"ทนายตั้ม” อ้างมีหลักฐานเด็ด เจอเด็ก 18 ร้อง! โดนรองหัวหน้าพรรคดัง ลวนลาม ผู้เสียหายเล่าเคยปลื้มอุดมการณ์ ตั้งใจคุยเรื่องการพัฒนาประเทศ เจอคุยเรื่องพัฒนาความสัมพันธ์แทน ด้านโฆษก ปชป. งง ไม่รู้ใคร แต่ถ้าเป็นคนในพรรค รับรองโดนกฎหมายจัดการแน่
หลังจากกรณีที่ "ทนายตั้ม” แฉรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ ลวนลาม กอด-จูบ เด็กสาววัย 18 ปี ผ่านเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งบอกใบ้ชาวเน็ตฯว่าเป็นพรรคไหน
ล่าสุด ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "พี่น้องสื่อมวลชนโทรศัพท์มาถามผมเยอะมาก ทั้งสอบถามผ่านในกล่องข้อความในทวิตเตอร์ ในเฟสบุ๊ค ว่าจะแถลงข่าวเรื่องรองหัวหน้าพรรคหรือไม่"
ผมตอบไม่ได้จริงๆครับ ผมไม่ทราบว่าเป็นใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แต่ถ้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอย้ำในหลักการสำคัญว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายและความถูกต้องของบ้านเมือง”ผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูกครับ
อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทั้งนี้เรื่องราวนี้เริ่มตนมาจาก ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง ใช้เพจเฟซบุ๊กโพสต์ภาพหญิงสาวเข้าร้องเรียน พร้อมระบุว่า “มีน้องคนนึงมาปรึกษาว่าถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับเพราะนักการเมืองคนนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง โดยหลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงานและสอนน้องเรื่องหุ้น เศรษฐศาสตร์ แต่พอมาจริงกลับคุยแต่เรื่องเพศ และลวนลามต่างๆนานา ซึ่งคุณแม่ของน้องได้ปรึกษาผมทาง LINE Official: https://page.line.me/sittra ผมได้แนะนำให้แจ้งความดำเนินคดีและเก็บหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้วครับ”จนมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก"
โดยภายในโพสต์ดังกล่าว ทนายตั้ม ได้คอมเมนต์บอกว่า "พรรค (อีโมจิแมลงสาบ) ครับ คนนี้พ่อใหญ่มาก ดังระดับโลก" พร้อมทั้งระบุต่อว่า "ไม่ต้องห่วงเรื่องหลักฐานนะครับ ถ้ามาหาทนายตั้มแล้วหายห่วง"
SPRiNG ตามไปถาม ทนายตั้ม ถึงที่ เจ้าตัวเล่าว่า ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงเวลา 17.00 น. ได้เดินทางไปทานข้าวกับรองหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน จากการไปนั่งฟังการบรรยายเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์
จากนั้นได้มีการแลกช่องทางการติดต่อไว้ จนรองหัวหน้าพรรคการเมืองคนดังกล่าวได้ชวนผู้เสียหายไปทานข้าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลุมพินี ซึ่งเป็นโรงแรมลักษณะรูฟท็อป และไม่ค่อยมีชาวไทยเข้าไปใช้บริการ แต่จะเป็นชาวต่างชาติเสียส่วนใหญ่
ทนายตั้ม เล่าต่ออีกว่า ในครั้งนั้นผู้เสียหายหวังว่าจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การลงทุน ที่สนใจ แต่ปรากฎว่ารองหัวหน้าพรรคการเมืองคนนี้ ถามถึงเรื่องมีแฟนหรือยัง , เคยมีเพศสัมพันธ์ุหรือไม่ และมีการดึงมือของผู้เสียหายมาหอม ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายเองก็พยายามเลี่ยงโดยการขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็ถูกอีกฝ่ายจับก้นบ้าง หอมแก้มบ้าง หรือจูบบ้าง ซึ่งผู้เสียหายก็เบือนหน้าหนี และขอตัวกลับบ้าน ในเวลา 19.00 น. แต่เนื่องจากผู้เสียหายไม่เคยนั่งแกร็บ หรือ รถแท็กซี่เพียงลำพัง เลยต้องยอมให้รองหัวหน้าพรรคคนดังกล่าวพาไปส่ง
"ระหว่างที่อยู่ในรถ รองหัวหน้าพรรคคนนี้ก็ทำพฤติกรรมเดิม คือพยายามจะพูดจีบผู้เสียหาย และร้องเพลงจีบแต่ไม่ได้มากกว่าที่ร้านอาหาร และยังจับมือมาหอม ซึ่งฝ่ายหญิงพยายามสะบัดหนี และเอามืออีกฝ่ายให้ไปจับที่พวงมาลัยรถ ก่อนที่ผู้เสียหายจะกลับมาบ้านและร้องไห้เล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง" ทนายตั้ม เล่า
ทนายตั้ม ระบุว่า แม่ของผู้เสียหายก็รู้สึกเสียใจมาก เพราะรองหัวหน้าพรรคคนนี้เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ รวมถึงแม่และลูกสาวซึ่งเป็นผู้เสียหายก็ปลื้มมานาน ประกอบกับที่ผ่ามาไม่เคยให้ลูกสาวออกไปไหนเพียงลำพัง แต่ด้วยความเชื่อใจรองหัวหน้าพรรคคนนี้ จึงได้อนุญาตให้ลูกออกไปทานข้าวด้วย
ภายหลังจากเกิดเหตุทางแม่ของผู้เสียหายจึงติดต่อมาเพื่อปรึกษา โดยได้แนะนำให้ไปแจ้งความ ซึ่งทางผู้เสียหายได้แจ้งความไว้แล้ว เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่ผ่านมา และทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำและเริ่มขั้นตอนการสอบสวนไปแล้ว
ทนายตั้ม เผยอีกว่า สำหรับตัวผู้ก่อเหตุเป็นนักการเมืองใหญ่ที่เมื่อพูดชื่อออกไปทุกคนจะรู้จักทันที ซึ่งบางคนที่ทราบว่าเป็นบุคคลท่านนี้ บางคนก็ไม่เชื่อ เนื่องจากที่ผ่านมาเห็นว่ามีพฤติกรรมดี พูดจาไพเราะ แต่ก็มีกระแสอีกส่วนหนึ่งที่ระบุว่า นักการเมืองคนนี้เคยมีพฤติกรรมเช่นนี้เมื่อครั้งอยู่ประเทศอังกฤษ ก่อเหตุลวนลามจนเป็นคดีความ จนทำให้เรียนไม่จบ
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ทนายตั้ม ระบุว่า จะประสานแม่ของผู้เสียหายเพื่อไปติดตามความคืบหน้าที่โรงพักในวันที่ 14 เมษายนนี้ พร้อมเตรียมมอบหลักฐานเด็ด และฝากถึงนักการเมืองคนดังกล่าวว่า ให้รับสารภาพ อย่าสู้ และขอโทษสังคม เชื่อว่าอาจจะมีผู้ให้อภัย ซึ่งโทษ อนาจารย์เด็กอายุเกินกว่า 15 ปี จำคุก 10 ปี