ย้อนรำลึกถึง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ราชินีลูกทุ่งผู้ล่วงลับ ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย.65) เป็นวันครบรอบ 30 ปีที่จากไปของราชินีลูกทุ่งขวัญใจประชาชน
นับเป็นความสูญเสียที่ประชาชนไม่เคยลืม สำหรับการจากไปของราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ที่เสียชีวิตด้วยวัย 31 ปี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2535 จากโรค "SLE" หรือแพ้ภูมิตัวเอง สร้างความเสียใจให้กับแฟนเพลงไปทั่วประเทศ ด้วยเหตุนี้ผู้ใหญ่รุ่นปู่ย่าตายาย หรือรุ่นพ่อแม่ของเรา จึงเรียกโรค SLE ว่า "โรคพุ่มพวง"
และในทุกวันที่ 13 มิถุนายน ของทุกปี จะเป็นวันครบรอบการจากไปของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ซึ่งวันนี้ 13 มิถุนายน 2565 เป็นวันครบรอบ 30 ปีที่ราชินีลูกทุ่งจากไป โดยมีศิลปิน คนบันเทิง รวมถึงแฟนเพลงเดินทางไปร่วมรำลึกอย่างไม่ขาดสาย ณ วัดทับกระดาน จ.สุพรรณบุรี
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเสียชีวิตไปแล้ว 30 ปี แต่ผลงานของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็ยังอยู่เป็นตำนาน มีศิลปินนักร้องลูกทุ่งรุ่นหลังนำบทเพลงไปขับร้องตามเวทีประกวดต่างๆ แถมยังยกให้แม่พุ่มพวงเป็นศิลปินต้นแบบในวงการเพลงลูกทุ่งอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไอซ์ อภิษฎา เผยสาเหตุปิดเงียบ หลังถูกแฟนขอแต่งงาน ตั้งแต่ ต.ค.ปีที่แล้ว
นก จริยา ลั่นกฎหมายย้อนแย้ง ทำคนดีอยู่ยาก ถามเห็นคนถูกทำร้ายต้องทำยังไง?
ทั้งนี้หากย้อนไปครั้งยังมีชีวิต พุ่มพวง ดวงจันทร์ ถือเป็นนักร้องผู้พลิกหน้าประวัติศาสตร์ลูกทุ่งไทย จากเด็กสาวไร่อ้อย เมืองสุพรรณบุรี สู่นักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทยที่ได้รับความนิยมอย่างมาก มีบทเพลงดังมากมายกว่า 500 บทเพลงเลยทีเดียว
และแม้แม่ผึ้งจะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ไม่ใช่ปัญหาในการร้องเพลง เพราะเธอสามารถจำเนื้อเพลงได้อย่างแม่นยำ ร้องเพลงไว้กว่าพันบทเพลง มีความมุ่งมั่นและความตั้งใจสูงมาก จนกลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียง เป็นที่รักของประชาชนชาวไทย
เรียกว่าทุกผลงานเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ก็กลายเป็นเพลงที่มีชีวิต ไพเราะซึ้งกินใจทุกบทเพลง เพราะเธอถ่ายทอดอารมณ์ สื่อสารได้ดี สามารถดึงให้คนฟังเข้าไปอยู่ในเพลงได้จริงๆ ผลงานเพลงเด่น อาทิเช่น แก้วรอพี่,สาวนาสั่งแฟน,คนดังลืมหลังควาย,โลกของผึ้ง,ส้มตำ,นักร้องบ้านนอก และเพลงอื่นๆ อีกมากมาย
ประวัติราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์
- พุ่มพวง ดวงจันทร์ เกิดวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ครอบครัวมีอาชีพรับจ้างทำไร่อ้อย เกิดในครอบครัวยากจน เป็นลูกคนที่ 5 ของบ้านในจำนวน 12 คน
- เธอเรียนที่โรงเรียนบ้านดอนตำลึง แต่ด้วยความที่เธอมีน้องอีก 6 คน ประกอบกับค่านิยมของแม่นั้น เห็นว่าผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเรียนมาก เธอจึงเรียนไม่จบแม้แต่ชั้น ป.2 ในวัยเด็กพอน้องหลับหมด เธอไปหาของขาย เก็บผัก หาดอกไม้ป่า หาบไปขายตามโรงงาน
- เธอเป็นเด็กน้อยที่ชอบร้องเพลงในไร่อ้อย ระหว่างช่วยครอบครัวทำงาน ซึ่งเธอเริ่มหัดร้องเพลงและเข้าประกวดตามงานต่างๆ ตั้งแต่อายุ 8 ปี โดยใช้ชื่อว่า "น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย"
- จากนั้นก็เดินสายประกวดร้องเพลงตามเวทีต่างๆ จนกวาดรางวัลเรื่อยๆ เมื่ออายุ 15 ปี พ่อได้ฝากเป็นลูกบุญธรรม "ไวพจน์ เพชรสุพรรณ" ซึ่งได้มีโอกาสอัดแผ่นเสียงเพลงชุดแรก "แก้วรอพี่"
- ต่อมา "มนต์ เมืองเหนือ" ได้ตั้งชื่อในวงการบันเทิงให้เธอใหม่ว่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ซึ่งเธอมีชื่อเสียงมากที่สุดในปี พ.ศ. 2525 มีผลงานเพลงดัง เช่น "สาวนาสั่งแฟน, นัดพบหน้าอำเภอ, อื้อฮือหล่อจัง, กระแซะเข้ามาซิ, ดาวเรืองดาวโรย, คนดังลืมหลังควาย, บทเรียนราคาแพง" เป็นต้น
- เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2532 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีอีกครั้ง ในสาขารางวัล "ขับร้องเพลงดีเด่น" กับเพลง "สยามเมืองยิ้ม" ประพันธ์โดย "ครูลพ บุรีรัตน์" ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่ง ภาค 2