svasdssvasds

เด็กตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด ผู้ปกครองควรทำอย่างไร รับมืออย่างไร เช็กเลยที่นี่

เด็กตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด ผู้ปกครองควรทำอย่างไร รับมืออย่างไร เช็กเลยที่นี่

หมอจิรรุจน์ แนะแนวทางให้ผู้ปกครองที่มีลูกหลาน หากเด็กตรวจ ATK แล้วพบว่าขึ้น 2 ขีด ควรรับมืออย่างไรและรู้ทันอาการที่พบ ยาฟาวิพิราเวียร์ให้เด็กกินได้หรือไม่ หมอจิรรุจน์ มีคำตอบ

นพ.จิรรุจน์ ชมเชย กุมารแพทย์เชี่ยวชาญโรคระบบหายใจ กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Jiraruj Praise โดยมีข้อความระบุว่า

ATK 2ขีดแล้วอย่างไรต่อไป สำหรับเด็กๆ 

ตอนนี้พูดเรื่องป้องกัน ดูเหมือนจะสายไปแล้ว และคาดว่า ประชาชนก็น่าจะรู้อยู่แล้วล่ะ แต่แม้พยายามแค่ไหน มันก็ ติดเชื้อได้

ดังนั้น มาพูดกันดีกว่าว่า ถ้าติดเชื้อ ATK 2 ขีดแล้วจะทำอย่างไรต่อ ผมจะขอเน้นเรื่องของเด็ก อ้างอิงแนวทางจากราชวิทยาลัยกุมารฯ

ก่อนATK2ขีด ศึกษาก่อนเลยครับ

1. สิทธิ์การรักษาของเราอยู่ที่ไหน รพ.อะไร รพ.สต.หรือ อนามัยอะไร ใน ต่างจังหวัด ถ้ากรุงเทพก็จะลำบากหน่อยครับ

แต่ละพื้นที่แต่ะจังหวัดก็มีแนวทางการให้บริการแตกต่างกัน ( นี่คือเรื่องปกติแบบไทยๆ) เกิด 2 ขีดขึ้นมาจะได้ไปถูก

2. ยาสามัญที่จำเป็นเมื่อป่วยเช่น ยาลดไข้พาราเซตามอล ยาบรรเทาอาการไอ ละลายเสมหะ น้ำเกลือแร่ ยาแก้อาเจียน เหล่านี้ ซื้อติดบ้านไว้ได้เลย หากป่วยจะได้ไม่ต้องวิ่งหายาครับ

3. เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว... มีได้ก็ดี ราคาไม่สูงมาก ร้านขายยาก็มีขายครับ กดเอาตาม online ต้องระวังไม่ได้มาตรฐานไม่ผ่านอย.เครื่องมือแพทย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ATK2ขีดแล้ว อันนี้พูดแบบประชาชนทั่วไป ไม่อิงนิยามระบาดอะไรเลยนะครับเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ 2ขีด คือ เชื่อได้ว่า น่าจะติดเชื้อแน่ๆ หลายที่ไม่มีการ confirm PCR เว้นแต่จะต้องเข้ารพ. หรือ กรณีอื่นๆ ...

แต่สรุปคือ ติดเชื้อแล้วล่ะ ที่นี้ก็ว่ากันด้วยเรื่องการรักษาตัว

ต้องนอนโรงพยาบาลไหม กลุ่มเสี่ยงรุนแรงเช่น ไข้สูง39องศาต่อเนื่องเกิน 1วัน ซึม ชัก กินไม่ได้ อาเจียนมาก หอบเหนื่อย เหล่านี้ควรได้รับการตรวจเพื่อพิจารณาว่าเข้าเกณฑ์ต้องนอนรพ.หรือไม่ (ส่วนใหญ่ถ้ามีอาการดังกล่าวก็น่าจะนอนล่ะครับ)

กลุ่มที่มีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ ต่ำกว่า 39 องศาไม่ต่อเนื่อง เจ็บคอ พอกินได้ หรือไม่มีอาการ สามารถรักษาตามอาการ "อยู่ที่บ้าน" หรือเข้าระบบ Home isolation (ถ้ามีระบบ) ทานยาลดไข้ เช็ดตัว

หากมีอาการไข้ต่อเนื่อง เช่น 39 องศาต่อเนื่องเกิน 1 วัน หรือ อาการแย่ลง ซึมลง กินไม่ได้ อ่อนเพลียมาก

