แพนเค้ก เขมนิจ รีวิวชีวิตคู่กับ พี่หมี เล่ากว่าจะลงเอย เคยทะเลาะจนหวิดเลิก

ชีวิตสมบูรณ์แบบทุกอย่างเลยก็ว่าได้ สำหรับนางเอกเรื่องราวดีๆ "แพนเค้ก เขมนิจ" ที่ลัคกี้อินเกม ลัคกี้อินเลิฟสุดๆ เพราะก่อนหน้านี้เธอได้ควงแขนหวานใจ "พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์" หรือ "พี่หมี" ที่คบหาดูใจมานานกว่า 11 ปี เข้าประตูวิวาห์อย่างหวานชื่น เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนอบอุ่นและโรแมนติก

โดยล่าสุดสาวแพนเค้ก ได้ออกมาเปิดใจถึงชีวิตหลังแต่งงานกับพี่หมี ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บshow" ว่ามีความเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้แพนเค้กยังเล่าย้อนชีวิตรักที่หลายคนยังไม่เคยรู้ ยอมรับกว่าจะลงเอยกัน เคยทะเลาะกันหนักมาก จนหวิดเลิกกันมาแล้ว

หลังจากที่เป็นเจ้าสาว ชีวิตเปลี่ยนมั้ย?

"แค่พูดคำว่าสามียังไม่คุ้นเลยค่ะ (หัวเราะ) พี่หมีก็บอกแบบนี้ พอเวลามีคนมาพูดกับพี่หมี เขาก็จะทำตัวไม่ถูก จริงๆ ก็เหมือนเดิมในมุมที่ดูแลกันและกัน มีการปรับตัวบางอย่างในการใช้ชีวิต เพราะมีบางอย่างเล็กๆ น้อยที่ปรับจูนกัน ไม่คุ้นบ้างในบางเรื่อง หรืออะไรให้ทำเยอะขึ้น ห่วงหามากขึ้น ถามไถ่กันมากขึ้น คุณผู้ชายก็จะตกใจนิดหนึ่งว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น เหมือนจะดูแลเป็นพิเศษอะไรแบบนี้อะค่ะ ก็เลยบอกว่าทำให้เหมือนเดิม แต่งงานกันมา 2 เดือนแล้วค่ะ ก็เป็นความรู้สึกที่ดี บอกไม่ถูก"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• ประมวลภาพงานแต่ง แพนเค้ก-สารวัตรหมี กับแฮชแท็ก #เรื่องราวดีดีของแพนหมี

• แพนเค้ก เขมนิจ-สารวัตรหมี กลั้นไม่ไหวเสียน้ำตากับเซอร์ไพร์สในงานแต่ง

• แพนเค้ก-สารวัตรหมี เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช รับประทานน้ำพระพุทธมนต์

หลังแต่งงานมีอะไรพิเศษขึ้น มีทำกับข้าวให้สามีกินบ้างมั้ย?

"พูดได้เต็มปากเลย ว่ายังไม่ได้ทำค่ะ (หัวเราะ) คือ...แต่ก็จะถามไถ่ตลอดว่าจะกินอะไร เหมือนกับนึกถึงกันบ่อยขึ้น ว่าเย็นอยากกินอะไร เช้าให้เตรียมอะไรให้มั้ย หรือมีอะไร จะให้เตรียมเบรกฟาสต์ให้มั้ย พี่หมีก็บอกว่าไม่เป็นไร (หัวเราะ) เดี๋ยวพี่บอกเองว่าอยากได้อะไร

ถามว่าพี่หมีมีความเปลี่ยนแปลงอะไรมั้ย จริงๆ เขาเป็นคนนึกถึงคนอื่นเยอะอยู่แล้ว เตรียมอะไรให้เราเยอะอยู่แล้ว กับข้าวส่วนใหญ่พี่หมีก็จะเป็นคนทำอยู่แล้ว เวลาไปซุปเปอร์เขาก็จะถามเอาอะไรมั้ย แล้วก็เตรียมอาหารไว้ให้ในตอนเช้า เขาก็เข้าครัวเอง ตอนนี้ใช้ชีวิตอยู่บ้านแพนเป็นหลักค่ะ แต่ว่าบ้านแพนกับบ้านคุณพ่อคุณแม่พี่หมีก็อยู่ใกล้ๆ กัน ก็เลยมีโอกาสได้ไปๆ มาๆ กัน แฮปปี้ค่ะ"

มีข่าววงในว่ากลางคืนกวนพี่หมี จนอีกฝ่ายไม่ได้นอน?

"ขนาดนั้นเลยค่ะ แบบไม่รู้ตัวด้วย ละเมอค่ะ (หัวเราะ) คือถ้าเรานอนคนเดียวเราก็จะไม่ค่อยรู้ ว่าเรานอนอะไรยังไง แต่ก็จะมีพี่หมีมาบอกว่าลุกขึ้นมานั่งหัวเราะ คือเหมือนพอเวลาทำงานเครียดๆ หน่อยก็จะงืมงำๆ พี่หมีเป็นคนลุกง่ายอยู่แล้ว เขาก็นึกว่าเราเป็นอะไร อ่อ...ละเมอ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราก็เกร็งๆ ว่าเขาจะตกใจมั้ยเวลามีคนมาอยู่ข้างๆ"

พี่หมีแอบพาผู้หญิงขึ้นห้องด้วย?

"ใช่ค่ะ (หัวเราะ) ต้องบอกว่าลูกๆ ทั้ง 3 ตัวคลอเคลียและแย่งความรักกันแบบสุดๆ เลย ลูกๆ ที่ว่าคือน้องหมา แล้วนอนด้วยกันบนเตียง พี่หมีอยู่ด้วยแล้วเขาก็อยู่ด้วยตรงนั้น พอพ่อกลับบ้านก็อยากมาหา อยากคลอเคลียนอนอยู่ข้างๆ ก็ต้องแย่งกันหน่อย คือนอนด้วยกันหมดเลย แต่บางทีเขาก็จะลงไปนอนข้างล่างที่นอนเขาบ้าง ตอนเช้าๆ ก็จะกลับขึ้นมานอนบนเตียง ก็ดีที่พี่หมีเป็นคนที่เข้าใจ และเขาก็รักน้องหมาอยู่แล้ว พอมาอยู่ด้วยกันก็เป็นครอบครัวใหญ่ค่ะ ถ้าเวลาจะสวีทกัน ก็เชิญลูกลงข้างล่าง (หัวเราะ)"

เรื่องมีลูก วางแพลนหรือยัง?

"ยังเลยค่ะ คือจริงๆ ก็มีการคุยกันว่าจะอะไรยังไง เตรียมตัวเลยมั้ย หรือว่าจะรอก่อน แต่เราสองคนก็เห็นตรงกันว่ารอก่อน เหมือนยังสนุกกับงาน การเดินทาง เลยยังไม่ได้กะเกณฑ์อะไรค่ะ คือมาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ชิลๆ ยังไม่ได้มองว่าจะมีกี่คนเลยค่ะ ถ้าเป็นวิธีธรรมชาติมันก็อาจจะยากหน่อย แต่ถ้าฝากไข่หรืออะไรคงต้องดูกันอีกทีหนึ่ง ส่วนเรื่องแพลนลูกแฝด คือจริงๆ คุณแม่ก็บอกให้มีไปเลยจะได้อยู่บ้านนู้นคนบ้านนี้คน"

ย้อนเส้นทางรักพี่หมี 11 ปีที่ผ่านมาก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน?

"มีค่ะ มีตลอด แต่เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ลักษณะนิสัยที่ไม่เหมือนกันบ้าง เช่นนิสัยใจคอบางอย่างพี่หมีจะเป็นคนละเอียด แต่เราก็จะเป็นคนชิวๆ ในบางเรื่อง ในบางเรื่องเราก็ไม่ได้นึกถึงอย่างความปลอดภัย พี่หมีจะแบบไม่ได้เลยนะเรื่องนี้ต้องช่วยกันดู แต่เราก็จะเอ่อ.. ชิว ก็ต้องมาปรับจูนกันในบางเรื่อง พี่หมีเป็นลูกคนเดียว เราเป็นครอบครัวใหญ่ เขาก็ใช้เวลาปรับกับเราเหมือนกัน เราก็ต้องปรับกับเขา เนื่องจากอายุต่างกันเยอะ"

ระหว่างที่คบกัน คิดไว้เมื่อไหร่ว่าคนนี้เราจะต้องแต่งงานด้วย?

