"หมอยง" เผยผลสำรวจการรับวัคซีนโควิด ในไทยเป็นไปตามความสมัครใจ พบว่าผู้ปกครองอนุญาตให้บุตรหลานที่อายุ 5 ถึง 11 ปี รับวัคซีนโควิด ถึงร้อยละ 75.3 และไม่ขอรับวัคซีนร้อยละ 24.7
ปัจจุบันวัคซีนโควิดสำหรับเด็ก สำหรับในประเทศไทยนั้นมีการอนุมัติไปแล้วหลายกลุ่มอายุ เช่น กลุ่มอายุ 5-11 ปีให้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ และให้ฉีดวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์มสำหรับเด็อายุ 6 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการให้วัคซีนครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มอายุที่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ ลดอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศได้
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ประเด็น วัคซีนโควิด การฉีดวัคซีนเป็นไปด้วยความสมัครใจ โดยระบุว่า
การรับวัคซีนป้องกัน covid 19 ในประเทศไทยเป็นไปตามความสมัครใจ
การศึกษานี้ให้นักเรียนมัธยมปลาย 4 ท่าน ฝึกการทำวิจัย แบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการสอนให้คิดและวิเคราะห์เป็น
เราเริ่มให้วัคซีนโควิดในเด็กอายุ 5-11 ปี ได้เริ่มขึ้นแล้ว ดังได้เคยกล่าวมาแล้วว่าเด็กจะเป็นกลุ่มท้ายท้ายที่ควรจะได้รับวัคซีน
จากแบบสอบถามความสมัครใจในผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุ 5 ถึง 11 ปี ถึงความสมัครใจในการรับวัคซีนโควิดในประเทศไทย โดยผ่านทางสื่อสังคม ในช่วงวันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ 2565
มีผู้ปกครองตอบคำถามมาทั้งสิ้น 3,588 คน ผลที่ได้ พอจะประเมินได้ดังแสดงในรูป
ผู้ตอบแบบสอบถามมีหลากหลายอาชีพ โดยเป็นบุคลากรทางการแพทย์ รับราชการ ธุรกิจส่วนตัว บริษัทเอกชน และแม่บ้าน และอื่นๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• หมอยงชี้ "โอไมครอน" อัตราป่วยหนัก-เสียชีวิตยังต่ำ ไม่อันตรายเท่า "เดลตา"
• หมอยง ชี้ไร้หนทางกำจัดโควิด แนะหาวิธีที่อยู่ด้วยกันได้ จับตาสายพันธุ์ใหม่
• หมอยง เแจงอัตราเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังฉีดวัคซีน mRNA ในวัยรุ่น
อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯมากที่สุด จังหวัดอื่นๆโดยเฉพาะปริมณฑล และกระจายเกือบทั้งประเทศ
ผู้ปกครอง (3,588 คน) จะอนุญาตให้บุตรหลานที่อายุ 5 ถึง 11 ปี รับวัคซีนโควิด ร้อยละ 75.3 และไม่ขอรับวัคซีนร้อยละ 24.7
ในจำนวนที่จะไปรับวัคซีน (2,700 ราย) ชนิดของวัคซีนโควิดที่ต้องการ ตามที่ขึ้นทะเบียนจาก อย. จะเป็น pfizer ร้อยละ 59.2 sinopharm 30.7%, sinovac 5.6%, และฉีดสลับชนิดของวัคซีน 4.6%
จากข้อมูลทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า ความต้องการที่จะฉีดวัคซีนโควิด ให้เด็กยังอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 3 ใน 4 และการเลือกฉีดชนิดของวัคซีนก็มีความหลากหลาย
ที่น่าสนใจคือคำถามปลายเปิด โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการให้กับบุตรหลานไปรับวัคซีนโควิด ส่วนใหญ่จะคำนึงถึงอาการข้างเคียง และผลระยะยาวของวัคซีน
การให้ความรู้ ประโยชน์ ผลที่ได้รับ และอาการข้างเคียงที่จะเกิดขึ้นจากวัคซีน ในวัคซีนชนิดต่างๆ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยการตัดสินใจของผู้ปกครอง
นักเรียนที่ทำการศึกษาคือ นายนรกิตติ์ สุทธินรเศรษฐ์ นางสาวลิตา ตันติประภาส นายนรเศรษฐ์ สุทธินรเศรษฐ์ และ นางสาวปิยาภา สุทธินรเศรษฐ์
ที่มา : Yong Poovorawan