อันนี้ควรมาตรวจเพิ่มเติมที่รพ. เพื่อประเมินว่าต้องรับการรักษาในรพ.หรือไม่

ต้องกินยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียไหม

คำตอบคือ "ไม่จำเป็นสำหรับทุกราย" โดยส่วนใหญ่ หากอาการเล็กน้อย หรือ ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องทานยาต้านไวรัส

แต่ ในรายที่มีความเสี่ยงต่ออาการรุนแรงเช่น....อายุน้อยกว่า 1ปีและมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดอาการรุนแรง ได้แก่

1.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง

2.อ้วน

3.โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง

4.โรคไตวายเรื้อรัง

5. โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ

6. โรคเบาหวาน

7.กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง เด็กที่มีพัฒนาการช้า

เหล่านี้ แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านไวรัส >> นั่นแปลว่า ต้องไปรับการรักษาที่รพ. หรือ สถานบริการก่อน เพื่อตรวจและเข้าถึงยาต้านไวรัส

ในรายที่มีการรุนแรงขึ้น ก็จำเป็นต้องได้รับยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวีย เช่นกัน

ส่วนใหญ่อาการของโรคเป็นอย่างไร >> ในเด็กที่อาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ อาการไข้ ดูอ่อนเพลีย หนักๆอยู่ 2-3 วันแรก ถ้ากินได้ ประคองตัวไปได้ หลังจากนั้น ไข้จะลดลง เหลืออาการเจ็บคอ เสียงแหบ ได้นานถึง 7 วัน ... สู้ๆนะครับ

กักตัวอยู่บ้านกี่วันจึงจะปลอดภัย >> อย่างน้อย 10 วัน นับตั้งแต่วันที่ ATK 2 ขีด นั่นแหละครับ โอกาสแพร่กระจายเชื้อก็ลดลงไปมาก แต่ยังแนะนำให้ สวมหน้ากากขณะออกไปนอกบ้าน แต่ผมแนะนำที่อย่างน้อย 14วัน อันนี้เชื้อน่าจะน้อยมากๆ (ในกรณีที่ผู้ป่วยนั้นภูมิคุ้มกันปกตินะครับ) และโอกาสแพร่เชื้อน่าจะน้อยมากๆ เช่นกัน

ต้องตรวจATKซ้ำไหม ไม่มีคำแนะนำชัดเจนเรื่องนี้ แต่โดยทั่วไป

หลัง 7 วัน ATK มักให้ผลเป็นลบ (ขีดเดียว) มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านบอกว่า ถ้า ATK ขีดเดียว ก็น่าจะเชื้อว่า โอกาสแพร่เชื้อต่อน้อยมาก อันนี้ก็แล้วแต่ครับ แต่โดยทั่วไป ถ้ากักตัวรักษา ครบ 14 วัน(ในผู้ป่วยภูมิคุ้มกันปกติ) ไม่ต้องตรวจอะไรซ้ำแล้วครับ

MISCจะมาไหมจะดูอย่างไร MISC หรือ การอักเสบในหลายๆระบบของร่างกายตามหลังการติดเชื้อโควิด19 พบได้มากขึ้น แม้จะไม่บ่อย แต่ก็พึงเฝ้าระวังโดยเฉพาะหลังติดเชื้อ ช่วง2-6สัปดาห์ หลังจากนั้นโอกาสพบจะลดลงอาการหลักๆ ก็ไข้สูง อ่อนเพลีย ผื่นตามตัว มือเท้าแดง ซึ่งหากสงสัยควรพบไปพบแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา

ยังต้องรับวัคซีนป้องกันโควิดไหม อายุ 5 ปีขึ้นไป ยังต้องรับให้ครบ โดยห่างจากการติดเชื้อไปนาน 3 เดือน (นับตั้งแต่วันที่ ATK 2 ขีด)

ทั้งหมดคือ "คำแนะนำเบื้องต้น" เมื่อ ATK 2 ขีด หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ ในสถานการณ์ ที่เด็กป่วยจำนวนมากขณะนี้ แต่ ที่สำคัญมากๆคือ เด็กอายุน้อยมากๆ ยังบอกเราไม่ได้ ยิ่งต้องตามดูอย่างใกล้ชิด ถ้าอาการเปลี่ยนแปลง ดูแย่ลง ซึมลง กินไม่ได้ ควรได้รับการตรวจเพิ่มเติม และได้รับยาต้านไวรัสตามข้อบ่งชี้ครับ ป้องกัน อย่าให้ติดเชื้อ ไว้ก่อนดีที่สุดครับ

*** ข้อมูลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต หากมีข้อมูลใหม่

ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ

related