อธิบดีกรมวิทย์ เผยพบโควิดโอไมครอน 3 สายพันธุ์ย่อย และแพร่เชื้อได้มากกว่าทุกสายพันธุ์ ผลตรวจ RT-PCR ไม่พอ แนะผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มเกินระยะเวลาที่กำหนด ให้เข้าฉีดบูสเตอร์โดส (เข็ม3) เพื่อลดการติดเชื้อรุนแรง
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และนายแพทย์จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 และโควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน หรือ โอมิครอน (Omicron) วันนี้ (20 ธ.ค. 64) ว่า ในขณะนี้ทั่วโลกพบโควิดโอไมครอน มี 3 สายพันธุ์ย่อยคือ BA.1, BA.2 และล่าสุด BA.3 โดยสายพันธุ์ย่อย BA.1 เป็นสายพันธุ์ที่พบมากและระบาดในขณะนี้ ขณะที่ในประเทศไทยผู้ติดเชื้อโควิดโอไมครอนแล้ว 63 ราย
สถานการณ์ความรุนแรงโควิดโอไมครอน ในขณะนี้ทางวิทยาศาสตร์ยังไม่ยืนยันชัดเจน แต่ข้อมูลค่อนข้างแน่ชัดว่าการระบาดของเชื้อโอไมครอน แพร่เชื้อได้มากกว่าทุกสายพันธุ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ภาพเปรียบเทียบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างๆ
-สายพันธุ์อู่ฮั่น ผู้ติดเชื้อ 1 คน แพร่เชื้อไปได้ 2.5 คน
-สายพันธุ์เดลด้า ผู้ติดเชื้อ 1 คน แพร่เชื้อไปได้ 6.5 คน
-สายพันธุ์โอไมครอน ผู้ติดเชื้อ 1 คน แพร่เชื้อไปได้ 8.45 คน
ทั้งนี้สัดส่วนของผู้ติดเชื้อ โควิดโอไมครอนสัดส่วนในประเทศเพิ่มขึ้น 3%กว่า จากสัปดาห์ที่แล้ว 1%กว่า โดยผู้ที่เดินทางเข้าประเทศแล้วตรวจ RT-PCR ที่ติดเชื้อโควิด-19 พบ 1ใน4 เป็นสายพันธุ์โอไมครอน ดังนั้นโครงการ Test & Go จะมีการพิจารณาทบทวนใหม่และจะกลับมาใช้มาตรการกักตัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการฉีดวัคซีนบูสเตอร์ มีประสิทธิผลค่อนข้างดี จึงอยากให้ผู้ที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มเกินระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ให้เข้าฉีดบูสเตอร์โดส (เข็ม3) เพื่อลดการติดเชื้อรุนแรง