ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
การบริหารจัดการที่ดี ซึ่งบ่าวสาวยุคใหม่ งบงานแต่งงานที่จำกัด ใช้จ่ายเงินได้คุ้มค่า แต่สร้างความประทับใจให้แก่แขกผู้มาร่วมงานได้ ก่อนอื่น ต้องปรึกษากันเองค่ะว่า อยากได้งานแต่งงานแบบไหน ธีมอะไร อาทิ ธีมรัสติค ธีมวินเทจ ธีมคลาสสิค รวมไปถึงธีมสี พอได้ธีม รูปแบบของการจัดงานแต่งงานก็จะตามมา จะมีแค่ พิธีเช้า เลี้ยงเที่ยง หรือพิธีบ่าย เลี้ยงค่ำ ก็ว่ากันไปการเตรียมงาน สามารถเลือกใช้บริการ เวดดิ้งแพลนเนอร์ มาดูแลงานให้ได้ แต่ถ้าอยากเซฟงบตรงนี้ บ่าวสาวก็แพลนเองได้ค่ะ แต่มันก็จะเหนื่อยๆหน่อย
จัดสรรงบงาน
- ค่าการจัดพิธีการช่วงเช้า 10-15% ในการจัดการเรื่องพิธีการแบบพิธีไทย จะหนักตรง “เครื่องขันหมาก” ทั้งขันหมากเอก ขันหมากโท ถ้าเป็นพิธีการแบบจีน ก็ต้องเป็นพิธีไหว้ฟ้าดินและยกน้ำชา รวมไปถึงค่าสินสอดทองหมั้น
- ค่าอาหาร เครื่องดื่ม ค่าเช่าสถานที่ 40-50% เตรียมไว้เลย เป็นส่วนที่ใช้งบมากที่สุด แต่เลือกเซฟได้ค่ะ เช่น จัดที่บ้านหรือร้านอาหารน่ารักๆ แทนโรงแรมหรูๆ ส่วนด้านอาหารและเครื่องดื่ม หากจำนวนแขกมาเยอะ เลือกจัดเลี้ยงแบบค๊อกเทล แทนการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ หรือโต๊ะจีน คุมกว่า
- แพ็กเกจภาพถ่ายและแต่งหน้าทำผม 5-10% มีหรือไม่มีก็ได้ค่ะ เพราะยุคนี้ เราทุกคนมีทักษะถ่ายรูปและแอพมากมาย เจ้าบ่าวเจ้าสาวถ่ายเอง หรือให้เพื่อนๆถ่ายให้ก็เก๋ และไม่เขินด้วย ส่วนชุดเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และช่างแต่งหน้า-ทําผม เจ้าสาวบางท่านแต่งสวยกว่าช่างก็มีค่ะ ดังนั้น ส่วนนี้ ถ้าดูแลตัวเองได้ ก็ช่วยเซฟได้มาก แถมไม่ต้องลุ้นว่าจะแต่งออกมาไม่ถูกใจได้อีกด้วย
จัดลิสต์รายละเอียดของที่จำเป็น
เช่น ใช้แบ็คดรอป แซมดอกไม้สดซัก 30 % ดีกว่าใช้ซุ้มดอกไม้สดทั้งหมด โซฟาหลุยส์ทองไม่มี ลองมองหาโซฟาย้อนยุคที่บ้านหรือตลาดของเก่าก็ได้อารมณ์อีกแบบ ซุ้มทางเข้างาน ป้ายหน้างาน พอลิสต์ได้แล้วว่าจะใช้อะไรก็มาจัดเรียงลำดับความจำเป็นดูอีกที เพื่อคุมงบให้ได้ดั่งใจ
ชุดเจ้าสาว
เช่าเลยค่ะ มีแบบให้เลือกมากมาย ลองใส่ได้ และให้ทางร้านปรับไซส์ให้ ไม่งั้น ชุดเจ้าสาวในมโนภาพกับชุดที่ตัดออกมาจริง อาจไม่ใช่อย่างฝัน เสียเวลาแก้ ซึ่งบางทีก็ไม่จวนเจียนใกล้วันงาน ตอนนี้มีชุดเจ้าสาวใช้แล้วขายผ่านออนไลน์ด้วยนะคะ นัดลอง นัดซื้อ กันเนิ่นๆ บางคนที่คิดว่า จะเก็บชุดแต่งงานชายยาวหางปลา 5 เมตร ไว้ในตู้ ลองคิดดูดีๆ ถึงที่เก็บ เพราะมันใส่ได้แค่หนเดียวจริงๆค่ะ
เลือกเชิญแขกคุณภาพ
เนื่องจากมีงบงานแต่งที่จำกัดสำหรับการจัดงานแบบเรียบง่าย เพราะฉะนั้นแขกที่จะเชิญอาจจะต้องลดจำนวนลง เหลือเพียงครอบครัว ญาติหรือเพื่อนที่สนิทและที่นับถือกัน การจัดงานแต่งงานแล้วคิดว่าจะต้องเชิญแขกมาร่วมงานเยอะ ๆ เพื่อหวังจะได้หน้าตาได้ตา และได้ซองเยอะตามไปด้วยนั้น ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไปนะคะ เพราะอย่าลืมว่ายิ่งจำนวนแขกมากเท่าไหร่ ค่าอาหารก็ต้องเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวตามไปด้วยนะคะ หลายงานเลือกเชิญแขก ประมาณ 100 – 200 คน ดูแลแขกได้ทั่วถึง ใกล้ชิดอบอุ่นกว่าค่ะ
ส่งการ์ดแต่งงานออนไลน์เชิญแขก
