รัฐบาลเวียดนาม สั่งอพยพประชาชนเตรียมรับมือพายุโนรูที่จ่อจะเข้าประเทศวันพรุ่งนี้ พร้อมปิดสนามบิน 9 แห่ง คาดจังหวัดกว๋างหงายได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
รัฐบาลเวียดนามขอความร่วมมือให้ประชาชนจำนวนมากเตรียมตัวอพยพในขณะที่พายุโนรู (Noru) กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศ
ก่อนหน้านี้ พายุโนรู ซึ่งมีกำลังรุนแรงมากเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 รายและน้ำท่วมหลายพื้นที่ในฟิลิปปินส์
กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกวิทยาของประเทศเวียดนาม (Viet Nam Meteorological and Hydrological Administration: VMHA) ระบุว่า ความเร็วลมของพายุโนรูคาดว่าจะสูงถึง 183 กม./ชม. ในช่วงดึกของค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 65) และเสริมว่า พายุโนรูจะขึ้นฝั่งในวันพรุ่งนี้ ก่อนที่จะมีกำลังอ่อนลงและเคลื่อนตัวมายังประเทศไทย
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
พายุโนรู ทำให้สนามบินในเวียดนาม 9 แห่งต้องปิดตัวลง และยกเลิกเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศหลายร้อยเที่ยวบิน ส่งผลให้การเดินทางหยุดชะงัก ขณะที่หลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ตามคำแถลงอย่างเป็นทางการ สำนักงานอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าความเร็วลมสูงถึง 134-149 กม./ชม. ในช่วงเช้าของวันนี้
ฟาม มินห์ ชินห์ (Pham Minh Chinh) นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวในการประชุมรับมือภัยพิบัติฉุกเฉิน ว่า "เราเหลือเวลาอีกไม่มาก พายุโนรูกำลังทวีความรุนแรง ดังนั้นการตอบสนองของเราต้องแข็งแกร่งและเร็วขึ้น การอพยพจะต้องเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดโดยมีความสำคัญสูงสุดคือชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน"
รัฐบาลเวียดนาม ระบุในถ้อยแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่ทหารราว 270,000 นาย เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่
VMHA เผยว่า พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากพายุโนรู คือจังหวัดกว๋างหงาย (Quang Ngai) ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศและเป็นที่ตั้งของโรงกลั่นน้ำมันดุงกวต (Dung Quat) และกว๋างนาม (Quang Nam) ซึ่งเป็นที่ตั้งของมรดกโลกของเมืองฮอยอัน
จังหวัดกว๋างนาม ได้สั่งอพยพประชาชนมากกว่า 133,000 คน รัฐบาลกล่าวในแถลงการณ์ ขณะที่ภาพจากสื่อของรัฐ VTV แสดงให้เห็นว่าผู้คนกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้บ้านของพวกเขาด้วยอิฐและกระสอบทราย
เจ้าหน้าที่กำลังแข่งขันกันเพื่อรักษาพื้นที่ปลูกกาแฟของประเทศทางตอนเหนือของภูมิภาคที่ราบสูงตอนกลาง