เนเธอร์แลนด์ คิดทางระบาย ให้ กรี๊ดร้อง ริมทะเล ทุบรถ! ให้คนที่เบื่อโควิด-19 โดยเฉพาะการระบาดของโอไมครอน ที่ทำให้ ชีวิตไม่ไปไหนสักที แต่บางครั้ง การระบาย อาจดูไร้เหตุผล แต่ในความจริงแล้ว มันมีเหตุผลซ่อนอยู่ ตราบใดที่เราควบคุมตัวเองได้ ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน
โควิด-19 อยู่กับมนุษย์โลกของเรามาเป็นเวลามากกว่า 2 ปีเต็มแล้ว นับตั้งแต่ปลายปี 2019 จนกระทั่งถึงวันนี้ วันที่เข้าสู่ศักราชปี 2022 แล้ว และทั่วโลกยังเจอกับการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซ้ำเติมอีก ซึ่งจากคำเตือนขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ภายในเวลา 2 เดือนข้างหน้า ประชากรยุโรปจะติดเชื้อโอไมครอนเกินครึ่งทวีป
.
แน่นอนว่า ชีวิตในภาวะที่มีโรคระบาด ทำให้ ผู้คนทั่วทั้งโลกต่างซึมเศร้า และมีความเครียดสะสม ไม่ว่าจะอยู่ในมุมใดของโลกก็ตาม อย่างไรก็ตาม ที่เนเธอร์แลนด์ ที่มีการล็อกดาวน์ประเทศ และมีกำหนดในเบื้องต้น จนถึงวันที่ 14 มกราคมม 2022 โดยในช่วงล็อกดาวน์นั้น ความมีชีวิตชีวา มันหายไปหมด "การมีชีวิต จะมีความหมายอะไร ถ้าตราบใดที่เราไม่ได้ใช้ชีวิต และต้องขังตัวเองอยู่กับสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดพฤติกรรมแต่ละ Generation ที่เปลี่ยนไปหลังโควิดระบาด
90% ของเยาวชนหลายประเทศ วิตกกังวลหนัก เรียนจบก็อาจจะหางานทำไม่ได้
ส่องแผนแก้ เนื้อสัตว์แพง เนื้อหมูแพง ของสหรัฐฯ โจ ไบเดน ทุ่ม 1 พันล้านดอลลาร์
มนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคมที่ต้องเจอกับเพื่อนฝูง และสังคม และการล็อกดาวน์นั้น ถือเป็นการฝืนธรรมชาติของมนุษย์ เพราะภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ของเนเธอร์แลนด์ บรรดาร้านค้าที่ไม่จำเป็น บาร์ ยิม ร้านเสริมสวยและสถานที่สาธารณะอื่น ๆ จะต้องปิดให้บริการ เพื่อสะกัดโอไมครอน
.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เนเธอร์แลนด์ ล็อกดาวน์ และไปไหนมาไหนไม่สะดวก นาย เมอร์ลิยิน โบชัวเซ่น จึงหันมา เปิดกิจการแบบแปลกๆแหวกแนวในช่วงนี้ นั่นคือ กิจการให้คนมาระบาย ความเครียดจากโควิด-19 ด้วยการมาทุบรถ หรือ พ่นสีสเปรย์ใส่ซากรถ อย่างน้อยๆก็เพื่อระบายความเครียดที่มันสะสมอยู่ในตัวทุกคน ให้มันหลั่งไหลอออกมา โดยในชื่อกิจกรรมว่า "CarSmash" หรือ ทุบรถให้แหลก
.
โดย ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ที่น่าสนใจ มีอาทิ สองพี่น้องฝาแฝด อย่างสตีเฟ่น และ ไบรอัน ไครจ์เจอร์ ซึ่งแต่เดิมเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร แต่ไม่สามารถเปิดร้านได้ จึงมาระบายความเครียดทุกอย่าง ลงไปกับแรงเหวี่ยง เอาให้รถไม่เหลือชิ้นดี
.
โดยทั้งสองพี่น้องที่มาใช้บริการเปิดใจว่า พวกเขาไม่มีอะไรทำ เพราะว่ากิจการร้านของเขาเปิดไม่ได้ แต่การออกมาทุบรถระบายนั้น มันทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยก็ เยียวยาจิตใจในช่วงเวลาหนึ่ง
.
ขณะที่ ในเมืองเฮก ก็มีกิจกรรมระบายความเครียด สำหรับใครก็ตามที่เบื่อกับการอยู่ใน "หลุมโควิด" ชีวิตไม่เดินหน้าไปไหนสักที บางครั้งอาจจะถึงกับตั้งคำถามว่า " มนุษย์กำลังถูกสาปให้อยู่ ใต้หน้ากากอนามัย" ไปอีกกี่ปี ? " ทั้งที่ฉีดวัคซีนกันแล้ว โดย จูลี่ สกอตต์ ซึ่งเป็นครูสอนร้องเพลง จึงคิดกิจกรรม "กรี๊ดร้องริมชายหาด" เพื่อให้ผู้คนได้ระบายกับความเครียด แถมความเครียดเหล่านั้น จะได้ถูกเปล่งเสียงออกมาอย่างถูกวิธี และ ได้เสียงที่ ทรงพลังอีกด้วย
.
ลูกค้าของเธอ คนหนึ่งที่น่าสนใจมาก คือ โรเซนมาร์จิน คาร์ไดจ์ ซึ่งมีหน้าที่การงานเป็นเลขานุการ มาเข้าร่วมโครงการ "กรี๊ดร้องริมชายหาด" โดยเธอเปิดใจว่า เธอก็แค่อยากระบาย ว้ากมันออกไป ทิ้งส่วนที่เป็นความเครียดจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ สถานการณ์โควิด-19 ต่างๆไป
.
บางครั้ง การระบาย อาจดูไร้เหตุผล แต่ในความจริงแล้ว มันมีเหตุผลซ่อนอยู่ ตราบใดที่เราควบคุมตัวเองได้ ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน...