"เหนือตัวเต็ง ยังมีม้ามืด" ชูวิทย์ชำแหละศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

อุณหภูมิร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ สำหรับศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่อีเว้นต์นี้ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.พรรครักประเทศไทย ร่วมถึงเป็นอดีตผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ได้ชำแหละผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่คาดว่าจะได้รับคะแนนเสียงอันดับต้นๆ 6 คนด้วยกัน ประกอบด้วย

1. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ

2. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครอิสระ

3. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล

4. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์

5. น.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย

6. สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครอิสระ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• คณิตศาสตร์ทางการเมือง ใครมีโอกาสเป็นผู้ว่าฯ กทม.

• เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 10 ครั้ง อดีตผู้ว่าฯ กทม. คนไหนได้คะแนนเสียงมากที่สุด ?

• เปิดที่มา ป้ายหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สไตล์ชัชชาติ เกิดจากการเอ๊ะ

การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กลุ่มที่ 1

ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ผู้ดำเนินรายการสุดกับหมาแก่ ได้แบ่งผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ออกเป็น 2 กลุ่ม และถามความคิดเห็นของชูวิทย์ว่า สุดท้ายแล้วใครมีโอกาสชนะการเลือกตั้งมากที่สุด โดยกลุ่มแรกได้แก่

1. ชัชชาติ สิทธิพันธุ์

2. วิโรจน์ ลักขณาอดิศร

3. น.ต.ศิธา ทิวารี

โดยชูวิทย์ได้กล่าวว่า แน่นอนแหละเต็งหนึ่งคือชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แต่ก็มีคำถามตามมาว่า ชัชชาติเป็นผู้สมัครอิสระจริงหรือไม่ ? ยังมีข้อสงสัยในการเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย และถึงแม้จะมีกระแสที่ดี แต่ถ้าว่ากันในแง่ของผลงาน ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ที่ผ่านมาชัชชาติมีผลงานที่โดดเด่นในเรื่องใดบ้าง

ส่วน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร นั้น หากพิจารณาถึงการดำเนินการต่างๆ ก็เป็นไปเพื่อกระตุ้นกลุ่มการเมืองที่เป็นฐานเสียงของพรรคก้าวไกล ในส่วนที่มีแนวคิดตรงข้ามกับรัฐบาลอย่างสุดขั้ว ดังนั้นคนที่เลือกวิโรจน์ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ต้องการให้ไปงัดกับรัฐบาล แต่ก็เกิดคำถามตามมาว่า จะก่อให้เกิดประโยชน์กับกรุงเทพฯ อย่างแท้จริงหรือไม่

ส่วน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคไทยสร้างไทย ชูวิทย์ก็กล่าวว่า เป็นการอาศัยฐานเสียงของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าของฉายาเจ้าแม่นครบาล ซึ่งการส่ง น.ต.ศิธาลงเลือกตั้งในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ก็เพื่อทำให้พรรคไทยสร้างไทยได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นเอง

ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กลุ่มที่ 2

ส่วนกลุ่มที่ 2 ประกอบด้วยผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ดังนี้

1. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง

2. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

3. สกลธี ภัททิยกุล

หากชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นตัวเต็งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ยกให้ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นม้ามืดในอีเวนต์นี้

เพราะถึงแม้ชัชชาติจะประกาศตัวลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ก่อนใครเพื่อน และลงพื้นที่ต่างๆ ในกรุงเทพฯ มากว่า 2 ปี แต่ชูวิทย์กลับชี้ว่า พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง มีการเตรียมความพร้อม เตรียมตัวมานานกว่า เพราะอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. มาถึง 5 ปี ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้จึงเชื่อว่า ต้องมีระบบจัดตั้ง มีการวางแผนต่างๆ อย่างครบครัน  

ส่วน สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นั้น ชูวิทย์มองว่าลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในจังหวะที่พรรคประชาธิปัตย์กำลังอยู่ในช่วงขาลง สถานการณ์จึงค่อนข้างน่าเป็นห่วง อีกทั้งสไตล์ของสุชัชวีร์เหมาะกับการเป็นอาจารย์ หรือไม่ก็ไลฟ์โค้ชมากกว่า ดังจะเห็นได้จากการที่สุชัชวีร์ชอบพูดถึงข้อดีของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรให้คนอื่นพูด ให้คนอื่นชม จึงไม่น่าถูกจริตของคนกรุงเทพฯ ที่มีนิสัยขี้หมั่นไส้

ส่วนในกรณีการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ของ สกลธี ภัททิยกุล ชูวิทย์มองว่า เพราะต้องการให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเพื่อเล่นการเมืองสนามใหญ่ต่อไป โดยใช้สนามการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เป็นเวทีเปิดตัว

ชัชชาติ วิโรจน์ ตัดคะแนนกันยับ และความหวังของอัศวิน

สรุปก็คือ ในกลุ่ม 1 แม้ชัชชาติจะเป็นเต็งหนึ่ง แต่สิ่งที่น่ากังวลก็คือเรื่องฐานเสียง ชัชชาติ กับวิโรจน์ ที่มีโอกาสตัดกันยับในระดับสะบั้นหั่นแหลก ทำให้กลุ่มที่ 2 ที่ชูวิทย์ยกให้ พล.ต.อ.อัศวิน ที่เป็นม้ามืด มีความหวังขึ้นมา   

พร้อมยกผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ปี 2556 เป็นกรณีศึกษา ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่ 2 ทั้งๆ ที่คะแนนนิยมเป็นรองคู่ชิงจากพรรคเพื่อไทยในทุกสำนักโพล อันเนื่องมาจากเกมการเมืองในช่วงโค้งสุดท้าย ดังนั้นแล้ว อะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ ในศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม.ครั้งนี้  

ติดตามรายการสุดกับหมาแก่ ดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ดำเนินรายการ เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 21.30 น. ทาง Facebook : SpringNews , YouTube : Spring เเละ Nation TV 22