9 ม.ค. 1913 ถือเป็นวันครบรอบวันเกิดของริชาร์ด นิกสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลำดับที่ 37 ซึ่งเคยเกี่ยวข้องกับคดีอื้อฉาวที่สุดในโลก อย่างคดีวอเตอร์เกต
9 ม.ค. 1913 ถือเป็นวันครบรอบวันเกิดของริชาร์ด นิกสัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลำดับที่ 37 ซึ่งหากวันนี้เขามีชีวิตอยู่ ริชาร์ด นิกสัน จะมีอายุครบ 109 ปี แต่ทว่า ริชาร์ด นิกสัน ได้จากโลกนี้ไปแล้ว บนวัย 81 ปี เมื่อปี 22 เมษายน 1994 ขณะที่มีอายุ 81 ปี
.
สำหรับ ริชาร์ด นิกสัน ถือเป็นบุคคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯที่มีความสำคัญ โดย ริชาร์ด นิกสัน ที่มาจากพรรครีพับลิกัน ผ่านเหตุการณ์สำคัญๆของโลก อาทิ การเดินทางไปดวงจันทร์ของยานอพอลโล ในปี 1969 , การไปจับมือสานพันธมิตรกับเหมาเจ๋อตง ถึงประเทศจีน ในยุคสงครามเย็น , การถอนทหารจากเวียดนาม เป็นต้น
.
สำหรับ ริชาร์ด นิกสัน ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดี สหรัฐฯ ตั้งแตปี 1969 จนถึง 9 สิงหาคม ปี 1974 โดย ริชาร์ด นิกสัน ถือเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯที่ "ลาออก" จากตำแหน่ง
.
ทั้งนี้ การที่ ริชาร์ด นิกสัน ต้องยอม "ลาออก" จากตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ณ เวลานั้น ถือเป็นการชิงตัดหน้า เพราะตอนนั้น รัฐสภามีมติให้นำตัวริชาร์ด นิกสันขึ้นพิจารณาคดี และเตรียมถอดถอน จากผลพวงคดีวอเตอร์เกต โดยในภายหลัง ประธานาธิบดีคนต่อมาของสหรัฐฯ นั่นคือ เจอรัลด์ ฟอร์ด ที่มาจากรีพับลิกัน เหมือนกัน ได้ทำการนิรโทษกรรมให้แก่ ริชาร์ด นิกสันในเวลาต่อมา แต่คนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 40 คน กลับถูกตัดสินจำคุก ซึ่ง มีตั้งแต่รอลงอาญา 1 เดือนจนถึงจำคุก 52 เดือน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
8 ม.ค. 1982 วันเกิด คิม จองอึน กับการทดสอบ ยิงขีปนาวุธเร็วเหนือเสียง รับปี 2022
8 ธันวาคม 1980 "จอห์น เลนนอน" อดีตสมาชิกวง The Beatles ถูกยิงเสียชีวิต
28 พ.ย. 1990 : มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ ‘สตรีเหล็ก’ ลงจากตำแหน่งหลังเป็นผู้นำ 11 ปี
สรุปคดีวอเตอร์เกต แบบย่นย่อ
.
คดีวอเตอร์เกต เกิดขึ้น ในเดือนมิถุนายน 1972 เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมชาย 5 คนที่บุกรุกไปยังที่ทำการพรรคเดโมแครต (พรรคฝ่ายตรงข้าม ริชาร์ด นิกสัน) ที่ตั้งอยู่ในอาคารวอเตอร์เกต คอมเพล็กซ์ ในวอชิงตัน โดย ผลการสืบสวนพบว่า ทั้ง 5 คนเกี่ยวพันกับองค์กรระดมทุนเพื่อรณรงค์การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปี 1972 ด้วย
.
ชายทั้ง 5 ที่เป็นผู้ต้องหา มีเบอร์โทรบุคคลระดับสูง และบุคคลใกล้ชิดของริชาร์ด นิกสันด้วย แต่เมื่อข่าวแพร่ออกไป ริชาร์ด นิกสันก็ปฏิเสธทันทีว่าไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆในเรื่องนี้ ซึ่งเรื่องนี้เองสื่อสหรัฐฯ อย่าง วอชิงตัน โพสต์ ก็พยายามขุดคุ้ย และในบั้นปลายก็ได้หลักฐานสำคัญ นั่นคือพบเครื่องดักฟังและเทปบันทึกเสียง ในห้องทำงานของริชาร์ด นิกสันในทำเนียบขาว
.
โดย ศาลสั่งให้ ริชาร์ด นิกสันส่งมอบบันทึกเสียง เพื่อใช้ในการสืบสวน แต่ นิกสันได้ปฏิเสธที่จะมอบให้กับศาล และสุดท้าย ริชาร์ด นิกสัน เลือก "ลาออก" ก่อนที่เขาจะถูก กระบวนการ Impeachment ในปี 1974
.
คดีวอเตอร์เกตนั้น หากจะมองว่า ริชาร์ด นิกสัน และผู้ใกล้ชิด ซึ่งกระทำการโดยผิดกฎหมายเพื่อให้มีชัยเหนือคู่แข่งทางการเมือง และชนะการเลือกตั้ง เพราะเป็นการละเมิดเสรีภาพของคนอื่นๆ ด้วยการดักฟัง เป็นเรื่องสะเทือนศรัทธาชาวอเมริกันต่อประธานาธิบดีมากที่สุด เพราะมันทำลายภาพทุกอย่างสหรัฐพยายามสร้างขึ้นมา ไม่ว่าเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน ตลอดจนระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ภาพยนตร์ที่พูดถึงริชาร์ด นิกสัน
.
เรื่องราวของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน สุดอื้อฉาวนั้น เคยถูกฮอลลิวู้ดเอามาสร้างเป็นภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง แต่ที่โดดเด่นที่สุด คงเป็นเรื่อง Nixon ในปี 1995 จากผลงานการกำกับของโอลิเวอร์ สโตน โดย แอนโธนี ฮอปกิ้น รับบทเป็นประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน
ส่วนในปี 2008 ก็มีภาพยนตร์ Frost/Nixon จากผลงานการกำกับของ รอน ฮาเวิร์ด ที่พูดถึงการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ในปี 1977 ภายหลังจากที่นิกสันลาออกแล้ว โดยเป็นการสืบค้นข้อมูลและลวงความลับอันสุดยอดของนักข่าว นักสัมภาษณ์อย่างเดวิด ฟรอสต์ David Frost ของอังกฤษ และลูกล่อลูกชนของนักข่าวในการสัมภาษณ์บุคคลระดับโลกที่มีแผลมลทินอย่างนิกสัน