบางส่วน มีบางส่วนที่ถูกเพลิงลุกไหม้ไปแล้ว เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ด้าน พ.ต.อ.พารินท จันทร์เลิศ ผกก.สน.ทางด่วน 2 เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุระบุว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นผิวการจราจร ที่ยังคงมีเศษซากจากการที่รถทัวร์ถูกเพลิงไหม้ แต่ได้มีการเปิดช่องการจราจรเป็นที่เรียบร้อย แต่อาจจะมีปัญหาติดขัดในช่วงจุดเกิดเหตุ เนื่องจากว่ายังไม่สามารถเคลียร์พื้นผิวได้ทั้งหมด ส่วนตัวรถทัวร์ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะนำไปเก็บไว้ที่ใด ส่วนผู้ขับขี่เบื้องต้นได้ให้การกับทางตำรวจเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ เพราะต้องตรวจสอบว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดหรือไม่

สำหรับรถทัวร์คันดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นรถทัวร์เอกชน ที่มีการรับเหมาพานักท่องเที่ยวโดยสารไปส่งตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆไม่ใช่รถทัวประจำทาง ที่วิ่งขนส่งระหว่างจังหวัดแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุนั้นคาดว่ามาจาก วัสดุบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋าของลูกทัวร์ ซึ่งเก็บไว้ในห้องสัมภาระ อาจเกิดประกายไฟหรือเกิดขัดข้อง ทำให้ประกายไฟลุกลามไปถึงกระเป๋าใบอื่น ก่อนที่จะก่อตัวเป็นเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตามสาเหตุที่แท้จริงต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