svasdssvasds

โจอี้ ภูวศิษฐ์ เล่าชีวิตกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ยอมทิ้งอาชีพครู เดินตามฝัน

โจอี้ ภูวศิษฐ์ เล่าชีวิตกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ยอมทิ้งอาชีพครู เดินตามฝัน

"โจอี้ ภูวศิษฐ์" เจ้าของเพลงดัง "นะหน้าทอง" เปิดใจชีวิตกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย ต้องตัดสินใจทิ้งอาชีพครู เพื่อทำตามความฝันเป็นนักร้อง 100 ล้านวิวให้ครอบครัวภาคภูมิใจ

กลายเป็นนักร้องหนุ่มขวัญใจแฟนเพลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ "โจอี้ ภูวศิษฐ์" เจ้าของเพลงดัง 100 ล้านวิว "นะหน้าทอง" ที่มีท่อนฮิตติดปากอย่าง "ฉันจึงเป่าคาถาเพื่อให้เธอหลงใหล ให้ทองที่แปะหน้าฉัน ทำให้เธอคลั่งไคล้" ซึ่งเพลงนี้ก็โดนใจแฟนเพลงชาวไทยและชาวต่างชาติ ถูกนำไปสร้างคอนเทนต์ทุกแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดียกันเลยทีเดียว

ล่าสุด โจอี้ ภูวศิษฐ์ ได้ออกมาเปิดใจในรายการ "โต๊ะหนูแหม่ม" เพื่อเล่าถึงชีวิตที่กว่าจะเป็น โจอี้ ภูวศิษฐ์ เจ้าของเพลงดัง "นะหน้าทอง" อย่างทุกวันนี้นั้น ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะต้องตัดสินใจทิ้งอาชีพรับราชการครู เพื่อมาทำตามฝัน คือการเป็นนักร้อง เข้าวงการให้ครอบครัวภาคภูมิใจ

3 เดือน 100 ล้านวิว รู้สึกยังไง?

"ก็เป็นปรากฏการณ์ในชีวิตเราเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงหรือในชีวิตเราเลย เพราะเราก็เพิ่งจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่ยังไม่ค่อยจะมีผู้ติดตาม มีชื่อเสียง และพอเพลงนี้เหมือนมันพลิกจากเมื่อก่อนที่เราไม่ได้เป็นที่รู้จัก ตอนนี้ 'นะหน้าทอง' ก็ทำให้เป็นที่รู้จักเกินความคาดหมายไปมาก ถือว่าเร็วมากสำหรับเรา เร็วจนตั้งตัวไม่ทัน จนมีคนต่างชาตินำไปคัฟเวอร์ด้วย"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

ดีเจมะตูม เล่าชีวิตเคยใช้เงินวันละ 3 ล้าน แต่วันที่ล้มเพื่อนหายเกือบหมด

กระปุก พัชรา แฟนสาว กระทิง ขุนณรงค์ เปิดใจครั้งแรกปมดคีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D

ดีเจแมน พัฒนพล เผยภาพคล้ายร้องไห้ หลังย่องเงียบเข้าพบดีเอสไอ

กระแสตอบรับดีมาก?

"ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนขอให้เราร้องเพลงนี้ จนตอนนี้คิวงานยาวมาก ยาวไปจนถึงปีหน้าเลย ซึ่งเพลงนี้สายมูก็จะชอบเป็นส่วนใหญ่ ในส่วนของเราก็มูด้วย ด้วยการเปลี่ยนชื่อตอนเข้าวงการแรกๆ จาก 'จักรกฤษ ขำจิต' และเปลี่ยนเป็น 'ภูวศิษฐ์ อนันต์พรศิริ' ตอนนี้ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราก็ต้องลงมือทำด้วย มันต้องควบคู่กัน ส่วนคนที่แนะนำให้เราไปมูเต ก็คือมาดามมาริสา พาไปเปลี่ยนเราก็ต้องดูก่อนว่าทำไมชื่อเดิมถึงใช้ไม่ได้"

ก่อนหน้านี้ทำอาชีพครู?

"ก่อนที่เราจะมาเป็นนักร้อง เราก็ทำอาชีพครูมาก่อน ซึ่งเด็กๆก็จะชอบพูดว่าวันวันเราไม่ได้สอนเลย เล่าแต่นิทานให้ฟัง ส่วนมากเราก็จะให้เด็กทำกิจกรรมก่อนเรียน  อย่างเช่นเล่านิทานให้เด็กๆ ก็เลยชอบ ตอนนี้ขอเบรคอาชีพครูไว้ก่อน เพราะว่าเริ่มหนักอาชีพร้องเพลงแล้ว เหมือนกลายเป็นว่าสิ่งที่เราทำตอนนี้ เราถนัดสุดแล้วคือการร้องเพลง เหมือนเราได้เป็นตัวเองจริงๆ

พอไปประกวดร้องเพลงที่เดอะวอยซ์ ได้ร้องเพลงที่เราอยากทำ และพอได้ทำจริงๆ ตอนไปช่วงแรกฝันของเรา คือการได้ออกทีวีให้ยายเห็น ซึ่งยายคงจะดีใจ ถ้าได้เห็นเราอยู่ในทีวี แต่พอไปจริงๆแล้วอยู่ในรอบลึก มันไม่ธรรมดาแล้ว เพราะคิดว่าเราไปต่อได้ แต่ก็ไม่รู้จะไปทางไหนเพราะเราไม่ได้เซ็นสัญญา ซึ่งคุณยายก็ได้เห็นตามที่เราตั้งใจไว้แล้ว ในตอนนี้เขาก็ปลื้มใจ ส่วนคุณแม่ก็ไม่ค่อยแสดงอาการเท่าไหร่"

ภาพจาก รายการโต๊ะหนูแหม่ม

พูดกับคุณแม่ว่ายังไง หลังตัดสินใจเลิกอาชีพครู มาเป็นนักร้อง?

"ผมกับแม่และตากับยายที่บ้าน เราก็อยู่กันแค่นี้ เค้าก็ถาม ซึ่งเขาก็เปิดใจยอมให้เราเป็นเลย อยากทำอะไรก็ทำไม่ได้ค้าน โชคดีที่เขาสนับสนุน ดีใจมาก เขาเป็นคนสบายๆ ทุกวันนี้เขาภูมิใจกับเรามากแค่ไหนก็ไม่เคยถาม แต่ว่าเราจะทำให้แม่ภูมิใจมากกว่า ซึ่งเขาก็ทำให้เห็นมาตลอด ด้วยการที่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ก็ดูแลทั้งหมดทั้งบ้าน"

ภาพจาก รายการโต๊ะหนูแหม่ม ภาพจาก รายการโต๊ะหนูแหม่ม

related