ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เปิดใจ การปรากฏตัวในการปราศรัยเปิดนโยบายของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่เป็นเพราะเรตติ้งวิโรจน์ไม่วิ่ง จึงต้องสวมบทป๋าดัน แต่ไปในงานดังกล่าวก็เพื่อสนับสนุนคนที่ตนเชื่อมั่นว่า เหมาะสมที่จะเป็นผู้ว่าฯ กทม.
จากกรณี ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ปรากฏกายบนเวทีปราศรัยของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา ในการเปิด “12 นโยบายกรุงเทพฯ สร้างเมืองที่คนเท่ากัน” ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นเพราะกระแสวิโรจน์ ไม่แรงตามที่คาดการณ์ ธนาธรจึงต้องสวมบทป๋าดันตั้งแต่เนิ่นๆ
โดยเมื่อเช้าวันนี้ (29 มี.ค.) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ รายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ดำเนินรายการโดยดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และอมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ในประเด็นดังกล่าวดังต่อไปนี้
ธนาธร ยัน ช่วยหาเสียงให้วิโรจน์ เป็นเรื่องปกติ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวยืนยันว่า การไปร่วมเวทีปราศรัยของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และไม่เกี่ยวกับเรื่องเรตติ้งแต่อย่างใด
“ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติที่เราจะสนับสนุนคนที่เราเชื่อถือและคิดว่าเหมาะสม ผมทำงานกับคุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร มา 3 ปี เห็นคุณวิโรจน์เป็นคนที่มีความมุ่งมั่น มีฝีมือในด้านการบริหาร มีอุดมมการณ์แน่วแน่ ดังนั้นการเป็นผู้สนับสนุนเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้คุณวิโรจน์ จึงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าผมไปช่วยหาเสียงให้คุณอัศวิน ก็คงไม่เหมาะสม (หัวเราะ) และผมก็เป็นผู้ช่วยหาเสียงมาหลายเวทีแล้วครับ ทั้ง อบจ. เทศบาล ให้กับกลุ่มบุคคลที่เรามีความเชื่อมั่นในตัวเขา”
“ซึ่งถ้าดูจากการเปิดตัว คุณวิโรจน์ก็ได้รับการสนับสนุนจากสาธารณะขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่ผมมาช่วยหาเสียง ยังไงก็ต้องมาช่วยอยู่แล้วครับ ไม่ช้าก็เร็วเพราะเป็นเพื่อนร่วมงาน ร่วมอุดมการณ์กันมาก่อน ทำงานด้วยกันมาเยอะ เห็นตัวตนของเขา ก็พร้อมที่จะสนับสนุนคุณวิโรจน์ครับ”
“ซึ่งก่อนหน้านี้คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ไม่เคยทำงานการเมืองมาก่อนเลย การทำงานการเมือง ในฐานะ ส.ส.ครั้งแรกของคุณวิโรจน์ เข้าไปไม่ถึงปี คนก็เห็นว่า คุณวิโรจน์จะต้องกลายเป็นดาวจรัสแสงในสภา พอปีที่ 2 คนก็รักก็ชอบคุณวิโรจน์ อภิปรายตรงประเด็น เป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนผู้ที่เดือดร้อน ผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ พอปีที่ 3 คุณวิโรจน์ออกจาก ส.ส.มาสมัครผู้ว่าฯ กทม. คนก็เสียดาย อยากให้ทำงานในสภาต่อ ทั้งๆ ที่ คุณวิโรจน์ไม่เคยเป็น ส.ส.มาก่อน ยังทำได้ดีขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทำได้ดีขนาดไหน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สิ้นสุดการรอคอย ไทม์ไลน์ เลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และนายกเมืองพัทยา
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ลงชิงเก้าอี้ ‘ผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคก้าวไกล
เจตจำนงแน่วแน่ทางการเมือง สำคัญอย่างไร ?
