หมอยง ตอบข้อสงสัย "ฝีดาษลิง" ระบาดหรือไม่และป้องกันตัวต้องทำอย่างไร ชี้ไม่ได้ติดง่ายแบบโควิด19 แนะไม่ควรฉีดวัคซีนป้องกันให้คนทั่วไป ควรให้เฉพาะกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคเท่านั้น
วันที่ 28 พ.ค. 2565 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หรือ “หมอยง” หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” โดยได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) ว่า การระบาดของโรค "ฝีดาษลิง" นอกทวีปแอฟริกา แต่เดิมเกิดจากการติดต่อจากสัตว์มาสู่คน โดยเฉพาะ สัตว์เลี้ยงตระกูลหนู ที่เป็นพาหะไวรัสนี้อยู่ เช่น หนูยักษ์แกมเบีย (Gambian giant rat) แพรี่ด็อก (Prairie dog)
การระบาดในครั้งนี้ไม่มีหลักฐานการติดเชื้อจากสัตว์ แต่เป็นการติดระหว่างสัมผัสกับผู้ป่วย
การติดต่อจะต้องมีการสัมผัสอย่างใกล้ชิด ไม่ได้ติดง่ายแบบโควิด19 การกระจายโรค ยังไม่น่าเป็นห่วง ส่วนใหญ่ยังอยู่ในวงจำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หมอยง ชี้ "โรคฝีดาษลิง" คนส่วนมากไม่ได้ติดจากลิง พบในเพศชายเกือบทั้งหมด
คัดกรองโรค "ฝีดาษลิง" ผ่านระบบ Thailand Pass สำหรับ นทท.ที่เดินทางเข้าประเทศ
โรคนี้มีวัคซีนในการป้องกัน การปลูกฝีในอดีต ก็สามารถป้องกันโรคนี้ได้ ผู้ที่เคยปลูกฝีแล้ว ถึงแม้ว่าจะติดเชื้อ ตุ่มที่เกิดขึ้นจะน้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เคยปลูกฝีมาก่อน
ปัจจุบันยังมีวัคซีน ที่ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง (อเมริกาชื่อการค้าว่าJYNNEOS (IMVANEX)ในยุโรป (IMVAMUNE) โดยใช้ไวรัส ในกลุ่ม ฝีดาษคือ (Modified Vaccinia Ankara strain) ไวรัสที่อ่อนฤทธิ์ และไม่สามารถก่อโรคได้ มาใช้ฉีดในการป้องกัน และเป็นประโยชน์ในผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดหรือสัมผัสมาไม่เกิน 4 วัน
ปัจจุบันยังไม่ได้แนะนำให้ฉีดวัคซีนกับคนทั่วไป จะให้เฉพาะกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสโรคมาเท่านั้น