"ศรีสุวรรณ" ออกโรงจวก "อนุทิน" มุ่งแต่กัญชาเสรี ละเลยการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด แนะเพิ่มมาตรการและงบประมาณในการรองรับผู้ที่ติดยาเสพติด ก่อนซ้ำรอยเหตุ "กราดยิงหนองบัวลำภู" จี้ให้สำรวจผู้เสพยาในกลุ่มหน่วยงานตำรวจและทหารทั่วประเทศก่อนให้เสร็จใน 1 เดือน
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯได้ทำหนังสือจี้ไปยังนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี ขอให้เพิ่มมาตรการและงบประมาณในการรองรับผู้ที่ติดยาเสพติด เพื่อช่วยบำบัดและฟื้นฟูผู้ที่หลงผิดจะโดยเจตนาหรือผิดหลง มิให้อยู่ในวังวนของปัญหายาเสพติดอีกต่อไป อันอาจจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมเฉกเช่นการกราดยิงหนองบัวลำภูได้
ทั้งนี้ตาม พรบ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด 2564 ซึ่งประกาศใช้เมื่อ 8 พ.ย.64 ได้กำหนดให้ผู้ที่เสพติดยาเสพติด ให้ถือว่าเป็นผู้ป่วย ที่ภาครัฐจะต้องดูแล บำบัดและฟื้นฟูให้พวกเขาเหล่านั้น หลุดพ้นออกมาจากวงจรยาเสพติดให้จงได้ อันเป็นบทบาทหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง
กรณีดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้ออกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 339/2564 ลงวันที่ 17 ธ.ค.64 มอบหมายให้รองนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ปฏิบัติหน้าที่ประธานคณะกรรมการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด แต่ทว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ยังไม่ปรากฎต่อสาธารณะถึงมรรคผลในการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาที่หมักหมมเกี่ยวกับผู้ที่ติดยาเสพติดอย่างเรื้อรัง ทั้งในแวดวงข้าราชการ คนงาน และในสถานศึกษาแต่อย่างใด มัวแต่ไปมุ่งเน้นส่งเสริมกัญชาเสรีเสียเป็นส่วนใหญ่เกินไปหรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
สื่อนอกตีข่าว "อนุทิน" ไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาสูบกัญชา
"อนุทิน" ปลื้ม รมว.สธ.มาเลเซียสนใจนำ กัญชา-กระท่อมใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
อนุทิน ขอบคุณ ชัชชาติ ได้กลิ่นกัญชาถนนข้าวสาร เชื่อผู้ว่าฯหารือ ผอ.เขต ดูแล
ล่าสุด หลังเกิดกรณีกราดยิ่งที่หนองบัวลำภูนายกรัฐมนตรีจำต้องออกมาสั่งการให้นโยบายใหม่ว่า “ให้สำรวจทุกตำบล ทุกชุมชน คนติดยาเสพติดจะต้องขึ้นทะเบียนนำไปสู่การบำบัดรักษา ส่วนคนขายนายทุน ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดตามกฎหมาย รวมทั้งการยึดทรัพย์ด้วย”
คำสั่งการนายกฯ ดังกล่าว ไม่อยากให้เลื่อนลอย ควรให้มีกรอบเวลากำกับจะได้ทำกันจริงจัง และควรกำหนดวิธีการจัดการปัญหาที่เป็นขั้นเป็นตอนให้ชัดเจนซึ่งรวมทั้งการยึดทรัพย์ผู้ค้า/นายทุนก็เห็นด้วยแต่ควรเป็นขั้นตอนสุดท้าย และต้องไม่มีการจับแพะฆ่าทิ้งตัดตอนปิดปากอย่างเด็ดขาด
เริ่มแรกเสนอให้สำรวจผู้เสพยาในกลุ่มหน่วยงานตำรวจและทหารทั่วประเทศก่อนให้เสร็จใน 1 เดือน ตรวจสอบจัดการเจ้าหน้าที่รัฐผู้บังคับใช้กฎหมายให้สะอาดก่อนจะได้ไม่ไปยัดยาเพื่อรีดไถใคร และอบรมเพาะบ่มนิสัยดีก่อนไปทำงานปราบยา สังคมจะได้พอเห็นความหวังบ้าง จัดการปัญหาให้เสร็จสิ้นตามที่พูด แลัวเดือนที่ 2 ขยายผลไปสำรวจพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐที่เหลือทั้งหมดให้เสร็จแล้วก็จัดการแก้ปัญหาให้จบ ส่วนที่เหลือคือกลุ่มประชาชนสำรวจและแก้ปัญหาให้จบใน 1 เดือน รวม 3 กลุ่มใช้เวลา 3 เดือน ถ้าทำจริงคงสำรวจเสร็จแน่นอน เพราะแต่ละหน่วยงานรู้แล้วว่าใครเสพ จะได้นำไปบำบัดฟื้นฟ
ส่วนประชาชนก็ต้องขอความร่วมมือจากครอบครัวและชุมชน เชื่อว่าคงได้รับความร่วมมือดีแน่นอน เพียงแต่อย่าปากว่าตาขยิบเท่านั้น นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด