500 อภิมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก ร่ำรวยขึ้น 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว

500 มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก สร้างกำไรรวมกันมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ (33.24 ล้านล้านบาท) ในปีที่แล้ว ตามดัชนีมหาเศรษฐีของบลูมเบิร์ก (Bloomberg)

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 1.18 แสนล้านดอลลาร์ (3.92 ล้านล้านบาท) ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน องค์การสหประชาชาติประเมินว่าประชาชน 150 ล้านคนตกอยู่ในความยากจนในปี 2021

ผู้ได้กำไรรายใหญ่อื่นๆ ในกลุ่มมหาเศรษฐี: เจ้าของสินค้าหรูหรา LVMH ชาวฝรั่งเศส "เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์" (Bernard Arnault) มีรายได้เพิ่มขึ้น 6.27 หมื่นล้านดอลลาร์ (2 ล้านล้านบาท) และเพื่อนคู่หูผู้ก่อตั้ง Google อย่าง "แลร์รี่ เพจ" (Larry Page) และ "เซอร์เกย์ บริน" (Sergey Brin) ต่างมีรายได้เพิ่มขึ้น 4.7 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.56 ล้านล้านบาท) และ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ (1.49 ล้านล้านบาท) ตามลำดับ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• 10 อันดับ มหาเศรษฐีโลกประจำปี 2021 อีลอน มัสก์ ครองเบอร์ 1 ของโลก
• บริษัท Evergreen จ่ายโบนัสให้พนักงานสูงสุดถึง 40 เดือน แม้เจอวิกฤตคลองสุเอซ
• 6 ม.ค. 1955 วันเกิด โรวาน แอตกินสัน หรือ มิสเตอร์บีน Mr. Bean ป๊อปคัลเจอร์อังกฤษ

ปี 2021 ถือเป็นปีที่หนักหนาสาหัสของ "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" (Mark Zuckerberg) คล้ายฝันร้ายของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี แต่เขายังคงร่ำรวยขึ้นประมาณ 25,000 ล้านดอลลาร์ (8.3 แสนล้านบาท)

เท่าที่ปี 2021 จะถูกจดจำในฐานะปีของคนงาน ต้องขอบคุณค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและความพยายามในการรวมสหภาพแรงงานที่ได้รับแรงหนุนจากตลาดแรงงานที่ตึงตัว การเพิ่มขึ้นทางดาราศาสตร์โดย 0.001% ของโลก ตอกย้ำช่องว่างความมั่งคั่งระหว่างคนงานกับผู้บริหารและ ผู้ถือหุ้นที่พวกเขาให้บริการ

ปี 2021 เป็นปีที่ร่ำรวยติดต่อกันเป็นปีที่ดี ครั้งแล้วครั้งเล่า วอลล์สตรีทขจัดความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ คอขวดในห่วงโซ่อุปทาน และรูปแบบใหม่ๆ ของโควิด-19 เพื่อรักษาตลาดหุ้นให้คึกคัก ในด้านนั้น คนรวยเป็นหนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งไถเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดการเงินทุกเดือนโดยที่ยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ศูนย์ ซึ่งเป็นนโยบายการเงินที่หลวมมากซึ่งออกแบบมาเพื่อให้เงินสดเคลื่อนไหวในตลาดการเงิน

การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในปี 2020 ความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวทำให้เกิดหุ้นโบนันซ่าในปี 2020 และ 2021 แต่มาตรการทางด้านการเงินที่หอมหวานของ FED กำลังจะหยุดให้บริการในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 (Standard and Poor's 500: S&P 500) เพิ่มขึ้นเกือบ 27% ในปีที่แล้ว ขณะที่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average) เพิ่มขึ้น 19% และ แนสแดค (National Association of Securities Dealers Automated Quotations: NASDAQ) ปิดท้ายปีเพิ่มขึ้น 21%

การประเมินมูลค่าสินทรัพย์อื่นๆ เช่น คริปโตเคอเรนซี่ สินค้าโภคภัณฑ์และทรัพย์สินก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกันซึ่งเป็นการหนุนเงินกองทุนของผู้มั่งคั่งที่ร่ำรวย

จากข้อมูลของ Bloomberg มูลค่าสุทธิรวมกันของคน 500 คนในดัชนีมหาเศรษฐีขณะนี้เกิน 8.4 ล้านล้านดอลลาร์ (279.15 ล้านล้านบาท) นั่นเป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของประเทศใด ๆ ในโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกาและจีน

ตลอดทั้งปี ข้อเสนอของ ส.ส.อเมริกัน เรื่องภาษีมหาเศรษฐีถูกเย้ยหยัน และไม่น่าแปลกใจเลยที่บรรดามหาเศรษฐีเช่น อีลอน มัสค์ ซีอีโอของเทสลาซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้จ่ายภาษีเงินได้เพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย และ บริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าหลายล้านเหรียญในปัจจุบันนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลบางส่วนได้รับการกล่าวขานโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อต้านการเก็บภาษีจากคนรวยที่ร่ำรวยเพื่อสร้างสังคมที่แข็งแกร่งขึ้น เครือข่ายความปลอดภัยในอเมริกา

นับตั้งแต่การแพร่ระบาด มหาเศรษฐีของอเมริกาได้เห็นโชคชะตาโดยรวมของพวกเขาเพิ่มขึ้นมากกว่า 70% เป็นมากกว่า 5 ล้านล้านเหรียญ ตามรายงานของ Americans for Tax Fairness และ Institute for Policy Studies Program on Inequality ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลของ Forbes

พรรคเดโมแครตโต้แย้งว่าโชคลาภของมหาเศรษฐีเพียงคนเดียวในช่วงสองปีที่ผ่านมาก็เพียงพอแล้วที่จะจ่ายสำหรับแผนโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมของประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่กฎหมายภาษีของมหาเศรษฐีนั้นถึงแก่กรรมเมื่อมาถึงในฤดูใบไม้ร่วงนี้ เมื่อวุฒิสมาชิกโจ มันชิน แสดงความกังวลเกี่ยวกับการลงโทษ "ผู้คนในสตราโตสเฟียร์"