ตีแผ่! ปมทุจริตโค่นบัลลังก์ผู้นำหญิงโลก

เมื่ออดีตผู้นำหญิงไม่ว่าจะประเทศไหนต้องเผชิญคดีคอร์รัปชัน ซึ่งทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เพราะผลลัพธ์ จะสะเทือนความพยายามเรียกร้องบทบาทสตรีในแวดวงการเมือง เรื่องราวของผู้นำหญิงที่ร่วงตกบัลลังก์จากคดีคอรัปชันในรายงานต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างของสิ่งที่นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีต่างไม่ต้องการเห็น

เหมือนซินเดอเรลลา ระฆังดังก้องเที่ยงคืน หมดเวลาหนึ่งคืนของดั่งเจ้าหญิง ก็เหมือนกรณีของปาร์ก กึน ฮเย การตัดสินคดีเดือนตุลาคมนี้ จะแปรสภาพเธอจากผู้นำหญิง กลายเป็นนักโทษคดีคอร์รัปชัน ที่พลิกโฉมการเมืองเกาหลีใต้ และเป็นความอับอายที่จะจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ไม่ลืมเลือน

ข่าวอื้อฉาวสัมพันธ์กับคนสนิทนอกวงการเมือง ชอย ซุน ชิล และปมทุจริต ที่เผยถึงด้านมืดของฝ่ายบริหารและมหาอำนาจธุรกิจอย่างซัมซุง นำมาสู่การประท้วงใหญ่ทั่วประเทศนานหลายสัปดาห์ ที่กดดันรัฐบาลจนต้องทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับการเมืองเกาหลีใต้มาก่อน นั่นคือการถอดถอนประธานาธิบดีปาร์ก กึน ฮเย วัย 65 ปี ลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา

ไร้ซึ่งสถานะทางการเมืองคุ้มครอง อัยการไม่รอช้า ดำเนินคดีปาร์ก กึน ฮเย อย่างไร้ความปราณี ควบคุมตัว และตั้งข้อหา 18 กระทง ไม่ว่าจะติดสินบน ฉ้อฉล สมคบคิด ใช้อำนาจในทางที่ผิดเพื่อรีดไถเงินจากเจ้าพ่อธุรกิจ แลกกับการซื้อใจรัฐบาล ซึ่งข้อหาร้ายแรงสุด นางปาร์กรับเงินใต้โต๊ะ หรือรีดสินบน รวมเงินกว่า 1,700 ล้านบาท ให้ตัวเธอเอง หรือนางชอย คนสนิท เมื่อสินบนแลกสินน้ำใจนั่นคือสิ่งที่ ลี แจ ยง ทายาทซัมซุงยอมเสี่ยง และตอนนี้ก็ถูกหางเลข โดนคดีเช่นเดียวกับนางปาร์ก

ชาวเกาหลีใต้ตั้งตารอการตัดสินคดีเดือนตุลาคมปีนี้ พร้อมกดดันจนศาลสูงสุดยกเลิกข้อห้ามการถ่ายวิดีโอในศาล ปูทางสู่การถ่ายทอดสดการพิจารณาคดีปาร์ก กึน ฮเย ตลอดการไต่สวน ตีแผ่ภาพเจ้าหญิงการเมืองแห่งเกาหลีใต้ ที่ร่วงหล่นสู่นักโทษคดีทุจริต

การเมืองบราซิลพลิกโผ ผันแปร ขั้วเปลี่ยนอย่างคาดไม่ถึงภายในเวลาเพียงไม่นาน และวันที่ 31 สิงหาคมนี้ จะครบรอบ 1 ปี ที่วุฒิสภาลงมติถอดถอนดิลมา รูสเซ็ฟ จากความเป็นประธานาธิบดีบราซิล เหตุการณ์ที่เธอเรียกว่า การรัฐประหาร ที่ถอนรากขั้วการเมือง ไปถึงครูผู้ชี้นำของเธอ อดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลุลา ดา ซิลวา ที่ศาลตัดสินจำคุกเกือบ 10 ปี จากข้อหาคอร์รัปชันและฟอกเงิน โดยเฉพาะคดีอื้อฉาวกับบริษัทน้ำมันเปโตรบราส ที่นางรูสเซ็ป เคยเป็นกรรมการผู้จัดการก่อนขึ้นเป็นผู้นำ ทั้งการยักยอกเงิน ติดสินบน และอสังหาริมทรัพย์อันมีที่มาน่าสงสัย

