วันคริสต์มาส 2022 ประวัติ 25 ธันวาคม วันเฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ ที่มาของตำนานซานตาคลอส ต้นคริสต์มาส และการประดับดวงไฟ ฯลฯ
ประวัติ วันคริสต์มาส Christmas Day ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม 2565 เป็นการฉลองวันเกิดของ "พระเยซู" พระบุตรของพระเจ้าที่ทรงลงมาบังเกิดเป็นผู้ไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์ พระองค์ถือกำเนิดโดยโยเซฟและมารีย์ ในรางหญ้า เมืองเบธเลเฮม ในยุคโรมัน สมัยจักรพรรดิออกัสตัส โดยมีทูตสวรรค์ของพระเจ้าไปบอกคนเลี้ยงแกะว่า "พระผู้ช่วยให้รอดของท่านทั้งหลาย คือพระคริสตเจ้า มาบังเกิดแล้ว"
ในยุคโรมันโบราณ 25 ธันวาคม ถือเป็นวันฉลองวันเกิดของ "พระจักรพรรดิ" ซึ่งเปรียบประดุจสุริยเทพ หรือ ดวงอาทิตย์ การที่คริสตชนที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน ลักลอบฉลองวันเกิดพระเยซูจึงเป็นสิ่งที่ผิด และขัดแย้งกับจักรวรรดิโรมันอย่างรุนแรง ในช่วง ปี ค.ศ. 64-313 จึงไม่มีการจัดงานฉลองให้พระเยซูอีกเลย จนกระทั่งวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ. 330 ถึงเริ่มจัดงานวันคริสต์มาสอย่างเปิดเผย และแพร่หลายไปทั่วโลก
ที่มา ซานตาคลอส? ตำนานดังกล่าวเล่าว่า "นักบุญเซนต์นิโคลัส" (Saint Nicholas) ได้ปีนบ้านเด็กหญิงยากจนในคืนวันคริสต์มาสอีฟ วันที่ 24 ธ.ค. เพื่อนำถุงเงินไปทิ้งลงในปล่องไฟ ซึ่งถุงของขวัญได้ตกลงในถุงเท้าที่ผิงไฟไว้จนกลายเป็นประเพณีที่เด็กๆจะนำถุงเท้าไปผิงที่ปล่องไฟเพื่อรอซานตาคลอสมามอบของขวัญนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีตำนานซาตาคลอสว่าอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเอลฟ์ และกวางเรนเดียร์เก้าตัว เชื่อกันว่าซานตาคลอสทำรายชื่อเด็กทั่วโลก และแบ่งประเภทพวกเขาตามพฤติกรรม ("ดื้อ" หรือ "น่ารัก") และในกลางดึกวันคริสต์มาส ซานตาคลอสจะแอบเข้าไปในบ้านที่มีเด็กประพฤติดีทางปล่องไฟ เพื่อนำของขวัญไปใส่ในถุงเท้าที่แขวนรอไว้หน้าเตาผิง
สำหรับกิจกรรม วันคริสต์มาส ซึ่งถือเป็นวันฉลองวันเกิดของพระเยซู ศาสดาของศาสนาคริสต์ ผู้คนจะตกแต่งสถานที่ บ้านพักอาศัย ด้วยต้นคริสต์มาส (ต้นสน) ที่ติดไฟระยิบระยับ และของขวัญเล็กๆ เป็นการรวมญาติ หรือรับประทานอาหารเฉลิมฉลอง มีการแจกขนม ลูกอม คุ้กกี้ หรือดื่มช็อกโกแลตร้อน รวมถึงสวดมนต์ขอพรต่อพระเป็นเจ้า และแน่นอนจะมีการนำของขวัญมามอบแก่เด็กๆ สร้างรอยยิ้มและความอบอุ่นในครอบครัวได้เป็นอย่างดี