ชูวิทย์หอบหลักฐานทุนจีนสีเทา ยื่นให้กระทรวงยุติธรรม ลั่นไม่กลัวสันธนะตรวจสอบเอาผิดธุรกิจอาบอบนวด เพราะขายไปหมดแล้ว
วันนี้ที่กระทรวงยุติธรรม ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง นำหลักฐานเอกสารมายื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยมีว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมต.ยุติธรรม เป็นผู้รับมอบหนังสือ ให้ตรวจสอบกระบวนการทุนจีนสีเทา ที่เข้ามาทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย
โดยชูวิทย์ ระบุว่าวันนี้มาในฐานะพลเมืองที่อยากจะช่วยเหลือสังคม เพราะตนเองเห็นความผิดความชั่วร้ายของธุรกิจทุนจีนสีเทา โดยเฉพาะ นายตู้ห่าว ที่เป็นนายทุนจีนตัวการใหญ่ ทั้งที่ที่ผ่านมาตนเองนำเสนอข้อมูลต่างๆไปแล้วแต่จนตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ ออกหมายเรียก หรือการไปตรวจสอบนายตู้ห่าว เลย ตนจึงนำข้องมูลที่เป็นเอกสารทั้งเส้นทางการเงิน ข้อมูลกลุ่มนอมีนี และข้อมูลทรัพย์สินของนายตู้ห่าว ที่มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท และตั้งข้อสังเกตว่า นายตู้ห่าวนั้นเป็นแหล่งฟอกเงินของใครหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชูวิทย์ แฉ เครือข่ายตู้ห่าวทุนจีนสีเทา ไม่ธรรมดา หลบหนีได้อย่างไร้ร่องรอย
“ชูวิทย์" ตั้ง 1 แสนบาท รางวัลเจ้าของคลิป “สันธนะ ทำผิดกฎหมาย”
ส่วนที่ว่าหลังจากนี้จะต้องการให้กระทรวงยุติธรรมคุ้มครองพยานหรือไม่ นายชูวิทย์บอกว่า ตนเองไม่ต้องการที่จะให้คุ้มครองพยาน เพราะตนเองไม่กลัว และเคยผ่านความเป็นความตายมาก่อนหน้านี้
ส่วนกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล ที่จะมายื่นหนังสือให้กระทรวงยุติธรรมตรวจสอบการเสียภาษีธุรกิจอาบอบนวดของชูวิทย์ ในช่วงบ่ายนี้นั้น ชูวิทย์บอกว่า ไม่กลัวและยินดีที่จะให้ตรวจสอบ เพราะธุรกิจอาบอบนวดของตนเองนั้นได้ขายไปหมดแล้ว และไม่รู้ว่าจะอยากตรวจสอบไปทำไม
โดยพรุ่งนี้ที่ตนจะไปฟ้องศาลอาญา ไปฟ้องนายสันธนะ ในกรณีที่นายสันธนะกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา และจะไปห้องศาลแพ่งในวันเดียวกัน ซึ่งจะเรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท และบอกว่านี่เป็นครั้งแรก ที่ตนเองเป็นโจทย์ในการฟ้องคดี และในวันพุธที่ 23 พฤศจิกายน ตนเองจะไปรัฐสภา เพื่อยื่นเรื่องถึงข้อมูลให้กับประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ และจะเปิดเผยข้อมูลลับเกี่ยวกับนายสันธนะ ที่ตนเองมองว่า เป็นแค่จิ๊กโก๋ปากซอย และยังถูกไล่ออกจากราชการ แต่กลับไปฟ้องร้องผู้อื่นไปทั่ว
ขณะที่ตนเองพร้อมเชื่อ การที่ตนเองนำข้อมูลมาให้กระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ เพราะเชื่อว่ามีความโปร่งใส และยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีข้อขัดแย้งกับใคร แต่อยากจะที่จะให้หน่วยงานตรวจสอบ
ขณะที่ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เผยว่าเบื้องต้นต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมข้อมูลว่าเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยวันนี้ได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และพ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ พิจารณาตามเงื่อนไข ว่ามีการฟอกเงิน การประกอบธุรกิจในบุคคลต่างด้าว การประมูลงานของรัฐกับกลุ่มนายทุนจีน ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการแสวงหาหลักฐาน
นอกจากนี้ มีการรายงานข่าวว่า สันธนะท้าทายให้นายชูวิทย์อยู่รอในช่วงบ่าย ซึ่งนายชูวิทย์ ได้บอกว่า ไม่รอให้เสียเวลา เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีก เช่นที่ศาล หรือที่อื่น ขืนรออยู่อาจจะได้มีการตบกบาลก็เป็นได้