"กองทัพเรือ" แสตนบาย เรือผลักดันน้ำ 80 ลำ เพื่อใช้ในภารกิจ ระบายน้ำ จากปากแม่น้ำ ลงสู่ทะเล หลังฝนตกหนักทำ กทม. -ปริมณฑล น้ำท่วม
วันที่ 9 ก.ย. 2565 พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์สนับสนุนข้อมูลการแจ้งเตือนภัย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รายงานสภาพอากาศในช่วงเดือนกันยายน 2565 ว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว ภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลทำให้ร่องมรสุมกำลังแรงเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้ รวมทั้งเขื่อนเจ้าพระยามีการระบายน้ำเหนือเขื่อนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น โดยจะส่งผลให้ในช่วงฝนตกหนัก อาจมีผลกระทบให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาล้นเขื่อนแนวป้องกันซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่
จากสถานการณ์ดังกล่าว พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ในฐานะ ผู้อำนวยศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จึงได้สั่งการให้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยพื้นที่ต่าง ๆ ของกองทัพเรือ รวมทั้งหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติเชิงรุกทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้ทันที โดยบูรณาการและประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้มีการสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งติดตามการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้กองทัพเรือ ยังคงเตรียมความพร้อม ทั้งกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่จะให้การสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมพร้อม เรือผลักดันน้ำไว้ 80 ลำ เพื่อใช้ในภารกิจ ระบายน้ำ จากปากแม่น้ำ ลงสู่ทะเลหากมีปริมาณน้ำเหนือหนุนสูง และจังหวัด ต้องการความช่วยเหลือ โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง