เช็กตัวเลข ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2566 จากกระทรวงมหาดไทย โดยจากสถิติพบว่า ผู้ที่มีอายุ 40-60 ปี หรือ Gen X มีจำนวนมากที่สุเ 52,241,808 มากสุด 20.8 ล้านคน และน่าจะมีผลต่อการโหวต เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศครั้งนี้
“มหาดไทย” เปิดตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 2566 จำนวน 52,241,808 คน พบเจน X (เกิด 2506-2526) มากสุด 20.8 ล้านคน ตามด้วยเจน Y (เกิด 2527-2546) 17.9 ล้านคน
สำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้เปิดเผยจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 โดยแยกตามช่วงอายุ (Generation) จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวม 52,241,808 คน ดังนี้
1.กลุ่ม Before Baby Boommer เกิดก่อน พ.ศ. 2491 จำนวน 2,956,182 ราย
2. กลุ่ม Generation Baby Boommer เกิดระหว่าง พ.ศ.2491-2505 จำนวน 9,326,314 ราย
3.กลุ่ม Generation X เกิดระหว่าง พ.ศ. 2506-2526 จำนวน 20,882,235 ราย
4.กลุ่ม Generation Y เกิดระหว่างพ.ศ.2527-2546 จำนวน 17,983,355 ราย
และ 5.กลุ่ม Generation Z เกิดระหว่าง 2547 จนถึงก่อนวันที่ 16 พฤษภาคม 2548 จำนวน 1,093,722 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เมื่อแยกรายละเอียดเป็นรายจังหวัด พบว่า
กรุงเทพมหานคร มีกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กลุ่ม Generation X มากสุด คือ 1,777,588 ราย
รองลงมาคือ กลุ่ม Generation Y จำนวน 1,455,337 ราย
กลุ่ม Generation Baby Boommer จำนวน 869,461 ราย
กลุ่ม Before Baby Boommer จำนวน 295,302 ราย
และกลุ่ม Generation Z จำนวน 81,467 ราย ตามลำดับ
กลุ่มเจเนอเรชันใด เป็นตัวแปรสำคัญ ศึกเลือกตั้ง 2566
เมื่อดูตัวเลขประชากรในแต่ละเจเนอเรชั่น จะพบว่า คน เจน X มีจำนวนประชากรมากที่สุด ตามมาติด ๆ ด้วยคนเจน Y ทั้งสองกลุ่มนี้ มีประชากรรวมกันราว 38 ล้าน หากเปรียบเป็นชิ้นขนมเค้ก นี่คือชิ้นเค้กก้อนใหญ่ที่สุด
นั่นหมายความว่าพรรคการเมืองใด สามารถกุมฐานเสียงในเจนเหล่านี้ไว้ได้มากที่สุด ในการเลือกตั้ง 2566 นั่นหมายถึงการมีโอกาสชนะในการเลือกตั้งสูง
แต่อย่างไรก็ตาม ตัวแปรสำคัญ คงอยู่ที่การออกนโยบายต่างๆ ทุกมิติ ที่จะต้อง กระแทกใจ ต้องเป็นนโยบายที่ดุดันไม่เกรงใจใคร คนวัยทำงานเหล่านี้ เป็นการบ้านข้อใหญ่ที่พรรคการเมืองทุกพรรคต้องระดมความคิด และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดกัน อย่างเต็มที่