กทม. แถลง สถานการณ์ฝนตกหนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำฝนที่ตกนานแช่ เร่งเตรียมรับมือประสานงานทุกภาคส่วน แจ้งเตือนปชช. ล่องหน้า 3 ชม. เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วม จัดจุดรับส่งบริเวณหนาแน่น ขอความร่วมมือให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด คาดฝนหนักถึง 12 ก.ย.นี้
บ่ายของวันที่ (8 กันยายน) กรุงเทพมหานคร ได้มีการแถลงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ณ ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนครโดยมี ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร, นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร และนายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกทม. และผู้ช่วยฯ ผู้ว่าราชการกทม.
รองผู้ว่าฯ วิษณุกล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์น้ำในช่วงที่ผ่านมา และได้รับแจ้งจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่กทม.จากรายงานพยากรณ์อากาศคาดการณ์วันนี้พบว่าจะมีฝนเข้ามาในอีกในช่วงภาคเหนือของกรุงเทพมหานคร กรุงเทพมหานครได้มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่องทั้งการขุดลอกคูคลอง เร่งระบายน้ำ พร่องน้ำจากคลองสายหลัก ขุดลอกท่อ ไว้ล่วงหน้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
น้ำท่วม กทม. 8 ก.ย. 65 สถานการณ์ล่าสุด บางเขน แจ้งวัฒนะ สมุทรปราการ
อุตุฯ เตือน 51 จังหวัด ฝนตกหนัก เสี่ยงน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก กทม. อ่วม เจอฝน 70%
กรมอุตุฯ เตือน ฉบับที่ 8 ไทยเจอฝนตกหนัก 59 จังหวัดเตรียมรับมือ
จากสองวันที่ผ่านมาพบว่าการแก้ไขปัญหาหน้างานเฉพาะหน้าสามารถรับมือได้ดีมากกว่านี้ เมื่อวานที่ผ่านมาทางผู้ว่าราชการกทม.จึงมีการเรียกประชุมเพื่อยกระดับการเตรียมความพร้อมให้ดียิ่งขึ้น
รองปลัดฯ ณรงค์ กล่าวให้รายละเอียดไว้ว่า ในช่วงเดือน สิงหาคม-ตุลาคม โดยสถิติแล้วจะเป็นช่วงที่ฝนตกหนักที่สุด โดยตั้งแต่วันที่ 6 ถึงวันนี้ (8 กันยายน) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครฝั่งเหนือโดยเฉพาะเขต ดอนเมือง หลักสี่ สายไหม มีฝนตกปริมาณมากในพื้นที่ รวมแล้วพบมีปริมาณน้ำถึง 178 มิลลิเมตรที่เขตบางเขน ทั้งนี้มีความกดอากาศสูงที่แผ่ปกคลุมมาจากประเทศจีนครอบคลุมทางภาคเหนือ ประกอบกับร่องมรสุมที่เลื่อนลงมาพาดผ่านครอบคลุมมาทางภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศในประเทศกัมพูชาและเวียดนาม
ประกอบกับลมทางตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมประจำฤดูฝนที่จะพัดพาความชื้นเข้ามามาจากทะเลอันดามันและภาคใต้ อ่าวไทย ลักษณะปรากฏการณ์เหล่านี้จะทำให้พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีฝนตกหนักในพื้นที่
ตั้งแต่ต้นมกราคม มาถึงปัจจุบันประมาณ 1369 มิลิเมตร เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ทั้งปีมีฝนสะสมประมาณ 1900 มิลลิเมตร เทียบกับค่าเฉลี่ย 10 ปี ที่เก็บรวมรวมพบว่ามีประมาณ 1600 มิลลิเมตร
ซึ่งก็ยังคงมีฝนตกอยู่ในช่วงนี้ไปจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อดำเนินการตามสถานการณ์ สถานการณ์น้ำเหนือจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะไหลผ่านมายังกทม. โดยทำการน้ำวัดที่บริเวณบางไทร จ.อยุธยา พบว่าปริมาณน้ำวันนี้ 1895 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งยังมีไม่กระทบกับกทม. มากนัก รวมถึงระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่าน
