หมอมนูญ ยกเคส ผู้ป่วย "ติดโควิดรอบ 2" ห่างจากครั้งแรกเพียง 19 วัน พบมีอาการที่รุนแรงกว่า แม้จะรับวัคซีนแล้ว 3 เข็ม
"หมอมนูญ" นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ยกเคสผู้ป่วยรายหนึ่ง "ติดโควิดรอบ 2" โดยห่างจากครั้งแรก เพียง 19 วัน ผู้ป่วยชายไทยอายุ 67 ปี มาโรงพยาบาลด้วยไข้ ไอ มีเสมหะ 10 วัน
ประวัติเดินทางไปเที่ยวประเทศอิตาลี ขึ้นเครื่องบินวันที่ 20 มิถุนายน 2565 หลังเดินทางไปถึงประเทศอิตาลี 4 วัน วันที่ 24 มิถุนายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ เสมหะ ตรวจ ATK เองได้ผลบวก ภรรยาที่ไปด้วย มีอาการคล้ายกัน และตรวจ ATK ให้ผลบวกเหมือนกัน ทั้ง 2 คนกิน ฟ้าทะลายโจร อาการดีขึ้นหายเป็นปกติ เดินทางกลับถึงประเทศไทยวันที่ 9 กรกฎาคม หลังกลับถึงกรุงเทพ 4 วัน วันที่ 13 กรกฎาคม เริ่มมีอาการ ไข้ ไอและมีเสมหะอีก ตรวจ ATK เองให้ผลลบ กินยาปฏิชีวนะไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยมีไข้ ไอ มีเสมหะต่อเนื่อง 10 วัน เริ่มเหนื่อย ผู้ป่วยเคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายแล้ว หยุดยาทุกอย่าง 5 ปี ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนกา 2 เข็ม และกระตุ้นด้วยวัคซีนไฟเซอร์ 1 เข็ม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• แพรวา ณิชาภัทร รีวิวติดโควิดรอบ 2 เล่าอาการป่วยหนักกว่ารอบแรก
• เป๊ก ผลิตโชค ติดโควิดรอบ 2 ในรอบ 3 เดือน เข้ารักษาตัวตามมาตรการแล้ว
• ดร.อนันต์ เปิดข้อมูล เด็กติดโควิดรอบ 2 ตรวจ ATK น้ำลายเป็นลบ เพาะเชื้อเจอ BA.2
ตรวจร่างกาย มีไข้อุณหภูมิ 39.5 องศาเซลเซียส ฟังปอดผิดปกติทั้ง 2 ข้าง เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา (ดูรูป) ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำเล็กน้อย 94 ตรวจ ATK และ RT-PCR SARS-CoV2 ให้ผลบวก ค่า RdRp/N-gene (CT Value) 17.4 ส่งตรวจ
respiratory virus และ bacteria PCR panel ไม่พบไวรัส และแบคทีเรียตัวอื่นๆที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ตรวจไม่พบเชื้อวัณโรค
วินิจฉัยเป็น ปอดอักเสบ จากการติดเชื้อไวรัส โควิด19 ครั้งที่ 2 ให้ยาฉีดเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) 5 วัน และเสตียรอยด์ทางหลอดเลือด คนไข้ดีขึ้น ไข้ลง ไอน้อยลง ไม่เหนื่อย เอกซเรย์ปอดดีขึ้น หยุดใช้ออกซิเจน ระดับออกซิเจนในเลือดกลับมาปกติ
ผู้ป่วยรายนี้ติดโควิดรอบ 2 ห่างกันเพียง 19 วัน เชื่อว่าติดเชื้อต่างสายพันธุ์ระหว่างเดินทางในเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เพราะเวลากินอาหารในเครื่องบินต้องถอดหน้ากากอนามัย ติดเชื้อครั้งที่ 2 รุนแรงกว่าติดเชื้อครั้งแรก ทั้งๆที่ผู้ป่วยได้รับวัคซีน 3 เข็มแล้ว แต่ผู้ป่วยอาจมีภูมิคุ้มกันไม่ดี เนื่องจากเคยป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถึงแม้จะรักษาหายขาด 5 ปีแล้วก็ตาม
ที่มา : หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC