ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ทวงถามความคืบหน้าคดีตู้ห่าว พบเงื่อนงำมากมาย ได้สัญชาติไทยมาได้อย่างไร เงินบริจาค 3 ล้าน ให้กับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง มีที่มาผิดกฎหมายหรือไม่
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวทวงถามความคืบหน้ากรณีที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมผับจินหลิง (คดีตู้ห่าว) บนถนนเจริญราษฎร์ เขตยานนาวา เปิดเป็นคาราโอเกะบังหน้าแต่มีบ่อนการพนัน พบยาเสพติดเป็นเฮโรอีน ยาอี และเงินสดหมุนเวียนอีก 1.3 ล้านบาท ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ธุรกิจสีเทาของนายทุนจีนลักษณะนี้ มีทั้งในเขตยานนาวา รัชดาภิเษก ห้วยขวาง ที่พิเศษคือ มีการรับฝากยาเสพติดที่เสพไม่หมดไว้ที่ร้านเหมือนการฝากเหล้าอีกด้วย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า นายชัยณัฐร์ กรณ์ชัยยานนท์ (ตู้ห่าว) แปลงสัญชาติเป็นไทย ตนตั้งกระทู้ในสภาแต่ไม่มีใครตอบคือ ใครให้สัญชาติไทย ให้ด้วยหลักเกณฑ์อะไร มีชื่อนายชัยณัฐร์ เป็นผู้บริจาคเงินให้พรรคการเมืองหนึ่ง 3 ล้านบาท ซึ่งน่าสงสัยว่าเงินนี้มาจากการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ และใครพาคนนี้ไปบริจาคเงินให้พรรคการเมือง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าเขามีสัญชาติอื่นจะบริจาคเงินให้พรรคการเมืองไม่ได้ ที่ตำรวจจะต้องสืบให้ลึกลงไปกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยเงียบหาย
ธุรกิจสีเทา การพนัน และยาเสพติด มีรากเหง้าปัญหามาจากส่วยทุจริต ซึ่งเวลามีปัญหาอย่างกรณีนี้ก็แค่ย้ายผู้กำกับสถานีตำรวจยานนาวาแค่คนเดียว แล้วก็ให้รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 รักษาราชการแทน แล้วก็เกิดปัญหารองผู้บังการตำรวจนครบาล 6 ไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายหาว เจ๋อ ตู้ (ตู้ห่าว) ถูกร้องเรียกรับผลประโยชน์แลกปล่อยรถหรู แสดงให้เห็นว่าระบบส่วยทุจริตเต็มไปหมด ทั้งหมดนี้ แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการปราบปรามการทุจริตคอร์รับชัน การแก้ปัญหายาเสพติด
“เมื่อวาน พลเอกประยุทธ์ ได้แจกหนังสือผลงานรัฐบาล ตนเปิดอ่านดูพบอ้างผลงานมากมายด้านปราบยาเสพติด ทุจริตคอร์รับชัน ซึ่งจากกรณีผับจินหลังแสดงให้เห็นชัดว่ามันล้มเหลวไปแล้ว ไม่มีอยู่จริง และถ้านายกรัฐมนตรี เข้ามารายงานผลงานในสภาวันไหน ตนจะอภิปรายเรื่องนี้แน่นอน” รองหัวหน้าพรรค กล่าว