svasdssvasds

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ในวันที่ ทักษิณ เชิญมาผลักดันนางแบบไทยสู่เวทีโลก ไม่ใช่ดีกรีเรื่องแฟชั่น แต่เธอคือคนที่เรียกร้องความเท่าเทียม

SHORT CUT

  • นาโอมิ แคมป์เบลล์ เป็นนางแบบระดับโลกที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ยาวนาน เธอเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งใน "Big Five" ซูเปอร์โมเดลแห่งยุค 90 และเป็นนางแบบผิวดำคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue หลายฉบับ
  • นาโอมิเป็นทั้งนางแบบ นักเคลื่อนไหว และผู้สนับสนุนงานการกุศล เธอได้ก่อตั้งองค์กร Fashion for Relief เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
  • นาโอมิได้รับการเชิญจากทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นที่ปรึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันนางแบบไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ในวันที่ ทักษิณ เชิญมาผลักดันนางแบบไทยสู่เวทีโลก ไม่ใช่ดีกรีเรื่องแฟชั่น แต่เธอคือคนที่เรียกร้องความเท่าเทียม

1 วันที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยถึงการเชิญ นาโอมิ แคมป์เบลล์ (Naomi Campbell) นางแบบระดับโลกมาเป็นที่ปรึกษา เพื่อผลักดันนางแบบไทยสู่เวทีโลก โดยนาโอมิมีกำหนดเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 15.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล การมาเยือนประเทศไทยของนาโอมิครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเธอเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีประสบการณ์ในวงการแฟชั่นระดับโลกมาอย่างยาวนาน เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

นาโอมิ แคมป์เบลล์ จากเด็กหญิงสู่ตำนานนางแบบระดับโลก

นาโอมิ แคมป์เบลล์ เกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ.1970 ที่ประเทศอังกฤษ เธอเป็นลูกครึ่งจาไมกาและมีเชื้อสายจีนจากคุณย่า พ่อของเธอทิ้งเธอไปตั้งแต่แม่ของเธอตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน นาโอมิเติบโตมากับแม่ที่เป็นนักเต้น และเข้าเรียนบัลเลต์ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

นาโอมิเริ่มเข้าสู่วงการแฟชั่นเมื่ออายุ 15 ปี ขณะเดินเล่นอยู่ที่ Covent Garden และได้รับการชักชวนจากเอเจนซี่ให้มาถ่ายแบบ ผลงานแรกของเธอคือมิวสิควิดีโอเพลง "Is This Love" ของบ็อบ มาร์เลย์ เมื่ออายุเพียง 7 ขวบ นิตยสารฉบับแรกที่เธอได้ขึ้นปกคือ Elle ประเทศอังกฤษ ในปี 1986

ความสำเร็จของ นาโอมิ แคมป์เบลล์

ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 นาโอมิกลายเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เธอเป็นหนึ่งใน "Trinity" หรือสามนางแบบที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในยุคนั้น ร่วมกับ คริสตี้ เทอร์ลิงตัน (Christy Turlington) และ ลินดา อีแวนเจลิสตา (Linda Evangelista) นอกจากนี้ เธอยังเป็นนางแบบผิวสีคนแรกที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Vogue ทั้งของอังกฤษและฝรั่งเศสในปี 1987 และ 1988 ตามลำดับ

แม้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก นาโอมิก็ต้องเผชิญกับการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ ในช่วงแรก เธอไม่ได้รับงานโฆษณามากเท่านางแบบผิวขาว และบางครั้งก็ไม่ได้รับเลือกให้เดินแบบเพราะสีผิว อย่างไรก็ตาม เพื่อนร่วมงานของเธอ เช่น คริสตี้ เทอร์ลิงตัน และลินดา อีแวนเจลิสตา ได้ให้การสนับสนุนและยืนหยัดเคียงข้างเธอ

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

นาโอมิ แคมป์เบลล์ เจ้าแม่แฟชั่นผู้ผลักดันเรื่องความเท่าเทียม

นาโอมิเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงสู่ความหลากหลายในวงการแฟชั่น เธอใช้ชื่อเสียงของเธอในการผลักดันให้อุตสาหกรรมแฟชั่นมีความครอบคลุมและต่อต้านอคติในการจ้างงาน เธอยังเป็นแม่อุปถัมภ์ให้กับนางแบบผิวดำรุ่นใหม่ และผลักดันให้แฟชั่นจากทวีปแอฟริกาเติบโต

นอกเหนือจากงานในวงการแฟชั่น นาโอมิยังเป็นนักเคลื่อนไหวและผู้สนับสนุนงานการกุศล เธอได้ก่อตั้ง Fashion for Relief องค์กรการกุศลที่มุ่งใช้แฟชั่นโชว์เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ นาโอมิยังเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว โดยมีลูกสาวคนแรกในปี 2021 และลูกชายในปี 2023

นาโอมิ แคมป์เบลล์ ในวันที่ ทักษิณ เชิญ

นายทักษิณ ชินวัตร ได้เชิญนาโอมิมาเป็นที่ปรึกษา เนื่องจากเธอมีประสบการณ์ในวงการแฟชั่นและมีสายสัมพันธ์มากมาย โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยผลักดันนางแบบไทยให้ก้าวสู่เวทีโลก และสร้างโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ในชนบทได้มีโอกาสในวงการแฟชั่นมากขึ้น

นาโอมิมีกำหนดเข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่น โดยคาดว่าจะมีการพูดคุยถึงแนวทางการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของไทย รวมถึงการสนับสนุนนางแบบไทยให้มีโอกาสในระดับสากลมากขึ้น

เปิดประวัติ นาโอมิ แคมป์เบลล์ ตัวแม่แฟชั่น ผู้สร้างความเท่าเทียม

นาโอมิ แคมป์เบลล์ เป็นมากกว่านางแบบ เธอคือตำนานผู้สร้างแรงบันดาลใจและเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงในวงการแฟชั่น การได้รับเชิญให้เป็นที่ปรึกษาด้านซอฟต์พาวเวอร์และเข้าพบนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเธอในระดับสากล และความมุ่งมั่นที่จะผลักดันวงการแฟชั่นไทยให้ก้าวหน้าต่อไป การมาเยือนประเทศไทยของเธอในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของวงการแฟชั่นไทยให้ทัดเทียมนานาชาติ

อ้างอิง

ThePeople / การเมือง / Wikiwand /

related