รู้ทันความน่ากลัวการเป็น "ที่รัก" กรณีแฟนคลับคลั่งไคล้ "อิงฟ้า วราหะ"
ความรัก ความชื่นชอบ ในตัวศิลปินหรือในผลงานของเหล่าดาราคนดัง นักร้อง นักแสดง เป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็สามารถเกิดความชื่นชอบในตัวบุคคลสาธารณะได้ แต่หากว่าคลั่งไคล้จนเกินเลยขอบเขต จนลืมพื้นที่ความเป็นส่วนตัว กาลเทศะระหว่างแฟนคลับกับตัว ศิลปิน นักแสดง
อย่างเช่นกรณีล่าสุดที่มีผู้อ้างตัวเป็น "แฟนคลับ" นางงามซูเปอร์สตาร์ "อิงฟ้า วราหะ มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2022" ทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อเรียกร้องขอพบ "อิงฟ้า" แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เข้าระงับเหตุการณ์ได้ทันเวลาจึงไม่เกิดเหตุสูญเสีย ต่อมาได้รับการเปิดเผยว่าเหตุการณ์ทำนองนี้ได้เกิดขึ้นกับ "อิงฟ้า" เป็นครั้งที่ 3 จากผู้ก่อเหตุคนเดียวกัน
เหตุการณ์แรกเกิดที่ จ.เชียงใหม่ ผู้ก่อเหตุบอกว่าเกิดอุบัติเหตุรถมอเตอร์ไซด์ล้ม บาดเจ็บ เลือดไหลแต่ไม่ยอมไปโรงพยาบาลขอรอเจอซึ่ง "อิงฟ้า" ก็ได้ไปดูด้วยความเป็นห่วง กระทั่งล่าสุดได้ก่อเหตุพยายามใช้มีดกรีดข้อมือและจี้คอตัวเอง สร้างความตกใจและหวาดระแวงกลับไปยังตัวอิงฟ้า จากพฤติกรรมนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรนำมาถอดเป็นบทเรียนและรู้ทัน
โดย "ผศ.นพ.ภุชงค์ เหล่ารุจิสวัสดิ์" อาจารย์ประจำภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความรู้ว่า การจะวินิจฉัยว่าใครป่วยทางจิตหรือไม่ คงไม่ได้ตัดสินทางพฤติกรรมทางเดียว ต้องทำความเข้าใจในระดับบุคคล ถ้าในระดับพฤติกรรม พฤติกรรมนี้ก็มีความเสี่ยงเรื่องการมีความรุนแรงต่อเพื่อนมนุษย์ ก็คือตัวเขาเอง ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องช่วยเหลือกัน แม้ว่าเจ้าตัวทำร้ายตัวเองก็ตามก็ต้องช่วยกันห้าม เพราะช่วงนั้นอาจจะกำลังขาดสติหรือว่ามีความผิดหวังคับข้องใจในชีวิต แต่ย้ายมาลงกับตัวเองแทนคนอื่น ต้องช่วยกันลดความเสี่ยง ช่วยระงับกุมตัวจับมาให้เขาสงบสติอารมณ์ พามาประเมินที่โรงพยาบาล
"บุคคลสาธารณะ เช่น ดารา บุคคลสำคัญ หรือใครก็ตามที่ถูกยกระดับให้เป็นบุคคลสาธารณะ ย่อมเป็นไปได้ที่จะมีคนหมกมุ่นสนใจมาก อาจจะไปในเชิงหลงใหล ซึ่งจริงๆ เขาก็จะไม่ได้รู้จักคนเหล่านั้นเป็นการส่วนบุคคล มันไม่เหมือนความสัมพันธ์จริงในชีวิต เขาจะรับรู้ผ่านจินตนาการและก็ภาพลักษณ์ในเชิงบวกเท่าที่สื่อมา ซึ่งสื่อเหล่านั้นจะกระตุ้นเขาให้มโนไปต่าง ๆ นานา ใส่ความหมาย ใส่ความผูกพัน มันก็สอดคล้องกับวงการบันเทิงเพราะว่าเขาต้องการเรียกเรตติ้ง เขาก็ต้องการให้ตัวไอดอลมีบุคคลมาชอบเยอะ ๆ มารู้สึกผูกพัน ถ้ามันเป็นไปตามสถานการณ์ปกติ เช่น เป็นอะไรที่ในเชิงความสุข เห็นแล้วชื่นชมชื่นใจ รู้สึกว่าเป็นสิ่งสวย ๆ งาม ๆ ในชีวิต เป็นเรื่องสนุกๆเพลินๆ ในชีวิตมันก็เกิดประโยชน์"