อยู่ในระดับที่ +2.04 เมตรเทียบกับระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งคันป้องกันน้ำท่วมของกทม.ที่มีอยู่ที่ระดับ 3 เมตร ซึ่งยังเพียงพอรองรับน้ำไม่ให้ล้นตลิ่งเข้ามา
ทั้งนี้ทางกรุงเทพมหานครได้มีการเน้นย้ำในการเตรียมความพร้อม ทั้งในเรื่องปริมาณน้ำฝนที่มีประมาณมากสะสมในพื้นที่กทม. ที่ต้องเร่งระบาย นอกนี้ยังให้หน่วยงานทุกส่วนของกทม. ที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานระบายน้ำและสำนักงานเขต หรือส่วนที่เกี่ยวข้องให้อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ที่ต้องสัญจรในบริเวณน้ำท่วม รวมถึงบริเวณเส้นเลือดฝอย โดยเตรียมจัดรถรับ-ส่ง สำหรับประชาชนที่ต้องเดินทางในพื้นที่ต่างๆ
รวมถึงการบูณรณาการเตรียมความพร้อมกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือ ทั้งทหารและสำนักบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือแก้ไขปัญหา
โฆษกกทม. กล่าวเสริมว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวทั้งหมดนี้จึงทำให้ก้อนเมฆเคลื่อนตัวช้ามากและฝนตกแช่เป็นเวลาต่อเนื่องหลายชั่วโมง จึงทำให้ปริมาณน้ำสะสมมากกว่าปกติ
ทั้งนี้เนื่องจากจุดอ่อนที่ไม่สามารถคาดการณ์สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและล่วงหน้าหลายชั่วโมง จึงอยากขอความร่วมมือให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนในกทม. รายงาน ติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิดไปจนถึงวันที่ 12 กันยายนนี้ โดยสามารถติดตามได้ที่ ช่องทาง
สำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม.
https://www.facebook.com/prbangkok
ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร
https://www.facebook.com/bkk.best
เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมและจุดที่มีปริมาณการจราจรติดขัด โดยทางกทม.เร่งใช้เครื่องสูบน้ำหลัก 4 ตัวที่มีอยู่อย่างเต็มที่เพื่อระบายน้ำจากคลองลงแม่น้ำเจ้าพระยา และเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กบริเวณจุดเปราะบางต่างๆเจ้าหน้าที่จะดูแลและเร่งแก้ไขสถานการณ์น้ำในช่วงเฝ้าระวังนี้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะจุดที่มีประชาชนใช้สัญจรหลักในช่วงเวลาเย็นวันนี้
โดยล่าสุด ทาง สำนักงานเขตดอนเมือง ได้ประกาศทางเฟซบุ๊กเตรียมการ จัดจุดจอดรถรับ-ส่งบริการประชาชน ในช่วงสถานการณ์น้ำท่วมขัง จำนวน 2 จุดเวลา 06.30 น. เป็นต้นไป จำนวน 1 จุด #บริเวณปากซอยช่างอากาศอุทิศ 15/1 เป็นรถ 6 ล้อ ของกองพันทหารขนส่งที่ 1 กรมทหารขนส่ง กองทัพบก จำนวน 1 คันเวลา 17.00 น. เป็นต้นไป จำนวน 1 จุด #บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าดอนเมือง เป็นรถ 6 ล้อ ของกองพันทหารขนส่งที่ 1 กรมทหารขนส่ง กองทัพบก จำนวน 1 คัน พร้อมจัดรถกระบะฝ่ายเทศกิจ จำนวน 4 คัน ออกตรวจสอบพื้นที่กรณีเร่งด่วน และคอยรับ – ส่งประชาชนที่ตกค้างพบเหตุน้ำท่วมขังต้องการความช่วยเหลือแจ้ง
Traffy Fondue
สายด่วน 1555
ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม โทร. 0 2248 5115 (สำหรับถนนสายหลัก)