"ภูมิธรรม" เผย ประสานทุกพรรคโหวตแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย ไม่ปิดกั้นพรรคลุง พร้อมขอขมา “ก้าวไกล” ร่วมแก้วิกฤต ชี้ดีที่สุดคือตั้งรัฐบาลได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยจะนัดหารือพรรคก้าวไกล เพื่อขอให้ช่วยโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้มีวิกฤตของประเทศ 3 เรื่อง คือ เรื่องรัฐธรรมนูญ เศรษฐกิจ และการเมือง ดังนั้นจะใช้เวทีของวันนี้คลี่คลายปัญหาดังกล่าวให้ได้
ซึ่งการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ เป็นการจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ เพื่อแก้ปัญหาของประเทศ ไม่ใช่การเปลี่ยนขั้ว แต่เป็นการสลายขั้วทั้งหมด อยากให้ทุกคนหาทางออก เพราะครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งต่างๆสลายไป ซึ่งจะสำเร็จได้ต้องดึงทุกฝ่ายมาหารือกัน
ครั้งนี้พรรคเพื่อไทยมีโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาล และหวังว่าการเสนอนายกรัฐมนตรี คือนายเศรษฐา ทวีสิน จะเป็นแกนกลางดึงให้ทุกฝ่ายเข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน ในการสร้างประเทศไทยให้ลดความขัดแย้งลงไป และแก้ปัญหาทั้งหมดได้มากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแถลงการณ์ของพรรคที่มีความชัดเจน ทั้ง สว.และ สส. มาร่วม โดยจะดึงนโยบายที่ดีแต่ละพรรคเข้ามาดำเนินการ
ส่วนจะสามารถทำงานร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และพลังประชารัฐ หรือพรรค 2 ลุง ได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้พูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแบ่งขั้ว ดีที่สุดคือสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยจะสร้างมิติการเมืองใหม่ ไม่มีฝ่ายค้านและรัฐบาล พร้อมยืนยันวันนี้จะแถลงร่วมกับอีก 5 พรรคจัดตั้งรัฐบาล (พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย) และจะมีพรรคชาติพัฒนากล้า มาร่วมแถลงด้วย โดยเมื่อคืนนี้ได้มีการพูดคุยกับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าแล้ว
ส่วนอีกพรรคคือเพื่อไทยรวมพลัง มีความฉุกละหุกเล็กน้อยเพราะอยู่ต่างจังหวัด แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ยังไม่ใช่ที่สิ้นสุด พรุ่งนี้ก็ยังมีแถลงต่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• เพื่อไทย ลั่น ไล่หนูตีงูเห่า แค่เทคนิคหาเสียง สัปดาห์นี้รู้ดึงพรรคใดร่วม
• แถลงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย-ภูมิใจไทย รวม 212 เสียง เดินหน้าหาพรรคร่วม
•
อย่างไรก็ตาม ได้มีการติดต่อพรรคก้าวไกลเช่นกัน โดยจะใช้เวทีการแถลงในวันนี้ สื่อสารไปยังพรรคก้าวไกลเพื่อขอคะแนนโหวตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากมีวาระสำคัญของประเทศ เพื่อให้ความต้องการของประชาชนบรรลุความสำเร็จ และปัญหาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเกิดจากพรรคเพื่อไทย หรือตน หรือสิ่งใดก็ตาม พรรคเพื่อไทยยินดีไปขอโทษ ขอขมาพรรคก้าวไกล และพร้อมจะพบกับพรรคก้าวไกลเพื่อหาทางออกวิกฤตของประเทศด้วย โดยกำลังนัดพบวันนี้หรือพรุ่งนี้
พรรคเพื่อไทยคิดเรื่องใหญ่ของประเทศเป็นหลัก ไม่ได้คิดเรื่องเล็กน้อยหรือเรื่องตัวบุคคล ถ้าเราอยากทำงานเราก็ต้องคิดให้ใหญ่ด้วย ต้องมองข้ามความขัดแย้งเดิมไว้ เช่น ไล่หนูตีงูเห่า หรือความขัดแย้งหลายอย่าง โดนถ้าแก้ปัญหาได้ประเทศไทยสามารถเดินหน้าได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า วันนี้เราติดต่อไปทุกพรรค และค่อนข้างได้รับการตอบรับที่ดีในจุดเริ่มต้น แต่ก็มีรายละเอียดอื่นๆ ที่ต้องพูดคุยกัน รวมถึงความมั่นใจที่เพื่อไทยจะต้องแสดงให้เห็นว่ามีความจริงใจ ซึ่งเพื่อไทยยินดีที่จะยืนยันตามเจตจำนงค์ ตัวเลขทางคณิตศาสตร์แสดงให้เห็นชัดเจน ถ้าวันนี้ตั้งรัฐบาลไม่ได้ เรามีทางเลือกไม่กี่ทาง จึงจำเป็นต้องไปในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งมีต้นทุนที่ต้องจ่ายทั้งนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนอาจจะมีความไม่สบายใจ
