svasdssvasds

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วิเคราะห์สถิติ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เกมนัดชิง UCL

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วิเคราะห์สถิติ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง เกมนัดชิง UCL

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด ดูบอลสด นัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 วันเสาร์ที่ 28 พ.ค. ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองส์ ในฝรั่งเศส เวลา 02.00 น. ตามเวลาไทย ถ่ายทอดสด beIN SPORTS 1 ซึ่งเกมสุดสำคัญเกมนี้ มีสถิติมากมาย รอที่จะเกิดขึ้น และน่าสนใจในการเฝ้าติดตาม

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด นัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 วันเสาร์ที่ 28 พ.ค. ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองส์ ในฝรั่งเศส เวลา 02.00 น. ตามเวลาไทย ถ่ายทอดสด beIN SPORTS 1 มีสิ่งต่างๆ และสถิติต่างๆ รอที่จะเกิดขึ้นมากมาย เพราะนี่คือเกมที่สำคัญที่สุดของทั้ง 2 สโมสรในฤดูกาลนี้ 

1) . เริ่มต้นกันที่ ตัวสนาม สต๊าด เดอ ฟรองส์ สังเวียนนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด , สนามแห่งนี้ใช้จัด นัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้งแล้ว ในอดีต และ ตัวแทน จากสเปน ได้แชมป์จากสนามแห่งนี้ ทั้ง 2 ครั้งนั่นคือ  นัดชิงฯ 1999-2000 เรอัล มาดริด ชนะ บาเลนเซีย 3-0 และ นัดชิงฯ 2005-06  บาร์เซโลน่าชนะอาร์เซน่อล 2-1 , หากเรอัล มาดริดได้แชมป์ ก็จะทำให้สถิติ ทีมจากสเปนได้แชมป์ที่สนามแห่งนี้ ยังคงอยู่ต่อไป 

2). สำหรับ นัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 ถือเป็นเกมนัดชิงฯ ฟุตบอลยุโรป ครั้งที่ 66 แล้ว โดย ลิเวอร์พูล แชมป์ 6 สมัย เจอกับ เรอัล มาดริด แชมป์ 13 สมัย ซึ่งเป็นทีมที่ได้แชมป์เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วย ,  หากลิเวอร์พูล ไปถึง แชมป์ จะได้แชมป์เป็นสมัยที่ 7 เทียบเท่ากับเอซี มิลาน จากอิตาลี , แต่หาก ราชันชุดขาวได้แชมป์ พวกเขาจะยืดสถิติเป็นแชมป์สมัยที่ 14 และเป็นการยากที่ทีมอื่นๆจะไล่ทัน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม นัดชิง UCL

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วิเคราะห์บอล เส้นทางก่อนนัดชิง UCL 28 พ.ค. 02.00 น.

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด ดูบอลสด นัดชิง UCL 28 พ.ค. 02.00 น. เช็กความพร้อมล่าสุด

แข้งหงส์สวมเซ็นเซอร์สมองขณะฝึกซ้อม ก่อนนัดชิง UCL ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด

3). ในประวัติศาสตร์ นัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 65 ครั้งที่ผ่านมา , สโมสรจากสเปน เป็นแชมป์ไปแล้วทั้งสิ้น 18 ครั้ง มากที่สุดจากทุกๆชาติ  (เรอัล มาดริด 13 และ บาร์เซโลน่า 5) , หากเรอัล มาดริดได้แชมป์ในปีนี้ ก็จะทำให้ สเปน เป็นแชมป์จ้าวยุโรป ครั้งที่ 19 ทันที 

4). ส่วนสโมสรจากอังกฤษ เป็นแชมป์ยุโรป ไปแล้วทั้งสิ้น 14 ครั้ง (ลิเวอร์พูล 6, แมนฯยูไนเต็ด 3, เชลซี 2 , น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2 และ แอสตัน วิลล่า 1 )  หากนัดชิงฯ ปีนี้ หงส์แดงของเยอร์เก้น คล็อปป์ ไปถึงแชมป์ ก็จะทำให้ ทีมจากอังกฤษไล่ตามทีมจากสเปน เป็นแชมป์ยุโรปครั้งที่ 15 ทันที

 

5). คาริม เบนเซม่า กองหน้าวัย 34 ปีของเรอัล มาดริด น่าจะขั้วรางวัลดาวซัลโว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้อย่างไม่ตกสงสัย เพราะเขาซัลโวไปแล้ว 15 ประตู (อันดับ 2 คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ของบาเยิร์น ที่ยิงไป 13 ประตู แต่ตกรอบไปแล้ว) , ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีดาวซัลโว ประจำรายการนี้ นั่นคือโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่ยิงไป 8 ประตู 

ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วิเคราะห์ เส้นทางก่อนนัดชิง UCL 28 พ.ค. 02.00 น. Credit IG realmadrid และ liverpoolfc

6.) เรอัล มาดริด เข้าชิงฯรายการนี้มาทั้งสิ้น 17 ครั้ง (รวมซีซั่นนี้ที่กำลังจะเจอกับลิเวอร์พูล วันเสาร์ 28 พ.ค. 02.00 น. ) แต่สถิติที่น่าสนใจ มากๆก็คือ การเข้าชิงฯ 7 ครั้งหลังสุด ราชันชุดขาวจบด้วยการเป็นแชมป์ทั้งหมด

7).  คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือเรอัล มาดริด เคยพาทีมเป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว 3 ครั้ง เทียบเท่ากับสถิติของ บ๊อบ เพสลีย์ (ลิเวอร์พูล) และ ซีเนอดีน ซีดาน (เรอัล มาดริด) , แต่สิ่งที่พิเศษของ คาร์โล อันเชล็อตติ คือ 3 ครั้งที่เขาได้ครองจ้าวยุโรป มาจาก 2 สโมสร นั่นคือ เอซี มิลาน (2003,2007) และ เรอัล มาดริด (2014) , และหาก เกม ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วันเสาร์นี้  "อันเช่" ทำทีมได้แชมป์อีก เขาจะเป็นคนแรกในโลก ที่คุมทีม ได้ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 สมัย 

8) . เกม ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด ถ้าหากลิเวอร์พูลแพ้เกมนี้ขึ้นมา  จะมีผลเสียต่อสถิติการคุมทีมของเยอร์เก้น คล็อปป์โดยตรงหนึ่งเรื่อง นั่นคือ เยอร์เก้น คล็อปป์ จะกลายเป็นโค้ชที่พาทีมแพ้นัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากที่สุดในประวัติศาสตร์ เทียบเท่ากับมาร์เซลโล่ ลิปปี้ ทันที , โดยในอดีต   มาร์เซลโล่ ลิปปี้ (กุนซือผู้พาทีมชาติอิตาลีเป็นแชมป์โลก 2006)  เคยคุมยูเวนตุส เข้าชิงฯ ได้ 4 ครั้ง 1996, 1997, 1998 และ 2003 และได้แชมป์แค่ครั้งเดียวคือในปี 1996 

ส่วนเยอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมเข้าชิงฯรวม ปีนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว  โดย 3 ครั้งที่ผ่านมา เขาได้แชมป์ไป 1 ครั้ง ในปี 2019  และแพ้ 2 ครั้ง ในตอนที่คุมดอร์ทมุนด์ปี 2013 และ ลิเวอร์พูล 2018 


 9.) แกเร็ธ เบล,คาริม เบนเซม่า,ดานี่ คาบาฆาล,คาเซมิโร่,อิสโก้,มาร์เซโล่,ลูก้า โมดริช,นาโช่ และ โทนี่ โครส  คือ นักเตะในยุคปัจจุบันที่ได้แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกมาแล้ว 4 ครั้ง , หากเกม ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด วันเสาร์นี้ พวกเขาพาทีม ราชันชุดขาวเป็นแชมป์ได้ พวกเขาทั้งหมดจะได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 เทียบเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ , อเลสซานโดร คอสตาคูร์ต้า , เปาโล มัลดินี่  ที่เคยได้แชมป์รายการนี้ไปแล้ว 5 ครั้งทันที ,  อย่างไรก็ตาม คนที่ครองสถิติเป็นนักเตะที่เป็นแชมป์ยุโรปมากที่สุด ตอนนี้ยังคงเป็น ฟรานซิสโก้ เกนโต้ ของเรอัล มาดริด ที่ได้แชมป์ 6 สมัย 1956, 1957, 1958, 1959, 1960, 1966

10). ปิดท้าย เกร็ดสถิติ ก่อนเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021-22 ลิเวอร์พูล - เรอัล มาดริด , ความจริงแล้ว เรอัล มาดริด หากเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (หรือ ยูโรเปี้ยน คัพเดิม)  มักจะตบเท้าเป็นแชมป์ได้เปอร์เซนต์สูงมาก โดยเข้าชิงมาแล้ว 16 ครั้ง  ได้แชมป์ไปถึง 13 แพ้แค่ 3 ครั้ง , แต่ทีมที่ทำให้ เรอัล มาดริดแพ้ครั้งหลังสุดในนัดชิงฯฟุตบอลยุโรปก็คือ ลิเวอร์พูล นั่นเอง , โดยเป็นนัดชิงฯ ยูโรเปี้ยนคัพ ปี 1981 ที่สนามปาร์ก เดอ แพรงซ์ ในกรุงปารีส เกมนั้นลิเวอร์พูลชนะ 1-0 คนยิงประตูคือ อลัน เคนเนดี้ 

  Credit :  Youtube  Real Madrid

 

 

related