หมอยงชี้ โควิด-19 มีแนวโน้มจะคล้ายไข้หวัดใหญ่ คนที่ติดเชื้อแล้วก็สามารถติดได้อีก แนะเร่งพัฒนาวัคซีนโควิดตามสายพันธุ์ที่คาดว่าจะมีการระบาด
หลังจากที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยถึงกรณีที่มีข่าวตรวจพบโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน สายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ในประเทศไทย ว่า จากการสุ่มตรวจ พบการติดเชื้อ รวม 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทบ 48 ราย , ติดเชื้อในประเทศ 133 ราย ส่วนใหญ่พบผู้ติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร
ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก Yong Poovorawan ประเด็น โควิด-19 ลักษณะมีแนวโน้มจะคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยระบุว่า
ไข้หวัดใหญ่มีการระบาดทุกปี สายพันธุ์ก็เปลี่ยนไปทุกปี การฉีดวัคซีนก็ต้องเปลี่ยนตามสายพันธุ์ทุกปี ไข้หวัดใหญ่เป็นแล้วเป็นอีกได้
ไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มเปลี่ยนสายพันธุ์มาตลอดตั้งแต่สายพันธุ์เดิมอู่ฮั่น มีการเปลี่ยนสายพันธุ์ใหม่เข้ามาแทนที่ จากสายพันธุ์ G เป็นสายพันธุ์ Alpha Delta และมาถึง Omicron จาก BA. 1 แทนที่กันมาตลอด และขณะนี้ BA.5 กำลังจะเข้ามาแทนที่ในที่สุด โดยสายพันธุ์เดิมก็จะหายไป
โควิด-19 เป็นแล้วก็สามารถเป็นอีกได้
การเปลี่ยนแปลงหลบหลีกภูมิต้านทาน เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี ทำให้วัคซีนต้องฉีดทุกปี ตามสายพันธุ์ที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ขณะนี้ที่เราฉีดวัคซีนกันถึงแม้หลายครั้ง ก็ยังเป็นสายพันธุ์เดิม จึงไม่แปลกที่ฉีด 5 - 6 เข็มแล้วก็ยังเป็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• หมอยง เผย เด็กติดโควิด-19 มากขึ้น ในเดือนที่เปิดเทอมกันแล้ว
• หมอยง เผย ข้อควรรู้เกี่ยวกับ ATK ผู้ที่ตรวจพบเชื้อไม่จำเป็นต้องตรวจ ATK ซ้ำ
• หมอยง แนะฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อยต้อง 3 เข็ม ส่วนกลุ่มเสี่ยงจำเป็นต้อง 4 เข็ม
พฤติกรรมของโควิด-19 ก็ไม่แตกต่างจากไข้หวัดใหญ่ วัคซีนจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาตามสายพันธุ์ที่คาดว่าจะมีการระบาด
การให้วัคซีนสายพันธุ์เดิม ประสิทธิภาพในการป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคก็จะน้อยลง
ขณะที่เรามีภูมิต้านทานเป็นทุนเดิม การติดเชื้อถึงแม้จะต่างสายพันธุ์ ความรุนแรงของโรคก็ลดลงมาโดยตลอด
ในขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนสายพันธุ์ใหม่มาใช้ในประเทศ ภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นจากการได้รับวัคซีน ร่วมกับการติดเชื้อ โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน จะเป็นภูมิต้านทานแบบลูกผสม ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดซ้ำหรือลดความรุนแรงของโรคได้ดีกว่าการได้รับวัคซีนอย่างเดียว
การติดเชื้อจึงเปรียบเสมือนการได้รับวัคซีนในธรรมชาติ แต่จุดอ่อนก็คือ ผู้ที่เปราะบางจะมีความรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้
ดังนั้น วัคซีนในรุ่นต่อไปจะต้องเป็นการพัฒนาวัคซีนต่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ให้ทันเพื่อให้เกิดภูมิต้านทานแบบลูกผสม เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ ที่มีความจำเป็นให้ในกลุ่มเสี่ยงทุกปีตามสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลง
ที่มา : Yong Poovorawan