เปิดพฤติกรรม "อิคคิว" แฟนหนุ่ม "จีจี้" ซ้อมทุบตีประจำ ไล่ไปตาย ขู่ฆ่าสารพัด

จากกรณีข่าวเศร้า ของเน็ตไอดอลสาว จีจี้ หรือ น.ส.สุพิชชา ปรีดาเจริญ อายุ 20 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศรีษะ เสียชีวิตพร้อมกับ นายภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา อายุ 19 ปี หรืออิคคิว นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปี2 แฟนหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายนายทหารยศใหญ่ มีบาดแผลถูกยิงที่ศรีษะเช่นกัน พบอาวุธปืนแม็กกาซีน ตกอยู่ 1 กระบอก และปลอกกระสุน 2 ปลอก นอนเสียชีวิตภายในห้อง คอนโดมิเนียมหรู ย่านอโศก แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมานั้น

จากการตรวจสอบข้อมูลทางโซเชียลมีเดีย พบว่า นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา แฟนหนุ่มของ จีจี้ มีพฤติกรรมหัวรุนแรงชอบอาวุธปืน และศึกษาทั้งอาวุธปืนสั้น-ปืนยาว มาเป็นอย่างดี รวมถึงมักซ้อมยิงปืนเป็นประจำ จึงทำให้มีความเชี่ยวชาญในการยิงปืนอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีการลงคลิปการซ้อมยิงปืนทางโซเชียลจำนวนมาก

นอกจากนี้ยังพบว่ามีข้อความแชทของจีจี้และรูปภาพ ระบุว่าถูก นายภูมิพัฒน์ แฟนหนุ่ม ทำร้ายร่างกาย ทุบตีบริเวณใบหน้า บวมช้ำ หนำซ้ำยังมีการส่งข้อความข่มขู่ ท้าทายเช่น "กูใคร ถ้ากูทำให้มึงตาย มึงตายไปแล้วครับ"และคำด่าหยาบคาย และระบุว่า" เลิกกันแล้วมึงจะไปกระโดดน้ำตายหรือแดกยาให้ตายก็เรื่องของมึงนะ" รวมถึงมีการเตะหน้าอกและหลัง และที่สำคัญพบข้อความแชท ที่ฝ่ายหญิงได้บล็อกข้อความของฝ่ายชาย แล้วฝ่ายชายพยายามต่อว่า โดยมีการขู่ให้รับสายโทรศัพท์และระบุว่า "ไม่งั้นกูยิงมึงแน่"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ช็อก! จีจี้ สุพิชชา เจ้าของเพจเรื่องของจี้ "เสียชีวิต"

เป็นที่น่าสังเกตุว่าบาดแผลถูกยิงที่ศรีษะของ น.ส.สุพิชชา หรือจีจี้ที่ปรากฎที่ศรีษะนั้นอาจเกิดจากฝีมือของอิคคิวแฟนหนุ่มของเน็ตไอดอลสาว ดทั้งนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องหึงหวงหรือทะเลาะวิวาทกันก็ตาม นายอิคคิวแฟนหนุ่ม มีพฤติกรรมหัวรุนแรง อาจเกิดอารมณ์ชั่ววูบในการใช้อาวุธปืนก่อเหตุสลดดังกล่าว

ด้านพลตำรวจโทธิติ สงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยืนยันว่า สภาพศพของผู้เสียชีวิต ถูกยิงที่บริเวณศีรษะ ใกล้กันพบศพฝ่ายชายที่เป็นนักเรียนเตรียมทหารอากาศ มีร่องรอยถูกยิงที่ศีรษะนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเดียวกัน พร้อมพบปืนแมกกาซีน ตกอยู่ในห้อง และปลอกกระสุน 2 นัด เจ้าหน้าที่ถึงได้เก็บไว้ตรวจสอบ และตรวจหาเขม่าดินปืนเพื่อพิสูจน์ว่า เป็นการกระทำของฝ่ายใด หรือบุคคลที่สาม 

นอกจากนั้นได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ข้อสงสัยให้ได้ว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่เบื้องต้น จากการสอบถามกับเพื่อนผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ทราบว่าติดต่อฝ่ายหญิงไม่ได้มาแล้ว 1 วัน จึงเดินทางมาตรวจสอบที่ห้องพัก ก่อนพบศพ ส่วนความสัมพันธ์ และความขัดแย้งของทั้งสองคนยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

แต่สภาพในห้องที่เกิดเหตุมีเนื้อที่ไม่มากนัก และมีฉากกั้นห้อง ซึ่งเป็นห้องพักของฝ่ายหญิง ค่อนข้างเก็บเสียง ทำให้ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครทราบ รวมทั้งทั้งสองคนเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน หลังจากนี้จะต้องนำศพส่งชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