"ม้า อรนภา" เปิดใจครั้งแรก หลังเกิดดราม่าตบหน้า "ดารารุ่นน้อง" กลางห้างเกาหลี บอกได้ขอโทษ-ปรับความเข้าใจกับอีกฝ่ายแล้ว ยืนยันตนไม่ได้ตั้งใจ แค่มือไว จนเผลอแตะน้อง
จากก่อนหน้านี้ที่อดีตพิธีกรชื่อดัง "ม้า อรนภา" ตกเป็นประเด็นร้อนกรณีดราม่าที่ "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" โพสต์แฉว่า "นักแสดงรุ่นใหญ่ลายคราม รับจ็อบพาลูกค้า ซึ่งเป็นดาราช่องน้อยสี ไปเสริมหล่อที่เกาหลี ปรากฎว่าไม่พอใจที่ชวนไปกินปูแล้วน้องดาราไม่ไป ตบหน้าฉาดใหญ่กลางห้างดัง!!!" พร้อมโพสต์คลิปเหตุการณ์ตบกลางห้างเกาหลี
โดยล่าสุดวันนี้ (30 พ.ย.65) ม้า อรนภา ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวทันที หลังแลนดิ้งถึงประเทศไทย เจ้าตัวได้เล่าเหตุการณ์จุดเริ่มต้นที่เกิดเหตุแตะหน้ารุ่นน้อง เพราะตกใจที่อีกฝ่าย "ไม่ไปกินปู" ด้วยกันตามที่นัดหมายไว้ จึงมือไว เผลอแตะน้องไป ซึ่งตอนนั้นตนได้ขอโทษและปรับความเข้าใจกับน้องแล้ว ตั้งแต่อยู่เกาหลี
โดยเนื้อหาใจความที่เจ้าตัวชี้แจง มีดังนี้
- พี่เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับผิด พี่ได้ขอโทษน้องแล้ว เราปรับความเข้าใจกันแล้ว ซึ่งน้องก็เข้าใจ แต่ไม่ทราบว่าน้องมีบางสิ่งบางอย่างคาใจ ทำให้มีการไปปรึกษาทนายหลายๆคน
- พี่ทำมาร์เก็ตติ้งให้โรงพยาบาลศัลยกรรมเกาหลีหลายปีแล้ว วันหนึ่งน้องติดต่อมา เราจึงติดต่อไปทางเกาหลี เพื่อพาไปทำจมูก ก่อนจะไปทำ 2 วัน น้องขอเราไปเที่ยว ให้พาไปเที่ยวหน่อย เราก็บอกไม่มีปัญหา เพราะเราดูแลครบถ้วน เราก็ชวนไปกินปู เราก็เช็กร้าน หาข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โซเชียลขุดวีรกรรม ม้า อรนภา ในอดีต ก่อนมีดราม่าตบหน้าสนั่นเกาหลี
ม้า อรนภา ขอบคุณทนาย หลังให้ความรู้เรื่องคดี เตรียมแถลงดราม่าตบ 30 พ.ย.นี้
เปิดคลิป ดารารุ่นใหญ่ ตบหน้า ดาราน้องใหม่ กลางห้างเกาหลีเพราะไม่ไปกินปู?
- หลังจากเดินซื้อของ จู่ๆน้องพูดมาว่า 'ไม่ไปกินปูแล้วนะ' ส่วนเราก็มือไว แตะที่หน้าไป คือเราไม่ได้โมโห แค่มือไว และพูด 'จะบ้าเหรอ' จากนั้นน้องก็มีปฏิกิริยาพูดว่า 'ตบหน้าผมเลยเหรอ' เราก็บอกขอโทษ ที่ทำไปเพราะตกใจเรื่องเปลี่ยนแพลน ถ้าไม่ไป ควรบอกล่วงหน้า
- จากนั้นน้องก็เดินไป ขออยู่คนเดียว ส่วนเราก็ยืนรอให้น้องสงบสติอารมณ์ และเราก็เดินเข้าไปขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ ไม่ได้ตั้งใจ สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะตกใจ เราบอกน้องว่าการอยู่ร่วมกันนั้น ต้องคนละครึ่ง จะไปหรือไม่ไปควรบอกกัน เราก็สอนอะไรหลายๆอย่าง และพูดขอโทษตลอด
- น้องก็บอก 'ผมเข้าใจ เรื่องนี้ผมจะไม่บอกใคร' ส่วนเราก็ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ เราคุยกันสักพัก จนทุกอย่างเข้าใจ และน้องก็บอกยังเคารพเราและเข้ามากอด พอทุกอย่างสงบลง น้องก็พูดว่า 'ไปกินปูกันครับ' เราก็ไป พอกินปูเสร็จเรียบร้อย ก็แยกย้ายกลับห้อง เพราะวันรุ่งขึ้นต้องพบแพทย์
- ที่ผ่านมาคุยกันปกติ เราไปส่งน้องที่โรงพยาบาล ตอนเย็นก็รับกลับ ซึ่งตั้งแต่วันที่ผ่าตัด จนวันพักฟื้น เราติดต่อกันปกติ เพราะเราอยู่กับลูกค้าตลอดเวลา เพื่อคอยบอกว่าต้องดูแลยังไง
- เรื่องที่เกิดขึ้น ทางการเกาหลีไม่ได้อะไรกับเราเลย ดิฉันยังใช้ชีวิตปกติ ทุกวันนี้เกาหลีไม่ได้ติดต่ออะไรมา ส่วนภาพตำรวจในพื้นที่นั้น สันนิษฐานว่าเขาคงได้รับคำบอกเล่าจากทนาย เพื่อเก็บเป็นหลักฐาน คาดว่าที่ไปลงบันทึกประจำวันนั้น เพื่อขอภาพกล้องวงจรปิด ไว้เป็นหลักฐาน
- ซึ่งพอดิฉันรู้เรื่องราวทั้งหมด ก็ติดต่อหาน้อง แต่เขาไม่รับ ส่วนสาเหตุที่น้องไม่พอใจนั้น ดิฉันไม่รู้เลย แต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้คุยกับน้อง เขาพูดว่า 'พี่คงไม่เครียด เพราะพี่ผ่านมาเยอะแล้ว แต่ผมเครียดมาก เพราะเขาไม่คิดว่าเรื่องราวจะใหญ่โตขนาดนี้'
- ที่ดิฉันพูดมาทั้งหมด คือเรื่องราวตามนี้ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันจบตั้งแต่ที่จับมือกันที่เมียงดงแล้ว ตอนนี้ยังไม่คิดเรื่องฟ้อง ไม่มีอะไรจะพูดกับทนายคนนั้น เพราะตั้งแต่ดิฉันออกจากงาน ทุกคนโจมตี ดิฉันเลือกที่จะเงียบตลอด ส่วนพรุ่งนี้ 1 ธ.ค.65 จะไปเคลียร์กับน้องที่รายการ 'คุยแช่บโชว์'