"แต่ปมประเด็นอะไรในชีวิตไม่เหมือนกัน ดูเหมือนคนหลงดาราเขากำลังใช้ดาราหรือไอดอลเหล่านั้นนัมราวกับมีความสัมพันธ์ในชีวิตจริง แล้วก็ไปมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ อยากพบ อยากเจอ ทั้ง ๆ ที่จริงไม่ได้มีความสัมพันธ์ระดับบุคคลเลย เพราะว่าเขาเป็นบุคคลสาธารณะ เขาก็จะไม่ได้มาให้ใครสนิทเป็นการส่วนตัว คนหลงดาราคงรู้สึกขาด รู้สึกไม่มั่นคงมาก ๆ มันเลยต้องเอาการเอาตัวเองมาเรียกร้อง ไม่มีอะไรจะต่อรองก็ต้องใช้ตัวเองต่อรอง ขู่จะทำร้ายตัวเองหรือว่าจะฆ่าตัวตายถ้าไม่เจออะไรอย่างนี้"
ในส่วนกรณีของ "อิงฟ้า วราหะ" ทางด้าน "ผศ.นพ.ภุชงค์" แนะนำว่าควรดูแลตัวเองจากแฟนคลับที่ไม่ปกติ ควรมีบอดี้การ์ดป้องกันตัวไว้และแจ้งเจ้าหน้าที่ถ้ารู้สึกถูกคุกคาม ไม่ยอมให้ใครขู่บังคับไม่ว่ากรณีใดเพราะคนขู่จะยิ่งยกระดับการข่มขู่ถ้าไม่ได้ตามต้องการ ถ้าเครียดมากก็หาทางไปพบบุคลากรทางสุขภาพจิต ส่วนทางผู้ก่อเหตุก็ควรถูกพาไปประเมิน ทำการบำบัดรักษาถ้าป่วย ทางด้านประชาชนทั่วไป ถ้าบุตร-หลาน ที่ชื่นชอบ ดารา นักร้อง ศิลปินอะไรอย่าเพิ่งตกใจว่าจะหมายถึงเพี้ยนหรือบ้าไปแล้ว หมอเองตอนนี้ห่วงเยาวชน เพราะผู้ใหญ่เรามักไปจับประเด็นเรื่องเล็ก ๆ ให้กลายเป็นใหญ่
เช่น เล่นเกมแล้วแปลว่าก้าวร้าวไหม ชอบไอดอลแปลว่าคลั่งดาราเกินไปไหม มันจะกลายเป็นเพิ่มความขัดแย้งระหว่างความสัมพันธ์นั่นแปลว่าเราไม่เข้าใจลูกหลานเรา ถ้ากลัวลูกหลานมีปัญหาขอแนะนำให้ประเมินวัยรุ่นในภาพรวม เช่น ดูว่าเขาทุกข์เขาสุขยังไง เขาสนุกกับการใช้ชีวิตไหม ทางบ้านมีส่วนสนับสนุนหรือขัดขวางอย่างไร ถ้าเขาใช้เวลากับอะไรที่เป็นความสุขเราควรทำความเข้าใจและเรียนรู้สิ่งนั้น เพราะถ้าไปหักห้าม ก็จะยิ่งขัดแย้งและผลักดันวัยรุ่นไประบายออกทางอื่น ไม่อยากให้ไปตัดสินว่าเขาทำตัวตามทัศนคติผู้ใหญ่ไหม แต่อยากให้ดูภาพรวมของสุขภาพจิต พยายามเชื่อมโยงกับบุตรหลานด้วยสิ่งที่เขารักเขาชอบไม่ใช่เอาแต่ห้าม
"เรื่องของความรักมากได้ไม่เคยมีมากเกินไป แต่ที่มักจะมากเกินไปคือความคาดหวังจนผิดหวังแล้วทำให้เกิดอารมณ์รุนแรง ความรักเป็นพลังงานด้านดีและสร้างสรรค์เสมอ ถ้าเขารักอิงฟ้าจริง ๆ เขาจะไม่อยากทำอิงฟ้าเดือดร้อน ที่ก้าวร้าวเพราะอันนั้นคือเขาคาดหวัง เขาอยากจะเจอตัวเพื่อตอบโจทย์อะไรบางอย่างในจิตใจของตัวเขาเองแล้วผิดหวังเรียกร้องวุ่นวาย ถ้าเป็นความรักแท้จะไม่ทำร้ายใครแม้กระทั่งทำร้ายตัวเอง"
