"ต่อ ธนภพ" เปิดใจครั้งแรก ปมดราม่าร้อน #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม บอกไม่ได้โกรธ เข้าใจแฟนคลับ "ซี-นุนิว" มองทุกคนผิดพลาดกันได้ ยกเรื่องนี้ให้เป็นบทเรียน พร้อมขอบคุณแฟนคลับที่ออกมาปกป้อง
จากกรณีกลุ่มแฟนคลับของคู่จิ้นสุดฮอต "ซี-นุนิว" โบกมือพร้อมตะโกนไล่ "ต่อ ธนภพ" และ "บลู พงศ์ทิวัตถ์" ให้ออกจากเฟรมถ่ายรูป เนื่องจากต้องการถ่ายรูป ซี-นุนิว ที่กำลังเซอร์วิสแฟนๆ ด้วยการจัดโมเมนต์แต่งทรงผมให้กันและกัน จนเกิดเป็นกระแสดราม่าอย่างหนัก ส่งผลให้แฮชแท็กร้อน #ไล่ศิลปินคนอื่นทำไม ติดเทรนด์ทวิตเตอร์อยู่หลายวัน
จนกระทั่งต่อมาแฟนคลับของ ซี-นุนิว ที่ตกเป็นประเด็น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ออกมาทวีตข้อความขอโทษ ต่อ ธนภพ และ บลู พงศ์ทิวัตถ์ รวมถึงแฟนคลับคนอื่นๆ ผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวด้วยว่า
"เราคือคนเสื้อฟ้านะคะ อย่างแรกต้องขอโทษแฟนคลับทั้งต่อและบลูเลยค่ะ เราไม่มีข้อแก้ตัว เราไม่ได้มีเจตนาไม่ดี แต่สิ่งที่เราทำมันแย่มากจริงๆค่ะ ว่าเราได้เลย เราน้อมรับผิด เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้เรามากๆ เราจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก และเราจะแท็กขอโทษน้องอีกครั้งค่ะ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฟนคลับ ซี-นุนิว ไล่ ต่อ ธนภพ ออกจากเฟรม ชาวเน็ตเดือด #ไล่ศิลปินคนอื่นทําไม
ทาทา ยัง อัปเดตอาการโควิด ต้องทำ PICC line หลังเจาะหาเส้น 22 ครั้งจนตัวพรุน
กอล์ฟ พิชญะ ตอบดราม่าแฟนจะรู้สึกยังไง ปมพา เชียร์ ฑิฆัมพร ย้อนวันวานที่สยาม
โดยล่าสุดนักแสดงหนุ่มคนดัง ต่อ ธนภพ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นดราม่าดังกล่าวเป็นครั้งแรก พร้อมยืนยันไม่ได้โกรธกลุ่มแฟนคลับของ ซี-นุนิว รวมถึงเข้าใจว่าทุกคนก็รักศิลปินของตัวเอง นอกจากนี้ยังเผยอีกว่า ซี-นุนิว ได้โทรมาคุยกับตนแล้ว และทั้ง 2 คนก็ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"ไม่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น คือมีพี่ๆ ส่งมาให้ดู ไม่ได้โกรธเพราะผมไม่ได้ต้องการทะเลาะกับใคร ในวันนั้นผมกำลังเล่นกับแฟนคลับผมอยู่ แต่ก็ไม่รู้ว่าแฟนคลับใคร เพราะมากันเยอะมาก งานวันนั้นมีศิลปินหลายคน ก็เลยเล่นแบบรวมๆ ตอนนั้นเสียงดังมาก ไม่ได้ยินชัดว่ามีคนบอกให้เขยิบหน่อย
ผมเข้าใจว่าทุกคนก็รักศิลปินของตัวเอง ขนาดตัวผมยังอยากถูกรักเลย ก็พยายามเข้าใจ ผมพยายามคิดหลายๆ มุม ไม่คิดแบบใจแคบ มีโอกาสได้คุยกับซีและนุนิว พูดว่าแค่นึกถึงก็ดีใจแล้ว ไม่คิดเล็กคิดน้อย เหมือนทั้งคู่ไม่สบายใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ผมก็โอเค ถือเป็นประสบการณ์ที่เราสอนดีกว่า ไม่มีใครถูกตลอดเวลา สำหรับผมแฟนคลับคือครอบครัวเรา"
ขอบคุณข้อมูลจาก True Inside