ที่ผ่านมา ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้กล่าวว่า เจตจำนงแน่วแน่ทางการเมืองเป็นสิ่งที่สำคัญ ในการทำงานทางการเมือง โดยวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ก็มีคุณสมบัติตรงนี้ จึงเชื่อมั่นว่า เขาจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้
“ปัญหาหลายปัญหาไม่สามารถแก้ได้ด้วยนักบริหาร ยกตัวอย่างเช่น ปัญหาด้านการศึกษา ถึงจะชอบหรือไม่ชอบอย่างไร แต่คนเป็นผู้ว่าฯ กทม. ก็ต้องมาบริหารโรงเรียนกว่า 400 แห่ง ที่อยู่ในสังกัด กทม.
“ซึ่งถ้าเราต้องการให้นักเรียนกล้าแสดงออก สิ่งที่ต้องเปลี่ยนก็คือวัฒนธรรมในโรงเรียน ต้องยกเลิกการลงโทษด้วยกำลัง ยกเลิกระบบอำนาจนิยมในโรงเรียน เพื่อบรรยากาศที่เป็นมิตร ให้ครูกับนักเรียนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่ใช่ด้วยความกลัว เพื่อให้เด็กมั่นใจในตัวเอง จะได้กล้าแสดงออก ซึ่งการทำสิ่งนี้ได้ ไม่ใช่มีความสามารถด้านบริหารเท่านั้น แต่ต้องมีเจตจำนงทางการเมืองที่แน่วแน่ เพราะไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
“และการมีเจตจำนงแน่วแน่ทางการเมือง ไม่ได้หมายความว่า เราจจะต้องไปชนดะ แต่เมื่อมีอำนาจก็ต้องใช้หลักเหตุผล อะไรที่ทำแล้วเป็นสิ่งที่ดี ก็เดินหน้าต่อ อะไรที่เห็นว่า ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องทำยกตัวอย่าง เช่น ถ้าผู้ว่าฯ กทม. ไม่กล้าชน งบประมาณจะถูกใช้อย่างเดิม งบแสนล้านต่อปี 4 แสนล้านต่อสมัย ดังนั้นสิ่งที่สำคัญก็คือ จะต้องมีการจัดสรรงบประมาณใหม่
“ถ้าผู้ว่าฯ กทม. ไม่กล้าที่จะชนกับราชการ โครงการที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์จะไม่ถูกตัดออก เพื่อนำงบฯ ตรงนั้นมาดูแลคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งที่ผ่านมามีโครงการเยอะแยะมากเลยที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ที่ตั้งขึ้นมาโดยข้าราชการของ กทม.”
ยัน วิโรจน์สู้เต็มที่ เพื่อผลักดันเมืองที่เป็นธรรม เมืองที่คนเท่ากัน ให้เกิดขึ้นจริง
แม้ผลสำรวจโพลคะแนนของวิโรจน์ยังเป็นรอง แต่ธนาธรก็ยืนยันว่าวิโรจน์สู้เต็มที่ และในการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ก็หวังที่จะได้รับชัยชนะ เพื่อผลักดันนโยบายเมืองที่น่าอยู่ เมืองที่เป็นธรรม และเมืองที่คนเท่ากัน ให้เกิดขึ้นจริง
“คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศรก็หวังว่าจะชนะ แต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ เราขอสร้างนโยบายที่ดีฝากเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสนามไหน เราอยากสร้างนโยบายดีๆ ไว้ให้กับประชาชน ให้ประชาชนตระหนักว่า ประเทศนี้ดีกว่านี้ได้ มีหนทางมากมายที่จะสร้างเมืองที่น่าอยู่ เมืองที่เป็นธรรมกับประชาชน เมืองที่คนเท่ากันให้ประชาชนมีความสุข มีรอยยิ้ม ให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพ
“ให้ประชาชนตระหนักว่าถ้าเราเดินหน้าต่อไป โดยยึดหลักการที่ถูกต้องเ ราสามารถสร้างบ้านสร้างเมืองที่ดีกว่านี้ได้ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสนามไหนที่พวกเราก้าวหน้า ก้าวไกล ลงแข่ง เราต้องการชัยชนะ แต่ขณะเดียวกันเราก็อยากปักธงความคิดเรื่องสังคมไทยที่ดีกว่านี้ ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปได้”