"หมอยง" เผย "โอไมครอน" แพร่กระจายได้ง่าย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อย แต่ปริมาณไวรัสในลำคอมาก ยังไม่มีผู้ป่วยถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต เป็นไปตามวิวัฒนาการของไวรัส ในการปรับตัวให้ลดความรุนแรงของโรคลง
นับตั้งแต่เริ่มพบ และวินิจฉัยสายพันธุ์ โอไมครอน ได้ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ในผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน องค์การอนามัยโลก ประกาศเป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวังในวันที่ 26 พฤศจิกายน
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ประเด็น โควิดสายพันธุ์ โอไมครอน โดยระบุว่า
ความจริงโอไมครอนนี้ ได้หลบซ่อนกระจายไปหลายท้องที่ เพราะไม่ได้มีการตรวจสายพันธุ์ ในผู้ป่วยทุกราย จึงไม่แปลก ในปัจจุบันพบมากกว่า 20 ประเทศ และเริ่มพบในผู้ที่ไม่เคยเดินทางไปแอฟริกาตอนใต้ Local transmission) เช่นในประเทศนอร์เวย์ ก็มีการระบาดภายในประเทศเกิดขึ้น อเมริกาเอง ที่มีการตรวจสายพันธุ์มาก ก็พบในประชากร ที่ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ แสดงถึงการระบาดในท้องที่แล้ว
การตรวจสายพันธุ์ ไม่สามารถตรวจได้ทุกราย ทุกแห่ง เพราะมีขีดจำกัด ถ้าตรวจน้อยก็จะไม่พบ
โอไมครอน พบได้แม้กระทั่งในผู้ป่วยที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว การติดเชื้อซ้ำ จากรายงานมาจนถึงขณะนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการน้อย แต่ปริมาณไวรัสในลำคอมีปริมาณมาก เช่น ผู้ป่วยในฮ่องกง มีปริมาณไวรัสค่อนข้างสูง และได้รับวัคซีนมาก่อน และสามารถติดต่อไปยังห้องตรงข้ามได้ เหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดในประเทศไทย ในระยะแรกของสายพันธุ์เดลต้า ที่บุคคล 2 คน ได้มากักตัวในโรงแรม อยู่ชั้นเดียวกัน และก็ไม่มีหลักฐานที่จะยืนยันที่แน่ชัดได้ว่าโรคนี้ ติดต่อผ่านทางอากาศ ที่ลอยไปมาแน่นอน การสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ บางครั้งเป็นการยากที่จะบอก อาจจะมีคนกลาง สัมผัสเป็นสื่อ ข้ามไปมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• หมอยง เผยโควิดโอไมครอน ติดง่ายแพร่กระจายได้เร็ว เชื่อมาแทน สายพันธุ์เดลตา
• "หมอยง" แนะใช้ "วัคซีนลูกผสม" อาจส่งผลดีต่อการรับมือสายพันธุ์ "โอไมครอน"
• "หมอยง" แจง 10 ข้อสงสัย โควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ติดง่ายแพร่เร็วจริงหรือไม่
โอไมครอน แพร่กระจายได้ง่าย ระบาดได้ง่าย จึงพบได้อย่างรวดเร็ว และกระจายไป ในหลายทวีป ยังไม่มีหลักฐานว่า อาการที่เกิดจากสายพันธุ์นี้ จะรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิม เดลต้า ถ้าการแพร่กระจายได้เร็วกว่า สายพันธุ์นี้จะเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลต้า ในเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
จากข้อมูลถึงปัจจุบัน รวมทั้งที่มีการระบาดนอกแอฟริกาตอนใต้ จะเห็นว่าผู้ป่วยครึ่งหนึ่งไม่มีอาการ และอีกประมาณครึ่งหนึ่งมีอาการน้อย ยังไม่มีผู้ป่วยที่มีอาการมาก ถึงต้องนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต
การฉีดวัคซีนให้มีภูมิต้านทาน แล้วสายพันธุ์โอไมครอนระบาด มีอาการน้อย โรคไม่รุนแรง ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต และจะเป็นการกระตุ้นภูมิต้านทาน ให้สูงขึ้นและอยู่นาน ก็จะเป็นไปตามวิวัฒนาการของไวรัส ในการปรับตัวให้ลดความรุนแรงของโรคลง เหมือน โคโรน่าไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจในเด็ก ที่พบอยู่ทุกวันนี้ ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุเลย