พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนา "มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย" ชูโมเดลรถไฟ 2 ขบวนแก้จน ชี้ ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภา ยันไม่ใช่พรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย
เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พรรคเพื่อชาติ จัดงานเสวนา "มื้อค่ำเพื่อทางออกประเทศไทย" ร่วมเสวนาโดย นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติ นายวิโรจน์ อาลี อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายจารุพล เรืองสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนี้ยังมีการแสดงดนตรีสดจากวงออร์เคสตรา (Orchestra) จากนายสุกรี เจริญสุข รวมถึงการแสดงงานศิลปะจากนายสุชาติวงษ์ทอง ศิลปินสีน้ำชื่อดังและครูศิลปะนานาชาติ โดยมีผู้สนับสนุนพรรคเข้าร่วม
โดยนายยงยุทธ กล่าวว่า ปัญหาของประเทศเราไม่มีวันจบ วันนี้โครงสร้างประเทศ กฎหมายล้าหลัง ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์ สมัยก่อนมีการกล่าวว่าส.ส.ชอบรับเงินในห้องน้ำ เหมือนส.ส.ชอบกินกล้วยในตอนนี้ แต่เราได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 เพื่อให้ได้ ส.ส.ที่เข้มแข็ง
เชื่อว่าหากตนลงเลือกตั้งเมื่อไหร่ ใบแดงจ่อคอหอยตลอดเวลา ส่วนใบแดงสั่งได้หรือไม่นั้น ถ้าเป็นพวกฉันไม่มีวันผิด แต่พวกอยู่ตรงข้ามโดน วันนี้จึงขอให้มีรัฐบาลที่เข้มแข็ง ส.ส.กินกล้วยต้องหมดสภา ต้องมีกระบวนการคัดสรรนายกฯ ตรงกับสายวิชาชีพ
ได้ ส.ส. 300 คนยังฝ่าด่าน ส.ว. ยาก
นายยงยุทธ กล่าวถึงกระแสแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้งคราวหน้าว่า การต่อสู้เป็นเรื่องดี แต่การสู้แล้วผิดหวังจะทำให้ห่อเหี่ยว ซึ่งตราบใดเรามี ส.ว.สีเขียว 250 คนอยู่ ตราบใดที่กระบวนการเลือกตั้งนายกฯ มีส่วนผสม ส.ว.และส.ส. นั่นก็คือปัญหาการเลือกตั้ง ดังนั้นการบอกมีแลนด์สไลด์ภายใต้เงื่อนไขปัจจุบันเป็นเรื่องยาก
ตนไม่ได้ปลุกระดม แต่สมมุติแลนด์สไลด์จาก300 เสียง จาก 500 เสียงนั้นยากมาก แม้เสียงประชาชนถล่มทลาย แต่หลังการเลือกตั้งพรรคพวกเดิมก็ออกมาจะได้คนเดิม และห่วงว่าเกิดปัญหานำไปสู่เงื่อนไขทางการเมืองอีกได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
8 ปี รัฐประหาร ประชาชนได้อะไร ? และคำขอโทษของอดีตนกหวีดทองคำ กลับใจ
ถ้าบิ๊กตู่หลุดจากเก้าอี้ ! บิ๊กป้อม มีโอกาสเป็นนายกฯ ด้วยวิธีใด ?
"พล.อ.ประยุทธ์" ย้อน 7 ปีที่ตัดสินใจเข้ามาเพราะบ้านเมืองเดินต่อไม่ได้
"ธรรมนัส" ล้มรัฐบาล เป็นไปได้ยาก
นายยงยุทธ ยังกล่าวถึงความเป็นไปได้กระแส ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จะเปลี่ยนแปลงการเมืองว่า วันนี้ปรากฏการณ์ธรรมนัสสฟีโนมินอลที่เกิดขึ้น แต่หากไปดูไส้ในจริงๆ จะพบว่าไม่เหมือนในอดีต สมัยนายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา และพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เมื่อเริ่มได้ยินเสียง ส.ส.ปริ่มๆ ก็รีบประกาศยุบสภา หรือลาออกเพื่อเปลี่ยน แต่วันนี้พี่เขายังอยู่ได้ เพราะมีกระบวนการไปกดปุ่มเปลี่ยนใจ
ดังนั้นปรากฏการณ์จะล้มรัฐบาลโดย ร.อ.ธรรมนัส เป็นปรากฏการณ์ที่ยากมาก เพราะดูจากในสภาวันนี้ เช่น ที่แม้เสียงขาด ส.ส.มาไม่ครบ ประธานสภาสั่งพักการประชุมไปเลย รวมทั้งในการโหวตสำคัญที่มีการใช้ ส.ส.กินกล้วยอยู่
ชูโมเดลรถไฟ 2 ขบวนแก้จน
ด้านน.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.พรรคเพื่อชาติ กล่าวในหัวข้อ “ประเทศของเรา” มีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยอยู่ในสภาวะวิกฤตมาหลายปี พรรคเพื่อชาติเล็งเห็นว่าสิ่งนี้เป็นภารกิจอันสำคัญของเราที่จะต้องรวบรวมสรรพกำลังในการหาทางออก อย่างน้อยก็เป็นการช่วยกันเปิดทางไปสู่แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
สิ่งที่พรรคเพื่อชาติจะแก้ปัญหาให้สำเร็จ เราจะมุ่งเป้าไปที่การแก้ปัญหาที่ต้นตออย่างแท้จริง และนี่คือยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อชาติ โดยยุทธศาสตร์ที่หนึ่ง เราเรียกว่ายุทธศาสตร์รถไฟสองขบวน ที่จะต้องวิ่งควบคู่กันไปรถไฟขบวนแรก เป็นรถไฟความเร็วสูง ที่จะมุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วภายในพลวัตแห่งโลกปัจจุบัน เราจะผลักดันและสนับสนุนให้รถไฟขบวนนี้มุ่งไปข้างหน้าให้ทันโลก
ขณะเดียวกัน เราจะมีรถไฟอีกหนึ่งขบวน คือรถขบวน CLASSIC ที่จะแก้ปัญหาเรื้อรังของประเทศ ในแต่ละโบกี้คือหนึ่งหมู่บ้าน และจะเป็นหน่วยผลิตสำคัญที่ผลิตผลผลิตทางการเกษตรด้วยแนวทางที่พัฒนาและได้รับการแก้ปัญหาแล้ว และจะมาบรรจบกันที่สถานีแห่งชาติ ที่พรรคเพื่อชาติมองว่าเป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุดนั่นคือการสมานรวมรถไฟสองขบวนนี้ ให้ได้
และสิ่งที่เราได้รับไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ ความแตกต่างของคนในสังคม มันจะหดหายไปเพราะขบวนรถไฟสองขบวนนี้มาบรรจบประสานกันที่สถานีแห่งชาติ และเราไม่ต้องการเขียนนโยบายบนอากาศ พรรคเล็กๆ นี้ พูดแล้วจะทำได้ เราจึงต้องสาธิตให้ได้เห็นว่าพรรคเพื่อชาติมีความตั้งใจ และเราจะทำมันร่วมกับประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ แก้ความยากจน พัฒนาคน สร้างรายได้ กระจายความร่ำรวย ให้แก่ประชาชน
ยันอุดมการณ์พรรคเพื่อชาติเพื่อประชาชน
น.ส.ปิยะรัฐชย์ กล่าวอีกว่า เพื่อยืนยันอุดมการณ์ของพรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อชาติยืนยันความเป็นพรรคการเมืองประชาธิปไตย ที่ให้ความสำคัญกับประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย อันเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ เราไม่นั่งเทียนเขียนนโยบายบนอากาศ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจากการศึกษาวิจัยไปพร้อมๆ กับประชาชน พรรคเพื่อชาติ ยึดมั่นในอุดมการณ์ “เพื่อชาติ เพื่อประชาชน”
เราชัดเจน และเรามองภาพอันเดียวกัน คือการทำเพื่อประชาชน การให้เกียรติประชาชน และยกประชาชนไว้เสมือนเป็นเจ้านายของเรา เราไม่ต้องการมี ส.ส.จำนวนมาก แต่เราต้องการมีผู้แทนราษฎรให้มากที่สุด ผู้แทน ที่เป็นผู้แทนจริงๆ มิใช่แค่ส.ส. ที่ใส่สูทเข้าไปนั่งเล่นในสภา การสนับสนุนของทุกท่านจะเป็นส่วนสำคัญยิ่งที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายร่วมกัน
ยกประชาชนเป็นเจ้านาย ลั่นไม่ใช่สาขาพรรคเพื่อไทย
พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ อดีต ผบก.จ.ปทุมธานี ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า ทิศทางและนโยบายของพรรคเพื่อชาติ มุ่งมั่นพัฒนาให้เป็นพรรคของประชาชน ที่มีนโยบายและดำเนินกิจการ โดยยึดหลักการธำรงไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง มองประชาชนเป็นเจ้านาย เปิดโอกาสให้ประชาชนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์ในทางเดียวกัน เข้ามาเป็นสมาชิกพรรค ทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมอารยประเทศ ทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจและการเมือง อย่างแท้จริง
นโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนของพรรคเพื่อชาติ ได้แก่ การลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม การแก้ปัญหาที่เรื้อรังของประเทศ การสร้างงานเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน ลดการผูกขาดและเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ประชาชน ไม่ได้เป็นพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติมีการดำเนินกิจกรรมที่เป็นตัวของตัวเองมาโดยตลอด ไม่ได้ติดยึดหรือฟังคำสั่งจากพรรคหนึ่งพรรคใด จะเห็นได้ว่า ในการอภิปรายในรัฐสภาหลายครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อชาติจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านในเรื่องที่เห็นว่าฝ่ายรัฐบาลทำงานไม่ถูกต้อง และสนับสนุนรัฐบาลในเรื่องที่เห็นว่าเกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม