ตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยตอนนี้สามารถระบุตัวคนใช้แอคเคาท์ของ "แตงโม นิดา" ได้แล้ว! เตรียมเรียกแม่แตงโม-บุคคลเกี่ยวข้องเข้าสอบเพิ่ม ย้ำ! คดีนี้ลุยได้ ไม่ต้องรอแม่แจ้งความ เพราะเป็นคดีในโลกออนไลน์!
พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยความคืบหน้า หลังมีบุคคลโพสต์รูปภาพและใช้แอคเคาท์ส่วนตัวของอดีตนักแสดงสาว "แตงโม นิดา"
โดยได้ระบุว่า "สิ่งเหล่านี้จะปรากฏอยู่ในสำนวน เนื่องจากกระติกได้มาร้องทุกข์แล้วจึงดำเนินการสืบสวน ส่วนเรื่องการเข้าถึงเฟซบุ๊กและไอคาวด์มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งสามารถระบุตัวตนได้พอสมควร ส่วนใครจะเป็นคนทำนั้น ขณะนี้กำลังใช้การซิงค์ข้อมูลเครื่องกับเครื่องและมีความเป็นไปได้สูงที่จะได้ข้อมูลสถานที่และเครือข่าย รวมถึงสิ่งที่เขาได้โพสต์ เพราะวันเวลาที่เริ่มโพสต์คือตั้งแต่วันที่ 21พ.ค.และมีการโพสต์อยู่เรื่อยๆ ทั้งนี้ได้ประสานกับเฟซบุ๊กแล้ว ส่วนเฟซบุ๊กใหม่ที่เปิดมานั้นยืนยันว่าจะต้องติดตามต่อไป
ส่วนบุคคลที่ใช้โพสต์จะอยู่ในหรือต่างประเทศนั้นยังไม่ขอตอบ เพราะหากเป็นโทรศัพท์เครื่องของคุณแตงโมสามารถทำได้หมด แต่ต้องมีเบอร์มือถือหลักก่อน ดังนั้นหากใครจะเอาไปเปิด เบอร์มือถือหลักจะต้องเป็นจุดเริ่มต้น และยังไม่ขอตอบเช่นกันว่าอยู่ในอเมริกาตามที่ปรากฎตามรายงานข่าวหรือไม่ แต่ยืนยันว่า รายละเอียดมีทุกมุมแล้ว ซึ่งอยู่ที่ไหนเป็นการคาดเดา เพราะมีความเป็นไปได้หมด
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลนั้น ตอนนี้กำลังรวบรวมและพิจารณาว่าจุดไหนที่จำเป็นบ้าง หากพบความจำเป็นก็ต้องขอความร่วมมือให้เข้ามาให้การ ทั้งคุณแม่และคนใกล้ชิดที่รู้รหัสแอคเคาท์ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะต้องเรียกมาทั้งหมด ซึ่งในส่วนของคุณแม่ก็ได้พูดไว้แล้วว่า พร้อมให้ข้อมูลแต่รอเสร็จงานศพก่อน ซึ่งก็ไม่ได้เร่งรัดเพราะต้องดูเรื่องกาลเทศะด้วย
ส่วนตัวเครื่องโทรศัพท์นั้นก็จำเป็นต้องเอามาตรวจสอบ และต้องมาแสดงให้ทราบว่าอยู่กับใคร ซึ่งขึ้นอยู่กับคุณแม่ในฐานะตัวแทนผู้เสียหายว่า จะนำมามอบให้หรือไม่ แต่หากคุณแม่ไม่ประสงค์จะมอบให้ แต่ตำรวจไซเบอร์เห็นว่ามีความจำเป็นก็ต้องเรียกพยานวัตถุมา"
ส่วนที่มีรายงานข่าวว่า พบการโอนเงินหลักแสนให้กับบุคคลที่แตงโมเคารพรักนั้น พลตำรวจโทกรไชย ระบุว่า "เรื่องนี้ไม่ทราบข้อมูลขอไม่ตอบ และการโอนเงินก็ถือเป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนจะมีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ก็ยังไม่ขอตอบเช่นกัน เพราะการโอนเงินอาจจะให้ด้วยความเสน่หาหรือไม่ โอนให้ใคร และเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องโทรศัพท์หรือไม่ ก็คงต้องดูต่อไป"
พล.ต.ท.กรไชย ยังยืนยันด้วยว่า "ตอนนี้ตำรวจไซเบอร์ สามารถลุยงานสอบสวนได้เต็มที่ ไม่ต้องรอให้คุณแม่แตงโมเข้ามาแจ้งความ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งอยู่ในอำนาจของตำรวจไซเบอร์ที่จะทำการตรวจสอบค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว โดยได้รับทำคดีตั้งแต่ที่ทางตำรวจภาค 1 ประสานมา และ กระติก ก็เข้ามาร้องทุกข์ด้วยอีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ หากทราบตัวบุคคลที่เป็นผู้ใช้งานบัญชีของแตงโม ก็เป็นไปได้ที่จะมีการออกหมายจับ เบื้องต้นจะเป็นความผิดเกี่ยวกับการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมา 14 และ ม.16 และการนำข้อมูลของผู้เสียชีวิตมาโพสต์ให้อับอายเสียหาย หากพบว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ต่างประเทศจริงแม้ขณะนี้จะยังไม่ได้ยืนยันนั้น ตามขั้นตอนก็ต้องประสานกับประเทศต้นทางตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ว่าจะมีสนธิสัญญาหรือไม่ที่สามารถส่งตัวมาดำเนินคดีได้ และประเทศต้นทางก็จะพิจารณาว่าเป็นคดีสำคัญหรือไม่ที่จะต้องส่งตัวมาให้ดำเนินการ"