เช็กเลย! 33 จังหวัด พบ "โอไมครอน" ระบาด กรุงเทพฯ-กาฬสินธุ์-ภูเก็ตมากสุด

 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวในการแถลงข่าวอัปเดตสายพันธุ์  "โอไมครอน" ของกระทรวงสาธารณสุข ว่า

 ในขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าสายพันธุ์ "โอไมครอน" น่าจะแพร่เชื้อได้เร็ว แต่ว่าความรุนแรงอาจจะไม่มากนัก เป็นเรื่องที่อาจจะต้องติดตาม ขณะนี้มีข้อมูลรายงานมาอย่างน้อย 108 ประเทศ และในสหรัฐอเมริกา ครบทุกรัฐ ที่มีการตรวจพบการติดเชื้อ "โอไมครอน" เกิดขึ้น และในอเมริกาอาการติดเชื้อทะยานขึ้นไประดับ 2 แสน  ตัวสายพันธุ์ย่อย ยังเหมือนเดิมยังเป็น BA.1 2 3 ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นBA.1 นี่คือข้อมูลที่รายงานรวบรวมจากการตรวจสายพันธุ์ทั่วโลก พบว่า44,153 ราย ก็ยังเป็น BA.1 ก็คือตัวดั้งเดิมที่พบตั้งแต่แรก ส่วนที่กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ย่อยลงไป มีเล็กน้อย BA.2 มี 45 และ BA.3 มี 14 

 สำหรับในประเทศไทย ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดให้มีคนเดินทางเข้ามาในประเทศ และตรวจสายพันธุ์มาโดยตลอด ภาพรวมของการตรวจสายพันธุ์ ประมาณ 8,000 ตัวอย่าง พบ "โอไมครอน" สะสมตั้งแต่รายแรกที่พบในประเทศไทย เมื่อ 2 สัปดาห์คือ 740 ราย ซึ่งถ้าเทียบกับภาพรวมสะสมมาตั้งแต่ต้นคือประมาณ 8-9 % พบในเกือบทุกเขตสุขภาพยกเว้น เขต 2 เขตเดียว โดยเขต 2 มี 5 จังหวัด คือพิษณุโลก ,อุตรดิตถ์ ,เพชรบูรณ์ ,สุโขทัย ,ตาก สำหรับเขตอื่นที่พบมากที่สุด ที่อยู่ในกรุงเทพฯ เขต 13 เนื่องจากเราตรวจในกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก  รองลงมาเป็นเขต 7 ก็คือขอนแก่น ,กาฬสินธุ์ ,มหาสารคาม ที่มีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้น ตัวเลขจึงค่อนข้างมาก อีกเขตที่เริ่มพบคือ เขต 11 ภาคใต้ มีภูเก็ต , สมุย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กรมวิทย์ฯ เผยไทยพบผู้ป่วย "โอไมครอน" แล้ว 739 ราย ติดเชื้อในประเทศ 251 ราย

• หมอธีระ เผยช่วงปีใหม่ จะเป็นตัวกำหนดความรุนแรงการระบาดของ "โอไมครอน" ในไทย

• อาการโควิด "โอไมครอน เช็กเลย 8 อย่าง มีไข้มากสุด คล้ายเป็นหวัด

ทั้งนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าสัดส่วนของ "โอไมครอน" เพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วๆ แต่ถ้ามองจริงๆในช่วง 2 วันที่ผ่านมาวันที่ 27-28 ธ.ค. มีการตรวจพบเชื้อ "โอไมครอน" ประมาณ 200 กว่าราย แต่ขอย้ำว่าพื้นที่ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงเป็นเชื้อเดลต้า 

 ส่วนกลุ่มผู้เดินทางมาจากจากต่างประเทศชัดเจนว่าการตรวจในกลุ่มนี้บอกข้อเท็จจริงว่า วันนี้คนที่เข้าในประเทศ เราเจอคนที่เป็นบวกมีสัดส่วนของ "โอไมครอน" ประมาณ 75 % หมายความว่ามันเยอะขึ้น ก็ยังจะต้องจับตากลุ่มนี้เป็นพิเศษ

 สำหรับพื้นที่ที่พบเชื้อโอไมครอน พบใน 33 จังหวัดพบว่ามีอย่างน้อย 1 รายพบในเกือบทุกเขตสุขภาพยกเว้นเขตสุขภาพที่ 2 เขตเดียว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศและมีผู้ที่สัมผัสเสี่ยงในประเทศอยู่บ้าง กรณีของผู้ที่ติดเชื้อภายในประเทศ ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวโยงกับที่เดินทางมาจากต่างประเทศ

โดยเฉพาะคลัสเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดก็คือที่กาฬสินธุ์ กว่า 200 ราย แล้วข้ามจังหวัดไปเช่นกรณี 4 รายที่ลำพูนสัมผัสมาจากที่เดียวกันที่กาฬสินธุ์ รวมถึงจังหวัดในแถบใกล้เคียง มีผู้ที่ติดเชื้อไปมากพอสมควร

 ทั้งนี้พบมี 19 จังหวัดเป็นการติดเชื้อในประเทศ แต่ผูกโยงกับคนที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ สรุปได้ว่าในผู้ติดเชื้อโอไมครอนทั้งหมด 740 รายเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 489 ราย เป็นผู้ที่ติดเชื้อภายในประเทศ 251 ราย 

รายชื่อ 33 จังหวัด ที่พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนระบาด

1. กรุงเทพ 277 ราย
2. กาฬสินธุ์ 121 ราย
3. ภูเก็ต 92 ราย
4. ร้อยเอ็ด 50 ราย
5. มหาสารคาม 42 ราย
6. สมุทรปราการ 37 ราย
7. นนทบุรี 22 ราย
8. สุราษฎร์ธานี 19 ราย
9. ชลบุรี 18 ราย
10. ขอนแก่น 12 ราย
11. ลำพูน 4 ราย
12. หนองคาย 4 ราย
13. อุบลราชธานี 4 ราย
14. ปัตตานี 4 ราย
15. ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย
16. อุดรธานี 3 ราย
17. สุรินทร์ 3 ราย
18. กระบี่ 3 ราย
19. เชียงใหม่ 2 ราย
20. อยุธยา 2 ราย
21. เลย 2 ราย
22. นครราชสีมา 2 ราย
23. เชียงราย 1 ราย
24. ลำปาง 1 ราย
25. พิจิตร 1 ราย
26. นครปฐม 1 ราย
27. สระแก้ว 1 ราย
28. หนองบัวลำพู 1 ราย
29. ชัยภูมิ 1 ราย
30. บุรีรัมย์ 1 ราย
31. มุกดาหาร 1 ราย
32. ยโสธร 1 ราย
33. สงขลา 1 ราย