กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดตัววรนัยน์ วาณิชกะ ร่วมทีมชาติพัฒนากล้า เน้นเจาะฐานคนรุ่นใหม่ ด้านวรนัยน์รับเสียดายทิ้งรวมไทยยูไนเต็ด ลั่นพร้อมทำงานการเมืองเพื่อประเทศ
วันนี้ที่พรรคชาติพัฒนากล้า กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แถลงข่าวเปิดตัววรนัยน์ วาณิชกะ อดีตผู้ก่อตั้งและหัวหน้าพรรครวมไทยยูไนเต็ด และทีมคนรุ่นใหม่ ที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติพัฒนากล้า
กรณ์กล่าวยอมรับว่าได้พูดคุยและชักชวนให้ร่วมงานกัน เพื่อสร้างพลังเพื่อเดินไปสู่เป้าหมาย ซึ่งการได้ทีมคนรุ่นใหม่จากพรรครวมไทยยูไนเต็ด ร่วมทีมพรรคชาติพัฒนากล้าจะทำให้การขับเคลื่อนของพรรคให้เป็นจริงได้ โดยจะพิจารณาให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงเป็นคณะทำงานในพรรค เช่น ฝ่ายนโยบาย ซึ่งไม่ได้กำหนดเงื่อนไข หากแนวความคิดนโยบายและอุดมการณ์การทำงานตรงกัน ก็พร้อมต้อนรับทุกคน
ข่าวที่น่าสนใจ
กรณ์ VS วัชระ ปลดล็อกต่างชาติถือครองที่ดิน คนไทยได้หรือเสีย ?
มติเอกฉันท์ กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ปรับทัพสู้ศึกเลือกตั้ง
กรณ์กล่าวต่อไปว่า “การส่งผู้สมัคร ส.ส.นั้น ทีมของนายวรนัยน์ เบื้องต้นจะลงสมัคร ส.ส.กทม. ซึ่งไม่ทับซ้อนกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคชาติพัฒนากล้าที่วางไว้แล้ว อีกทั้งทีมของนายวรนัยย์ที่มาร่วมงานจะเน้นการเจาะกลุ่มของคนรุ่นใหม่ ล่าสุดได้ช่วยพรรคในส่วนของพื้นที่ จ.ภูเก็ต และ จ.นครราชสีมา"
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ร่วมงานทางการเมือง เกิดจากกติกาการเมืองที่เปลี่ยนไป กรณ์กล่าวยอมรับว่ากติกาการเมืองส่งผลกับยุทธศาสตร์การเดินของพรรคการเมือง เป้าหมายเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงความคิดและนโยบาย ช่วยประชาชน มีชีวิตที่ดีได้ ดังนั้นที่ทำให้แนวความคิด การพัฒนาเศรษฐกิจ ประเด็นอื่นๆ ที่พรรคชาติพัฒนากล้ามี เป็นจริงมากขึ้นเป็นสิ่งที่ฐานะนักการเมืองต้องพิจารณา ทั้งนี้ไม่ปฏิเสธว่ากติกาการเลือกตั้งและการเมืองมีส่วนที่กำหนดการทำงานให้มีพลัง และทำงานให้มีโอกาส กลุ่มคนที่คิดเหมือนกัน เป้าหมายคล้ายกัน ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดได้
ขณะที่วรนัยน์กล่าวยอมรับถึงการตัดสินใจร่วมงานกับพรรคชาติพัฒนากล้า ผ่านการพูดคุยประมาณ 2-3 เดือน ทั้งนี้จะมีทีมงานจากพรรครวมไทยยูไนเต็ดเข้ามาร่วมงานอย่างเป็นทางการ 5 คน ส่วนจะมีตามมาอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสมาชิกพรรครวมไทยยูไนเต็ด
อย่างไรก็ดีการลาออกจากพรรครวมไทยยูไนเต็ด ตนรู้สึกเสียดาย เสียใจ แต่ตนเข้ามาทำงานการเมืองไม่ใช่พรรครวมไทยยูไนเต็ด แต่เป็นการทำงานเพื่อประเทศไทย อย่างไรก็ดี ตนยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในระบบใด อยู่ระหว่างหารือกับนายกรณ์
“ตนมาร่วมกับพรรคชาติพัฒนากล้า มีเหตุผลจุดยืน คือ อุดมการณ์ และนโยบายเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย เมื่อวันที่ตนเห็นข่าวการจับมือทำงานร่วมกันของพรรคชาติพัฒนากับพรรคกล้า ทำให้คนแปลกใจ และการรวมงานของผมกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า เชื่อว่าสังคมมแปลกใจ ทั้งนี้สิ่งที่เกิดขึ้นจากนี้ คือ การสรร้างขั้วทางการเมืองใหม่” นายวรนัยน์ กล่าว
เมื่อถามถึงการทิ้งพรรครวมไทยยูไนเต็ด ทั้งที่ปีที่แล้วประกาศว่าจะไม่ให้ใครมาฮุบพรรค นายวรนัยน์กล่าวว่า พรรครวมไทยยูไนเต็ดยังเป็นพรรคการเมืองอยู่ สำหรับคนที่สนับสนุนตนด้วยจุดยืนและอุดมการณ์ และนโยบายของตน ยังเหมือนเดิม แต่การทำงานการเมืองทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้ และกติกาทางการเมืองต้องอาศัยความร่วมมือเพื่อเอาชนะทางกติกานั้น และตนขอโอกาสพิสูจน์ตนเอง