การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ชี้แจง โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ยืนยันไม่ได้เอื้อเอกชน แต่อำนวยความสะดวกคนเดินทางกว่า 3 หมื่นคนต่อวัน
กรณีที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย ได้ตั้งข้อสังเกตในประเด็น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าไปเมืองทองธานี ทั้งที่เดิมทีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ไม่ได้เชื่อมต่อเข้าเมืองทองธานี เป็นการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเจ้าของเมืองทองธานีหรือไม่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้
1. ส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ เข้าสู่พื้นที่เมืองทองธานี เป็นประโยชน์ต่อประชาชน
รฟม. ได้ดำเนินการศึกษารายละเอียดความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ พบว่า เป็นประโยชน์ต่อการให้บริการแก่ประชาชนและสาธารณะ โดยจะช่วยบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดบนถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งมีปริมาณรถหนาแน่นเต็มความจุของถนนที่สามารถรองรับได้ อันจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจของประเทศ เนื่องจากลดการสูญเสียน้ำมันเชื้อเพลิงจากปัญหาการจราจรติดขัด
ในเมืองทองธานี มีประชากรในพื้นที่กว่า 30,000 คน และมีผู้เดินทางเข้า - ออก ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นที่อยู่อาศัย ชุมชนขนาดใหญ่ สถานที่ราชการ อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม สนามกีฬา ดังนั้น โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ จึงช่วยให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อทางสายหลักโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ เข้าสู่พื้นที่ชั้นในกรุงเทพมหานคร โดยเปลี่ยนถ่ายการเดินทาง สู่ระบบขนส่งมวลชนสายหลัก 4 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ดังนั้นการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายฯ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
2. การดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ เป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง
คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ในคราวประชุมครั้งที่ 2/2561 เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 ได้มีมติเห็นชอบให้บรรจุโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ ในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางฯ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ได้มีมติรับทราบสรุปมติที่ประชุม คจร. ในการดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ รฟม. ได้เจรจากับผู้รับสัมปทาน (บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด) ให้ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและการลงทุนส่วนต่อขยายฯ เองทั้งหมด ได้แก่ ค่าก่อสร้างงานโยธา ค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน ค่างานระบบรถไฟฟ้าในส่วนต่อขยาย และ รฟม. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการส่วนต่อขยาย และยังเป็นการเพิ่มโอกาสที่ รฟม. จะได้รับส่วนแบ่งผลตอบแทนเพิ่มเติมกรณีมีผู้โดยสารสูงกว่าประมาณการ
นอกจากนี้รฟม. ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของสัญญาร่วมลงทุนฯ พระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 พระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 รวมถึงพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และ พ.ศ. 2561 ทุกขั้นตอน จนกระทั่งคณะรัฐมนตรี ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ได้มีมติเห็นชอบการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี กรณี โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ
รฟม. ยืนยันว่า ได้ดำเนินการโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายฯ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและภาครัฐ โดยได้ดำเนินการตามขั้นตอน ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ ยึดหลักธรรมาภิบาลโดยเคร่งครัด