วันนี้พรรคเพื่อไทยยอมทุกอย่าง ถ้าให้โอกาสเรา เราจะพิสูจน์ด้วยการทำงาน ทั้งนายกรัฐมนตรีของเรา และประสบการณ์การทำงานของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะผ่านพ้นวิกฤตทุกอย่างไปได้ ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยยินดีร่วมกับทุกพรรคการเมืองในการขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มีเพียงมาตรา 112 ที่เกี่ยวกับสถาบันหลักเราไม่แตะต้อง เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของประเทศ ถ้าเสนอเรื่องนี้มาเราคงเข้าร่วมไม่ได้
“วันนี้พูดชัดเจนแล้วว่าไม่มีการแบ่งขั้ว ทางที่ดีที่สุดคือทำให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองอื่น วันนี้ยังไม่มีพรรคใดบอกว่าไม่ร่วม ทุกพรรคอยากฟังรายละเอียด ซึ่งผมมองว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ ทุกคนจะต้องเข้าใจว่าทุกอย่างพิจารณาอย่างรอบคอบเเล้ว ว่าจะไปต่อได้ถ้าเอาประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง
เชื่อว่าทุกพรรคจะยอมรับได้ ซึ่งผมเรียกร้องทุกฝ่าย รวมไปถึง สว.ด้วย ทั้งรายบุคคล กลุ่มการเมือง อยากให้เป็นจุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง วันนี้พรรคเพื่อไทยอาสา และมีต้นทุนที่ประชาชนต้องตรวจสอบ หากทำไม่ได้ ในอนาคตประชาชนจะเป็นผู้ตรวจสอบและตัดสินพรรคเพื่อไทย” นายภูมิธรรม กล่าว
ส่วนจะได้รับคำตอบจากพรรคก้าวไกลเมื่อใดนั้น นายภูมิธรรม บอกว่า ขณะนี้ได้คำตอบจากพรรคการเมืองอื่นมาเรื่อยๆ และสามารถจะแถลงความชัดเจนได้เป็นระยะ จนกว่าจะถึงวันที่พรรคเพื่อไทยไปต่อไม่ได้ วันนั้นจะได้แถลงให้ประชาชนรับทราบ
นายภูมิธรรม ยังระบุอีกว่า เท่าที่พูดคุยกับพรรคการเมืองต่างๆ ไม่มีการเรียกร้องเก้าอี้รัฐมนตรี ไม่มีการคุยเรื่องกระทรวง เมื่อพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่พูดคุยเรื่องนี้ ปัญหาเรื่องการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีจึงยังไม่เกิดขึ้น วันนี้ต้องฝ่าวิกฤตกับรัฐธรรมนูญที่ผิดปกติไป เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรี จึงจะมาคุยในเรื่องอื่นๆ ต่อ พรรคที่มีนโยบายตอบสนองกับประชาชนได้ก็จะมาร่วมพูดคุยกัน
วันนี้ไม่ใช่เพียงการตั้งรัฐบาลอย่างเดียว ต้องมีการทำงานที่สอดประสานกัน และทำงานได้อย่างเต็มที่เท่าที่ต้องการ ฝ่ายค้านก็ต้องตรวจสอบได้อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ของประเทศ ถือเป็นแนวทางในการติดต่อ วันนี้ทุกท่านต้องถามตัวเอง ว่าพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการคลี่คลายสังคมให้หลุดจากความขัดแย้ง และวิกฤติเศรษฐกิจที่อยู่มา 8-9 ปี หรือไม่
ส่วนที่ยังมีอารมณ์หรือใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าเราอดทนทะนุถนอมกัน ชี้แจงกัน โดนหนักนิดเบาหน่อยเป็นเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่คือประเทศชาติบอบช้ำมากพอแล้ว
ส่วนจะมีโอกาสร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ นายภูมิธรรม บอกว่า ถามตนไม่ได้ ต้องถามว่าสิ่งที่ตนพูดมาจะเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้วค่อยตัดสินใจร่วมกัน