จุดจบทางการเมืองของรูสเซ็ฟ คล้ายกับปาร์ก กึน ฮเย ประชาชนหลายล้านคนประท้วง กดดันจนสภาต้องลงมติถอดถอน เหลือไว้เพียงคำเตือนของนางรูสเซ็ฟว่า “อย่าคิดว่าเกมการเมืองนี้จะจบ ฝ่ายค้านหวังยึดอำนาจ แต่ชนะเลือกตั้งไม่ได้ ดังนั้น อนาคตประชาธิปไตยของบราซิล กำลังเผชิญความท้าทาย”

การต่อสู้ทวงศักดิ์ศรีของอดีตสตรีเหล็กผู้ตกอับ กำลังเปิดม่านขึ้นในอาร์เจนตินา กับความพยายามทวงบัลลังก์การเมืองของคริสตินา เฟอร์นันเดส เคิร์ชเนอร์ อดีตประธานาธิบดี วีรสตรีทางการเมืองที่ขึ้นสานต่อเจตนารมณ์ของสามี ครองอำนาจปกครองมานานหลายปี ก่อนจะอำลาตำแหน่งในปี 2015 และตอนนี้กำลังเผชิญการสืบสวนข้อหาคอรัปชัน 3 กระทง และพิจารคดีอีก 1 ข้อหา ฐานบริหารการเงินผิดพลาดระหว่างดำรงตำแหน่ง ซึ่งนางเคิร์ชเนอร์โจมตีว่ามีนัยยะทางการเมือง

คุณแม่ลูกสอง หม้ายสามี ไม่ยอมให้เรื่องราวของเธอมีมลทินไปมากกว่านี้ เธอตั้งพรรคการเมืองของตนเอง และเตรียมลงชิงชัยศึกเลือกตั้งทั่วไปในเดือนตุลาคมนี้ หวังนั่งเก้าอี้วุฒิสมาชิก ที่จะเป็นบันไดไปสู่การทวงบัลลังก์ประธานาธิบดีคืนมา แต่ผู้ที่คัดค้านกลับมองว่า ศึกทวงศักดิ์ศรีของเคิร์ชเนอร์ เป็นเพียงข้ออ้างเรียกคะแนนสงสาร เพราะแท้จริงนางเคิร์ชเนอร์ถึงทางตัน ทางเดียวที่จะรอดข้อหาทุจริตได้ คือความคุ้มครองทางการเมือง จากตำแหน่งในวุฒิสภานั่นเอง

3 สตรีเหล็ก 3 อดีตผู้นำ กับ 3 เรื่องราวการชดใช้ความผิดที่นำอำนาจที่ประชาชนมอบให้ เพื่อประโยชน์ส่วนตนยังไม่จบสิ้น ปาร์ก กึน ฮเย อาจต้องใช้ชีวิตที่เหลือในเรือนจำ....

ชีวิตหลังถอดถอนของรูสเซ็ฟ ยังเต็มไปด้วยมรสุม ... และการต่อสู้ที่ดูยาวนานของเคิร์ชเนอร์ ไม่ว่าจะลงเอยยังไง มันยิ่งตอกย้ำบทเรียนว่า ผู้นำการเมืองสตรี หากพลาดพลั้ง ก็ร่วงหล่นได้...เสมือนความตายที่มามนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม ความยุติธรรมก็สำเร็จโทษทุกคนอย่างไม่เลือกหญิงชายเช่นกัน

[embed]https://youtu.be/SQxFz7cTyZM[/embed]