การพิมพ์การ์ดแต่งงานจำนวนมาก ๆ ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่าย เพื่อประหยัดงบงานแต่งงาน คู่บ่าวสาวจะต้องคำนวณจำนวนแขกที่มาร่วมงานแต่งงานให้ชัดเจน ถ้าเป็นเพื่อน ๆ อาจเลือกเชิญทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น ไลน์ เฟสบุ๊คอินสตาแกรม เป็นต้น แต่ถ้าเป็นแขกผู้ใหญ่ คู่บ่าวสาวจะต้องไปเชิญด้วยตนเองตามมารยาท
ลดค่าใช้จ่ายเรื่องวงดนตรี
เปิดแผ่นเพลงแทนการเล่นดนตรีสดค่ะ เสียงเพลงเพราะ ๆ จะช่วยสร้างบรรยากาศ เพราะบางทีแขกสนิทกันคุยกันขรม ไม่ทันได้ฟังเพลงด้วยซ้ำ
ร่วมแรงร่วมใจ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องของตกแต่งงานแต่งงาน
แนะให้ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน และญาติ ตามความถนัดและความสามารถของแต่ละคน เช่นบางคน มีความสามารถในการจัดดอกไม้ บางคนถนัดเรื่องการจัดการ บางคนถนัดในเรื่องของการประดิษฐ์ การเปิดเพลง การถ่ายภาพ การจัดซุ้มเครื่องดื่ม การ์ดเชิญ ของชำร่วย DIY กันไปค่ะ เดินหาซื้ออุปกรณ์จากแหล่งที่ถูก แล้วนำกลับมาช่วยกันประดิษฐ์
อาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ในงาน
เลือกอาหารที่ทานง่ายและราคาไม่โอเวอร์ ส่วนเครื่องดื่มอาจจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงไวน์แชมเปญ และน้ำอัดลม ก็เปลี่ยนเป็นน้ำสมุนไพรแทน แต่ถ้าจำเป็นต้องมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่จำเป็นต้องติดยี่ห้อ ลองใช้ไวน์ในไทยคุณภาพดีดูบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้
เค้กแต่งงาน
ถ้าแพลนไว้ว่าในงานต้องมีพิธีตัดเค้ก แนะนำให้ใช้คัพเค้กแทนการใช้เค้กปอนด์ เพราะราคาจะถูกกว่า แต่จัดวางหรือ ทำดีไซน์ให้เก๋ขึ้น หรือเปลี่ยนจากการตัดเค้กเป็นกิจกรรมอื่นๆ ที่น่ารัก เช่น การปลูกต้นไม้ หรือโชว์ทำสายไหม ก็เป็นการทดแทนและเป็นกิมมิคที่น่ารักๆ
ขอความเห็นใจจากเพื่อน และหัวหน้างาน
อย่าคิดว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญนะคะ บอกปากเปล่าไว้ตั้งแต่ได้ฤกษ์แต่งงานเลยค่ะ โดยเฉพาะกับหัวหน้างาน เค้าจะได้เข้าใจเหตุผลที่คุณอาจจะวุ่นวายกับการวางแผนจัดงานแต่งงานของคุณ
สุดท้าย อย่ามัวแต่กังวลหรือประหยัดไปซะทั้งหมดเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ใช้เวลาเตรียมงาน ซัก 3 – 6 เดือน เวลาไม่กระชั้น ช่วยให้ทุกอย่างไม่กดดันค่ะ หลังเตรียมงานเสร็จแล้ว อย่าลืมแพลน วันแต่งงาน วันฮันนีมูน ทุกอย่างต้องครบ จบในไม่เกินวันลาพักร้อนที่มีอยู่ ยิ่งถ้าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวเป็นมนุษย์เงินเดือนทั้งคู่ เวลาในการเตรียมงานก็อาจจะเหลือแค่เสาร์อาทิตย์ค่ะ ยิ่งคู่ไหนเป็นงานแต่งที่จัดต่างจังหวัด หรือจัดวันธรรมดา เรื่องวันลาพักร้อนสำคัญนะคะ โดยเฉพาะคู่ที่มีแพลนลายาว แต่งงานควบฮันนีมูนไปเลย ยิ่งต้องวางแผนและจัดการหลายอย่างมากขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือแพลนและบอกที่ทำงานตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ ทั้งหมดที่ลิสต์มาช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เป็นแสนแล้วนะคะ เมื่อวางแผนเต็มที่แล้ว ทำทุกอย่างที่ทำได้เท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยแล้ว ที่เหลือก็ปล่อยให้มันเป็นไปค่ะ เพราะคนที่มางาน ล้วนเป็นคนที่เรารัก และรักเรา ไม่ต้องไปกังวลใจ