ชูวิทย์เผย เจอยุทธการปิดปาก หลังแฉ “ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย”

หลังจากออกมา “ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย” สร้างความสั่นสะเทือนกลายเป็นข่าวดัง ที่นำไปสู่การดำเนินการตรวจสอบต่างๆ ล่าสุด ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.รักประเทศไทย โพสต์ข้อความที่ชื่อว่า “ยุทธการ ปิดปากชูวิทย์” ผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีทที่อดีตนายตำรวจคนดัง ได้กล่าวหาพบว่ามีการเสพยาในโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยมีรายละเอียดดังนี้

สันธนะอ้าง พบการเสพยาในห้องน้ำโรงแรมของชูวิทย์  

“ที่คุณสันธนะบอกว่ามีการเสพยาในห้องน้ำ ภายในสถานที่ล็อบบี้บาร์ของโรงแรมผม ในฐานะเจ้าของต้องขอบคุณแก เพราะเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แม้แกจะออกมาพูด หลังจากผมเพิ่งเปิดเผยเรื่อง “ทุนจีนสีเทา 5 เสือมาเฟีย” ไปหยกๆ เรียกว่าตอบโต้ได้ทันควัน รวดเร็วมาก คุ้มราคาจริงๆ

“แต่คลิปที่คุณสันธนะถ่ายไว้เพื่อปิดปากผมนั้น มันเป็นคลิปที่อยู่ในห้องน้ำ เป็นพื้นที่ส่วนตัว แถมยังไม่ได้เห็นว่ามึการเล่นยา จึงยากที่เจ้าของสถานที่จะเข้าไปตรวจสอบถึงภายในห้องส้วมทุกห้อง ทุกเวลา

“ผมไม่ได้สนับสนุนให้มามั่วสุมเสพยาในห้องน้ำของโรงแรมแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าโรงแรมอื่นๆ มีนโยบายเอาการ์ดไปเฝ้าหน้าห้องส้วมเพื่อตรวจสอบคนเข้าได้หรือเปล่า?

“เอาจริงๆ มันออกจะยากเสียหน่อยนะครับ แต่ต่อไป ผมจะหาการ์ดสักคนไปยืนเฝ้าหน้าห้องส้วมเสียเลย จะได้หมดข้อครหา

“ผมนั้นได้เตรียมใจไว้เสมอ เมื่อเป็นนักแฉก็ต้องมีคนแฉกลับ โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์มหาศาล

“เพียงแต่ลองพิจารณา เปรียบเทียบสิ่งที่ผมแฉถึงทุนจีน 5 เสือมาเฟีย และ ผับศูนย์เหรียญ ที่ย่านยานนาวา ท่านรอง ผบ.ตร. บิ๊กต่อ บิ๊กโจ๊ก และ ผบชน. ไปจับพบยาเสพติดมากมาย นำมาขยายผล พบเงินสดอีกเป็นสิบๆ ล้าน หากรวมทรัพย์สิน รถซุปเปอร์คาร์ บ้านหรู คงร่วมหลายร้อยล้าน ไหนจะมีหญิงจีนตายคาผับย่านรัชดา เพราะเสพยาเกินขนาด แต่กลับปิดเรื่องเงียบเชียบ

“พอตรวจสอบลึกลงไป ก็เป็นจีนเชื่อมโยงไปถึงการปลอมบัตรประชาชนบ้าง แก๊งคอลเซนเตอร์บ้าง บ่อนการพนันคิงส์โรมันของ “จ้าวเหว่ย” ที่ถูกขึ้นแบล็คลิสต์จากอเมริกาบ้าง เรียกว่า “ครบสูตรเรื่องสายดำ”

“หากข้อมูลผมไม่แน่น ทำไมขยายผลได้ผู้กระทำผิดคนจีนมากมาย บางคนถึงขนาดรีบหนีออกต่างประเทศ? ใครที่ทำมาหากินถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องสามารถตอบคำถามตำรวจระดับ รองผบ.ตร. ทั้งสองท่านได้ เพราะเรื่องนี้มันใหญ่ระดับประเทศ เกี่ยวข้องกับอาชญกรรมข้ามชาติ