ขณะที่ "คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ต้นสังกัด เผยว่า ตนเองไม่ทราบเจตนาที่ผู้ก่อเหตุต้องการพบอิงฟ้าอาจจะเกิดจากความชอบมาก ๆ จนต้องใช้วิธีนี้เพื่อจะได้เจอ ไม่ได้คิดว่านี่คือการเรียกร้องความสนใจเหมือนที่หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ ทราบว่าผู้สร้างสถานการณ์มีวุฒิภาวะและอายุไม่น้อย อาจจะมีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ และเป็นกำลังใจให้เขาผ่านทุกเหตุการณ์ไปได้ หรือลองบอกกับทางองค์กรฯ เพื่อจะได้ดำเนินการในสิ่งที่เหมาะสมและช่วยเหลือได้
"ผมไม่ได้อยากดูแลแค่ศิลปินแต่ก็อยากดูแลคนที่รักศิลปินผมด้วย ถ้ามีอะไรที่พอช่วยได้ผมก็อยากจะช่วย ผมไม่ต้องการให้แฟนคลับหรือใครต้องมาเดือดร้อนสูญเสียหรือต้องเจ็บตัว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนข้างกระทบจิตใจอิงฟ้ามาก พอเจอเหตุการณ์นี้เขารู้สึกแย่ ร้องไห้ เขาไม่อยากเห็นใครทำร้ายตัวเองเพราะเขา พยายามบอกอิงฟ้าว่าเราควบคุมไม่ได้ ตอนนี้ผมกับทีมงานส่วนใหญ่มาจัดการประกวด มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล 2023 ที่ประเทศเวียดนาม"
ถ้าอยู่ที่กรุงเทพผมยินดีที่จะพูดคุยกับผู้ที่สร้างสถานการณ์เพื่อจะได้เข้าใจ ให้เขาได้ระบายและปลดปล่อย ผมเข้าใจนะครับว่าเขาคงอยากเจออิงฟ้าจริง ๆ แต่องค์กรไม่สามารถให้เขาได้เจอได้ ผมขอฝากอีกครั้งนะครับว่าถ้าเป็นแฟนคลับจริงๆ อย่าทำแบบนี้เลยครับ คุณควรรักตัวเองและไม่ควรทำร้ายตัวเองแบบนี้ครับ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตามถ้าคุณคิดจะรักคนอื่น คุณควรจะเริ่มต้นรักตัวเองเป็นอย่างแรก เมื่อรักตัวเองมากพอแล้วค่อยรักคนอื่นนะครับ"
เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มทีมดูแลอิงฟ้าอีกหรือไม่ "คุณณวัฒน์ อิสรไกรศีล" บอกว่าได้เพิ่มทีมดูแล "อิงฟ้า" ทีม AR (ดูแลศิลปิน) ทีมรักษาความปลอดภัย คอยเช็กดูพื้นที่จัดงาน พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับเจ้าภาพหรือลูกค้าที่จ้างงาน รวมถึงแฟนคลับที่รักอิงฟ้า ช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะไม่แน่ใจว่าจะมีเหตุการณ์อะไรอีกหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน สุดท้ายขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าระงับเหตุการณ์ได้ทันเวลาและหวังว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ไม่มีใครต้องการเห็นความสูญเสียเกิดขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