"คือถามว่าจริงจังมั้ย จริงจัง จริงจังมาโดยตลอด ไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงจะมีวันของเราแบบนี้เหมือนกัน แพนว่าสักครึ่งทางก็ได้มั้งคะ สัก 6-7 ปี ก็เอ่อ เราจริงจังแหละดูแลกันแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วจะลงเอยยังไง จะได้แต่งงานมั้ยเราไม่ได้คิดถึงจุดนี้ค่ะ"

เจอกันครั้งแรกที่ไหน?

"ถามว่าเราเจอกันครั้งแรกที่ไหน คือเราเจอกันครั้งแรกตอนน้ำท่วม ปี 54 ไปช่วยน้ำท่วมกัน เรื่องราวดีๆ โดยที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เขาก็ไม่รู้จักเรา เขาก็จะนิ่งๆ มาดเยอะท่าเยอะ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยคุย เพิ่งมารู้ตอนหลังเราเป็นนักแสดง เลยได้มีโอกาสได้เจอได้คุยกันบ่อยขึ้น ณ ตอนนั้นเริ่มส่งแมสเสจหากันก่อน ละถึงโทรไป คือเขาก็ไม่ยอมโทรหาเราก่อนด้วยนะ ต้องรอเราโทรไป แล้วเขามาพูดทีหลังว่าเขาจะไม่โทรหาผู้หญิงคนนี้ก่อน คือเราไม่ได้จะโทรหา แต่มีเรื่องที่ทำให้เราต้องโทรไปไง หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ่อยขึ้น ได้ทำกิจกรรมต่อเนื่องกันมา"

เคยมีครั้งที่เกือบจะเลิกกันด้วย?

"ก็มีในหลายๆ เรื่องอะค่ะ จนถึงขั้นที่พี่หมีบอกว่าพี่ไม่ไหว อีกมุมนึงก็คิดว่าจะไปอยู่แล้วแหละ แต่เหมือนกับให้เราได้คุยกันก่อน แต่แพนก็บอกเวลาที่คุยกัน พอเวลาที่เขาพูดมาว่าเลิกกันมั้ย แพนก็จะบอกตัวเองว่าอย่าพูดคำนั้นออกไปนะ ถ้าพูดไปมันจะต้องรุนแรงมากกว่าเดิม เพราะถ้าเราไม่ต้องการที่จะไปถึงจุดนั้น เราก็ต้องหาจุดที่มันคุยกันเข้าใจให้ได้ คือเราจำเหตุการณ์ไม่ได้ แต่เขาบอกว่าเขาไม่ไหวละ ก็ต้องหาเรื่องมาคุยปรับความเข้าใจกัน คือไม่ควรปล่อยให้มันค้างข้ามวัน ยังไงก็หาทางเคลียร์ให้ลง"

เวลาเราเจอคำพูด 'ไปต่อไม่ได้แล้ว' ความรู้สึกมันเป็นยังไง?

"มันก็สตั้นไปแปบนึง แล้วก็เอายังไงดีนะ จะใช้วิธีไหนคุยหว่านล้อม ทำข้อสัญญาตกลงกันไว้ ว่าห้ามพูดคำว่าเราเลิกกันนะ เพราะแพนคิดว่าตราบที่เรายังรักและอยากดูแลกัน แพนก็จะบอกตัวเองว่าจะไม่พูดคำนั้น เพราะว่าถ้าเราพูดคำนั้น เราจะต้องไปให้ถึงตรงนั้นไง แต่ถ้าเราไม่พูดมันก็จะหาจุดลงให้ได้คุยให้เข้าใจและเคลียร์ให้ได้ แต่ถ้าคุยไม่เข้าใจ มันก็ต้องมีตัวช่วย หาคนมาไกล่เกลี่ยช่วยนิดหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่พี่หมี และคุณพ่อคุณแม่เรา แต่คือเราก็ไม่อยากให้ไปถึงขั้นนั้น"

"ก็อยากขอบคุณที่ดูแลกันมาโดยตลอด รวมถึงทั้งสองครอบครัวด้วยที่วันนี้เหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ มีสิ่งที่ต้องเรียนรู้ปรับจูนกัน แพนก็คิดว่ามันคือรสชาติของชีวิตค่ะ จะได้ครบรส แต่ก็คิดว่าตราบที่เรารักกัน มันก็จะมีเรื่องดีๆต่อไปเรื่อยๆ แน่นอน"