เปิดที่มาบุกจับ อธิบดีกรมอุทยานฯ หลัง “ชัยวัฒน์” เข้าร้อง บก.ปปป.เอาผิด เผย จนท.ส่วนใหญ่จำใจต้องจ่ายสินบน หลัก 5 แสน ถึง 1 ล้านบาท กลั่นแกล้งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ไม่ยอมจ่ายเงิน สร้างความเดือดร้อนให้ลูกน้อง-ครอบครัว
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมทอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยกล่าวหาว่า มีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการ
ในข้อหาว่า เป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่ กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต หรือ ความผิดอื่นใด
โดยเนื้อหาในคำให้การของ นายชัยวัฒน์ ระบุว่า ขณะที่เข้ารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 จ.อุบลราชธานี ได้ข้อมูลจากผู้ใต้บังคับบัญชา หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งว่า ตั้งแต่ที่นายรัชฎา เข้ามารับตำแหน่ง ได้มีคำสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ไปยังตำแหน่งอื่นๆ ที่ห่างไกล จากภูมิลำเนา ที่เจ้าหน้าที่คนที่ถูกย้ายพำนักอยู่
ทำให้ต้องมีการวิ่งเต้นที่ สำนักงานอธิบดี รายละ 500,000 - 100,000 บาท หากผู้ใดไม่มาวิ่งเต้นก็จะถูกโยกย้ายไป ทำให้เกิดความเดือดร้อนในครอบครัวเป็นอย่างมาก และเมื่อทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยแล้ว จะต้องมีการจ่ายเป็นรายเดือนอีก จึงต้องการที่จะเอาผิดดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยระบุว่าเหตุเกิดตั้แต่เดือน 2564 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้นายชัยวัฒน์ ยังระบุว่า เมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 จ.อุบลราชธานี ได้พบว่า อธิบดี ได้เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่นอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย, หน่วยป้องกันไฟป่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงานและ ค่าใช้สอย
โดยก่อนที่ นายชัยวัฒน์ จะเข้ารับตำแหน่ง ได้รับเรื่องร้องเรียนมาก่อนแล้ว โดยมีการขอให้ช่วยประสานงานกับผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาโยกย้ายตำแหน่ง ขอให้ช่วยไม่ให้ถูกอธิบดีรายนี้โยกย้าย แต่สุดท้ายนายชัยวัฒน์ ไม่สามารถเจรจาได้ ทำบุคคลดังกล่าวที่มาร้องขอให้ช่วยเหลือถูกย้ายเนื่องจากไม่ได้จ่ายเงินให้กับ อธิบดี
มีรายงานอีกว่า พฤติการณ์ของอธิบดี ได้ให้หัวหน้าหน่วยในกรมฯ นั้น หาเงินมาจ่ายให้กับ อธิบดีฯ เพื่อรักษาตำแหน่งตัวเองไว้ โดย ลักษณะจะมีการโยกย้ายแต่งตั้ง หัวหน้าหน่วย เพื่อแสดงให้เห็นว่า หากไม่มีการจ่ายเงิน จะถูกย้ายออกจากตำแหน่ง ซึ่ง หัวหน้าหน่วยที่ยอมจ่ายเงินให้ โดยได้เคยมีการสอบถาม หรือพูดคุยนั้น พบว่าจำใจจะต้องจ่ายเงินให้กับ อธิบดี เพื่อรักษาตำแหน่งตัวเองไว้ เนื่องจากมีครอบครัว ซึ่งถ้าหากถูกย้ายครั้งหนึ่งจะทำให้ต้องโยกย้ายครอบครัวตามไปด้วยสร้างความเดือดร้อน
หัวหน้าหน่วยจึงจำเป็นต้องหาเงิน ไม่เว้นแม้ว่าจะเป็นเบี้ยเลี้ยง หรือเงินส่วนตัว รวมถึงเงินอื่นใดๆ มาให้กับอธิบดี ตามที่มีการตั้งตัวเลขจำนวนเงินไว้ และเมื่อได้เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าหน่วยจะต้องจ่ายเป็นรายเดือนต่อเดือนอีก