ย้อนรำลึกความรักความผูกพัน "คุณพ่อโสภณ" ผู้พร้อมตายเพื่อลูกสาว "แตงโม นิดา" หลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนหวิดเสียชีวิต บอกถ้าลูกเป็นอะไรไปวันนั้น พ่อก็จะตามเขาไป
"ถ้าเขาเป็นอะไรไปในวันนั้น พ่อจะอยู่จัดการอะไรให้เสร็จเรียบร้อย แล้วพ่อจะตามเขาไป พ่อคิดไว้อย่างนั้น"
นี่คือคำพูดของคุณพ่อ โสภณ พัชรวีระพงษ์ ที่พูดถึงลูกสาว แตง โมนิดา หลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ในรายการ ที่นี่หมอชิต เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 50 โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2550 แตงโม ขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานถ่ายละคร โดยขับรถโฟล์กสวาเกนเปิดประทุนบนทางด่วนด้วยความเร็วสูง โดยไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย แต่เกิดหลับใน และหักหลบรถคันข้างหน้าจนเสียหลักพลิกคว่ำ และกระเด็นออกมานอกรถ
แตงโม ได้ร้องไห้ตลอดการสัมภาษณ์ โดยมีคุณพ่อนั่งอยู่เคียงข้าง และ เผยความรู้สึกในฐานะของคนเป็นพ่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาว ในวันนั้น คุณพ่อแตงโม เล่าว่า "ทันทีที่ได้ข่าวว่าน้องโมประสบอุบัติเหตุ เราก็ตกใจ เข่าอ่อน พอไปถึงก็ทราบว่าอยู่นห้องผ่าตัดฉุกเฉิน เหตุการณ์ตอนนั้นทุกอย่างเหมือนดูเขาเล่นละคร ที่เวลาหมอออกมาแล้ววิ่งไปถามหมอ เมื่อก่อนผมยังนึกว่าละครเว่อร์หรือเปล่า พอตอนเห็นหน้าแผลเขาเยอะมาก บวมมาก และรู้สึกว่าน้องโมเจ็บ เขาเจ็บมากๆ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
งานศพ แตงโม นิดา ตามความเชื่อชาวคริสต์กลับไปอยู่กับพระเจ้าบนสวรรค์
แอนนา ทีวีพูล เปิดใจทั้งน้ำตา ไม่ขอก้าวก่ายอะไรแล้ว หลัง แม่แตงโม ไม่พอใจ
ทั้งนี้ในรายการยังได้เปิดเผยจดหมายที่ คุณพ่อแตงโม เขียนให้ลูกสาวเพื่อไว้เตือนขอว่าให้เหตุการณ์นี้ไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งการเขียนจดหมายให้ลูกสาวเป็นมุมน่ารักที่แตงโมเผยว่า "ปกติคุณพ่อจะเขียนจดหมายให้ในเทศกาลต่างๆ และสิ่งที่แตงโมมีกำลังใจได้ทุกวันนี้จากจดหมายของคุณพ่อทุกฉบับ ไม่ว่าจะผ่านไปเท่าไหร่มันก็คือกำลังใจของโม โมสามารถอ่านได้"
โดยใจความของจดหมาย คุณพ่อโสภณ เขียนถึงลูกสาวว่า "น้องโมลูกรัก ไม่ได้เขียนจดหมายให้อ่านนานแล้ว ปีนี้มีเรื่องสำคัญอยากจะเขียน เหมือนให้เป็นส่วนหนึ่งของ ของขวัญวันเกิดให้กับไปที่ลูกอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวเกินไปจนเกืบทำให้วันเกิดปีนี้ของคุณพ่อไม่รู้ว่าจะมีหรือไม่ ถ้าน้องเป็นอะไรไปคุณพ่อก็ไม่รู้จะอยู่อย่างไร หรืออยู่เพื่ออะไร อาจจะมีโศกนาฏกรรมซ้อนโศกนาฏกรรมไปแล้วก็ได้ โชคดีที่พระเจ้ายังรักเอ็นดูและให้การปกป้องรักษาเราเผลที่เกิดจึงมีเพียงแค่นี้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทีไรยังหวาดเสียวแล้วนอนไม่หลับทุกครั้ง"
"อย่าลืมว่าเรามีกันสองคนพ่อลูก คุณพ่อจะคิดทำอะไรก็จะคิดทุกอย่างเพื่อลูกเสมอ ทุกวันนี้ใจเย็นมากๆ ทำตามใจตัวเองไม่ได้ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นใครจะคอยดูแลน้อง ตัวน้องเองก็เช่นเดียวกันทำอะไรคิดถึงคุณพ่อบ้างเมื่อเกิดอะไรขึ้นแล้วคุณพ่อจะอยู่อย่างไรในความเป็นจริงปัญหาอะไรก็ตามไม่ถึงกับทำให้โลกแตกหรอก"
"หากไม่ได้ทำอะไรตอนนั้นปล่อยให้เวลาผ่านไปสักนิดปัญหาก็จะคลี่คลายลงไปเอง เวลาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่สามารถแก้ปัญหาอะไรต่อมิอะไรได้อย่างมากมาย ทุกวันนี้คุณพ่ออายุเกืบหกสิบแล้ว พ่อต้องพยายามดูแลสุขภาพต่อสู้กับโรคภัยเพื่อจะได้อยู่กับน้องนานๆ น้องอายุยังน้อยต้องรู้จักดูแลตัวเอง คนที่จะไปก่อนต้องเป็นคุณพ่อจึงจะถูกต้อง"
นอกจากนี้ คุณพ่อแตงโม ยังทิ้งท้ายไว้ว่า "พ่อเคยคิดถ้าเขาเป็นอะไรไปในวันนั้นจะอยู่จัดการอะไรให้เสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะตามเขาไป คิดไว้อย่างนั้น" ซึ่งเป็นประโยคที่สะท้อนและสอนใจผู้ชมในวันนั้นได้ดีว่า นี่เป็นความรู้สึกผูกผันของพ่อและลูก ความรักของครอบครัวที่มีต่อกัน และผู้ที่เป็นพ่อก็คงไม่พร้อมจะรับเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว