CDC ชี้ โควิดโอไมครอน ระบาดดีกว่าโควิดเดลต้า 3 เท่า

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (US Centers for Disease Control and Prevention: CDC) เปิดเผยว่า โควิดโอไมครอน (โควิดโอมิครอน) สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าโควิดสายพันธุ์เดลต้าถึง 3 เท่า

CDC ได้รวมการประมาณการไว้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับปรุงแนวทางปฏิบัติในการแยกโรคหลังจากการทดสอบโควิด-19 เป็นบวก หรือการกักตัวหลังจากได้รับเชื้อ

"ข้อมูลเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าโควิดโอไมครอน สามารถแพร่เชื้อได้มากกว่าโควิดเดลต้าถึง 3 เท่า" CDC ระบุ

เนื่องด้วยในปัจจุบัน มาตรการกักตัวได้รับการผ่อนผันให้มีช่วงระยะเวลาที่สั้นลง แนะนำว่า ยังควรสวมหน้าหน้ากากอย่างต่อเนื่องให้เป็นปกติ และควรกักตัวอย่างน้อยเป็นเวลา 5 วัน CDC กล่าวเสริม

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :

• โนวัค โยโควิช ได้รับการยกเว้น ไม่ต้องฉีดวัคซีน แต่ลุยออสเตรเลียนโอเพ่นได้
• เช็ก 55 จังหวัด พบ "โควิดโอไมครอน" ระบาด กรุงเทพฯ-กาฬสินธุ์-ชลบุรีหนักสุด
• เช็กเลย 10 จังหวัดติดโควิด-19 สูงสุด หลายพื้นที่น่าเป็นห่วง

"การสร้างแบบจำลองข้อมูลจากสหราชอาณาจักรตอกย้ำถึงความสำคัญของการใช้หน้ากาก โดยเฉพาะช่วงเวลา 5 วันหลังจากการทดสอบเป็นบวก ประมาณ 31% ของผู้คนยังคงติดเชื้อ" CDC กล่าวอ้างอิงการศึกษาที่โพสต์ออนไลน์เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.

"การใช้หน้ากากและกลยุทธ์การป้องกันหลายชั้น เช่น การฉีดวัคซีนและวัคซีนบูสเตอร์โดสที่แนะนำทั้งหมด การเว้นระยะห่าง การตรวจคัดกรอง และการระบายอากาศที่ดีขึ้น เป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันโควิด-19 และลดการแพร่เชื้อ" CDC กล่าวต่อ

CDC ได้อ้างถึง ผลการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฮอกไกโดของญี่ปุ่น ที่ตีพิมพ์เรื่อง การประมาณการการแพร่ระบาด ลงในวารสารการแพทย์ไวรัสวิทยา

โดยได้ทำการศึกษา จำนวนผู้ป่วยโควิดโอไมครอนที่ได้รับการยืนยันในเดนมาร์กกว่า 758 ราย โดยได้พัฒนาวิธีการคำนวณการแพร่เชื้อของโควิดโอไมครอนตามจำนวนครั้งที่ตรวจพบในช่วงระยะเวลาหนึ่ง

"เราได้ประเมินจำนวนการแพร่ระบาดของโควิดโอไมครอนที่มีประสิทธิภาพ (ทันที) ซึ่งมากกว่าของโควิดเดลต้าถึง 3.19 เท่าภายใต้สภาวะทางระบาดวิทยาเดียวกัน" พวกเขาเขียนไว้ในรายงาน

"ในทางทฤษฎี ความได้เปรียบมหาศาลของการแพร่เชื้ออาจเกิดจากปัจจัยอิสระสองประการ (i) การถ่ายทอดของโควิดโอไมครอน ที่อยู่ภายในตัวมากกว่าเมื่อเทียบกับของโควิดเดลต้า และ (ii) ความสามารถที่สำคัญของโควิดโอไมครอนในการหลบหนีจากภูมิคุ้มกันระดับประชากรที่มีอยู่โดยธรรมชาติหรือ โดยการฉีดวัคซีน" ทีมมหาวิทยาลัยฮอกไกโด กล่าวเสริม

การศึกษาในสหราชอาณาจักรที่โพสต์บนเซิร์ฟเวอร์ออนไลน์ MedRxiv ดำเนินการโดยหน่วยงานความมั่นคงด้านสุขภาพของสหราชอาณาจักร (UK Health Security Agency) และเป็นการศึกษาแบบจำลองที่ทำขึ้นเพื่อสนับสนุนการปล่อยตัวก่อนหน้านี้จากการแยกตัว

ตารางหนึ่งในกระดาษนั้นแสดงให้เห็นว่า 31% ของผู้คนจะยังคงติดเชื้อในวันที่ห้าหลังการทดสอบ ในวันที่หกคือ 22% และในวันที่เจ็ดคือ 16% "ระยะเวลาการแยกกัก 10 วันในปัจจุบันส่งผลให้มีการปล่อยประชากร 5% ที่ติดเชื้อออกจากการแยกตัวในขณะที่ยังคงติดเชื้ออยู่" นักวิจัยเขียน พวกเขาสนับสนุนช่วงเวลาการแยกตัวเจ็ดวัน