“ผมไม่กล้าไปชนกับคุณสันธนะหรอกครับ การแฉผมในห้องน้ำ คำตอบผมยืนยันได้ว่า ไม่ได้สนับสนุน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานก็มาตรวจแต่ไม่พบอะไร

“เอาจริงๆ ระหว่าง “ห้องน้ำโรงแรม” กับเรื่องที่ไปตรวจสอบ “ทุนจีนสีเทา” ที่เห็นจะๆ คาตาตำรวจ พบหลักฐานมากมาย แม้แต่กระทั่งใบเสร็จยังมีค่ายา แถมยังฝากยาได้อีกเหมือนฝากเหล้า มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ

“หรือคุณสันธนะจะลองไปตรวจห้องน้ำที่ผับบาร์อื่นๆ ไม่ว่าย่านอาร์ซีเอ รัชดา หรือของนายเดวิดที่เบบี้เฟสดูบ้าง จะได้เท่าเทียมกัน? คงไม่ต้องถึงขนาดขยันมาเฝ้าห้องส้วมที่โรงแรมผมที่เดียว

ข้อแนะนำจากนักแฉมืออาชีพ

ชูวิทย์ระบุต่อไปว่า “หากคุณสันธนะคิดจะเป็นนักแฉต้องเอาชัดๆ และใจเย็นๆ เวลาสัมภาษณ์เสียงอย่าสั่นเหมือนโกธรกันมาเป็นสิบปี เอาเสียงโวยวายดังข่ม กลัวแกความดันจะขึ้นเอา เพราะพอสัมภาษณ์เสร็จเห็นนั่งเหนื่อยอยู่ นี่เป็นห่วงแกนะครับ จากใจจริง

“ส่วนผมกลับดีใจที่แกมาเยี่ยมชมถึงโรงแรมผมในวันนี้ แต่ในฐานะนักแฉมืออาชีพรุ่นพี่ อยู่ในวงการนักแฉมาก่อนแก ต้องขอแนะนำ ข้อมูลต้องแน่น ไม่กั๊ก ไม่วกวน พูดไปน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง เอาให้ตรงเป้า บรรดาสื่อเขาจะได้มัน ได้สาระไปให้คนดู

“หรือหากจะแก้แค้นแทนเพื่อน รออีกสักหน่อยก็ได้ เพราะสุภาษิตว่าไว้ “บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ แม้ 10 ปีก็ไม่สาย” เหมือนกาแฟร้อนที่ต้องกินตอนเย็น จะได้รสชาติซึมซับไปเลย

“แล้วหลักฐานก็อย่าไปกั๊กเอาไว้ต่อรอง เพราะคนอย่างผมมีแผลเต็มตัว เป็นองคุลีมาลกลับใจ ติดคุกติดตะรางมาหลายรอบ ต้นทุนต่ำกว่าศูนย์ ไปเทียบกับแกไม่ได้หรอก

“แต่เรื่องข้อมูล ยังยืนยันว่าคนจีนเหล่านี้มาแทะเอาผลประโยชน์ หวังคิดกอบโกย ไม่ได้คิดตอบแทนบุญคุณแผ่นดินไทยแต่อย่างใด หากพลาดก็หนีไป ปอยเปต ลาว เขมร หรือกลับจีน เพราะยังถือสัญชาติจีนอยู่

“ส่วนต่อไป จะให้ผมไปนั่งเฝ้าในห้องส้วม ไม่มีปัญหา เพราะนอนในคุกก็นอนติดส้วมมาแล้ว คนอย่างผมแม้จะเหม็นขี้คน ยังดีกว่าเหม็นคนทรยศประเทศชาติบ้านเกิดเมืองนอน เพียงเพราะหวังเศษเงินที่พวกคนจีนสีเทาโยนให้ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “คนไม่หิวแสง แต่ต้องการหักเหแสง” เอาอีกเรื่อง มาเฉไฉอีกเรื่อง สรุปง่ายๆ แบบนี้ชาวบ้านเขาคงเข้าใจ”

ที่มา FB : ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์